หุ้นกู้ออกใหม่ เดือนสิงหาคม-กันยายน 2566 คนทั่วไปซื้อได้ ให้ดอกเบี้ยสูง

          หุ้นกู้ออกใหม่ หรือตราสารหนี้ออกใหม่ เดือนสิงหาคม-กันยายน 2566 ที่ประชาชนทั่วไปสามารถจองซื้อได้ มีชุดไหนบ้างนะ
หุ้นกู้

         หุ้นกู้ เป็นการลงทุนอีกวิธีหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างแน่นอน เพราะผู้ออกหุ้นกู้ระบุอัตราดอกเบี้ยมาอย่างชัดเจน ทำให้หลายคนที่มีเงินเย็นสนใจอยากลงทุนหุ้นกู้ดูบ้าง อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจควักเงินมาลงทุน ควรศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ให้เข้าใจเสียก่อน ซึ่งสามารถอ่านได้จากบทความนี้ และเราก็ได้รวบรวมรายชื่อหุ้นกู้ออกใหม่ ที่เปิดให้คนทั่วไปสามารถจองซื้อได้ในเดือนสิงหาคม-กันยายน 2566 มาบอกกันด้วย

หุ้นกู้คืออะไร ซื้อยังไง ?

          หุ้นกู้ (Corporate Bond หรือ Debenture) เป็นตราสารหนี้ที่บริษัทเอกชนเปิดขายเพื่อระดมทุนนำไปใช้ในกิจการต่าง ๆ ของบริษัท เช่น ลงทุนขยายกิจการ ซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ หรือนำไปชำระหุ้นกู้รุ่นเดิมที่ใกล้ครบกำหนด โดยบริษัทจะจ่ายดอกเบี้ยให้ตามที่ตกลงไว้ตลอดช่วงอายุของหุ้นกู้ และชำระเงินต้นคืนในวันที่ครบกำหนดอายุของหุ้นกู้

          สำหรับหุ้นกู้ของประเทศไทยนั้น จะมีมูลค่าหน่วยละ 1,000 บาท และส่วนใหญ่จะกำหนดให้ลงทุนขั้นต่ำ 100 หน่วย หรือ 100,000 บาท โดยติดต่อซื้อได้ที่ธนาคารหรือบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายตามประกาศของหุ้นกู้แต่ละบริษัท อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีการเปิดจำหน่ายหุ้นกู้ดิจิทัลที่บางรุ่นให้เริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท

หุ้นกู้มีกี่ประเภท ?

          หุ้นกู้จะมีอยู่หลายลักษณะ ได้แก่

  • หุ้นกู้ชนิดมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หมายถึง หุ้นกู้นี้มีสินทรัพย์ต่าง ๆ ค้ำประกันอยู่ ถ้าเกิดปัญหาที่บริษัทไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยหรือเงินต้นให้เราได้ เราจะมีสิทธิ์ในหลักประกันนั้น

  • หุ้นกู้ชนิดที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน คือ หุ้นกู้ที่ไม่มีสินทรัพย์ใด ๆ วางไว้ กรณีบริษัทที่ออกหุ้นกู้ประสบปัญหาทางการเงินจะต้องแบ่งสินทรัพย์กับเจ้าหนี้รายอื่นตามสิทธิ์และสัดส่วนที่ถือ

  • หุ้นกู้ด้อยสิทธิ คือ ในกรณีที่ผู้ออกตราสารหนี้ล้มละลายหรือเลิกกิจการ ผู้ที่ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิจะมีสิทธิ์ได้รับคืนเงินต้นหลังจากผู้ถือหุ้นที่มีประกัน กล่าวว่าอยู่ในอันดับที่ด้อยกว่าเจ้าหนี้สามัญรายอื่น ๆ

  • หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ คือ ในกรณีที่ผู้ออกตราสารหนี้ล้มละลายหรือเลิกกิจการ ผู้ที่ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิจะมีสิทธิ์ได้รับคืนเงินต้นในอันดับที่ทัดเทียมกับเจ้าหนี้สามัญรายอื่น ๆ และสูงกว่าผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิ

          โดยหากจัดอันดับสิทธิ์ในการเรียกร้องสินทรัพย์ หรือการได้รับคืนเงินต้นจากผู้ออกตราสารเมื่อกิจการล้มละลาย จะเป็นดังนี้

     ลำดับที่ 1 หุ้นกู้มีประกัน

     ลำดับที่ 2 หุ้นกู้ไม่มีประกัน

     ลำดับที่ 3 หุ้นกู้ด้อยสิทธิ

     ลำดับที่ 4 หุ้นบุริมสิทธิ

     ลำดับที่ 5 หุ้นสามัญ

ต้องพิจารณาอะไรบ้างเมื่อจะลงทุนหุ้นกู้

หุ้นกู้

บริษัทน่าเชื่อถือหรือไม่

          การซื้อหุ้นกู้คือการให้บริษัทกู้ยืมเงิน ดังนั้นจึงควรดูให้แน่ใจก่อนว่าบริษัทมีความมั่นคงมากน้อยแค่ไหน ฐานะการเงินเป็นอย่างไร จะมีเงินจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นคืนให้เราได้หรือไม่ โดยสามารถพิจารณาได้จากอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ที่จัดทำโดยบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating Agency) ซึ่งอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB- ขึ้นไปจนถึง AAA จัดเป็นหุ้นกู้ที่อยู่ในระดับน่าลงทุน (Investment Grade) เพราะออกโดยบริษัทที่มั่นคง ผลประกอบการดี มีโอกาสที่จะไม่ได้รับเงินต้นคืนค่อนข้างต่ำ

          แต่หากเป็นหุ้นกู้ที่มีเรตติ้งตั้งแต่ BB+ ลงมา จนถึง D จะเป็นหุ้นกู้ในกลุ่มต่ำกว่าระดับลงทุน (Non-Investment Grade) นอกจากนี้ที่ต้องระวังในการลงทุนคือ หุ้นกู้ในกลุ่มไม่มีเรตติ้ง (Unrated) ที่แม้จะให้ดอกเบี้ยสูงกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะไม่ได้เงินลงทุนคืนกลับมาสูงตามไปด้วย

อายุของหุ้นกู้นานแค่ไหน

          หุ้นกู้จะกำหนดอายุเอาไว้ เช่น 2 ปี, 3 ปี 1 วัน, 5 ปี เป็นต้น เมื่อครบกำหนดบริษัทจะคืนเงินต้นให้กับผู้ลงทุน ซึ่งควรเลือกลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอายุสอดคล้องกับระยะเวลาที่ต้องการลงทุน แต่ก็มีหุ้นกู้ประเภทที่มีเงื่อนไขสามารถไถ่ถอนก่อนกำหนดได้อยู่ 2 กรณี คือ บริษัทสามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด หรือการที่ผู้กู้ขอคืนเงินกู้ก่อนครบกำหนด และอีกกรณีคือ ผู้ถือหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด หรือการที่ผู้ให้กู้ขอเงินกู้คืนก่อนครบกำหนด

ผลตอบแทน/ดอกเบี้ยเป็นเท่าไร

         หุ้นกู้จะจ่ายดอกเบี้ยอยู่ 2 รูปแบบหลัก ๆ คือ แบบกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ตายตัวตลอดระยะเวลาของหุ้นกู้ เช่น หุ้นกู้อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.50% ต่อปี กับแบบกำหนดเป็นขั้นบันได ซึ่งปกติจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นตามระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น เช่น หุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-2 เท่ากับ 2% ต่อปี ปีที่ 3-5 เท่ากับ 3% ต่อปี และปีที่ 6 เป็นต้นไป เท่ากับ 4% ต่อปี ทั้งนี้ การกำหนดอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นประเภทของหุ้นกู้ หรืออายุของหุ้นกู้ นอกจากนี้ดอกเบี้ยที่ได้รับจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ด้วย

ใครมีสิทธิ์จองซื้อ

          บริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะเสนอขายหุ้นกู้ตามกลุ่มนักลงทุน ดังนั้นก่อนซื้อต้องศึกษาให้ดีว่าเรามีสิทธิ์ซื้อหรือไม่ โดยแบ่งกลุ่มผู้ลงทุนออกเป็น 4 ประเภท คือ

          1. ผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจง (Private Placement : PP10) คือ การขายตราสารหนี้ให้กับผู้ลงทุนไม่เกิน 10 ฉบับ หรือ 10 ราย ซึ่งผู้ลงทุนจะต้องเป็นผู้ลงทุนสถาบัน กรรมการ ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ถือหุ้นเกิน 10% และบริษัทในเครือเท่านั้น

          2. ผู้ลงทุนสถาบัน (Institutional Investor : II) เช่น ธนาคาร บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ กองทุน บริษัทประกัน

          3. ผู้ลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth : HNW) คือ บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่มีสินทรัพย์ รายได้ต่อปี หรือลงทุนในหลักทรัพย์ตามที่กำหนด โดยกรณีเป็นบุคคลธรรมดา (รวมคู่สมรสตามกฎหมาย) จะใช้เกณฑ์ดังนี้ (เข้าเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่ง)

  • มีรายได้ต่อปีตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป หรือ

  • มีเงินลงทุนในหลักทรัพย์ตั้งแต่ 8 ล้านบาทขึ้นไป ถ้ารวมเงินฝากจะเป็น 15 ล้านบาทขึ้นไป หรือ

  • มีสินทรัพย์สุทธิตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไป ไม่รวมที่อยู่พักอาศัยประจำ 

          แต่ในกรณีที่มีฐานะทางการเงินไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด จะพิจารณาคุณสมบัติด้านความรู้และประสบการณ์ในการลงทุนเพิ่มเติม โดยหากเข้าเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ก็สามารถเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ได้ 

  • มีประสบการณ์การลงทุนย้อนหลังในสินทรัพย์เสี่ยงที่ต้องมีการลงทุนเป็นประจำและต่อเนื่อง หรือ

  • มีประสบการณ์การทำงานด้านการบริหารการเงินและการลงทุน หรือ

  • เป็นผู้แนะนำการลงทุนหรือผู้วางแผนการลงทุนที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. หรือ

  • ได้รับวุฒิบัตรที่เกี่ยวกับการลงทุน

          4. ผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering : PO) คือ ประชาชนทั่วไปสามารถซื้อหุ้นกู้ได้

หุ้นกู้ มีความเสี่ยงอะไรบ้าง

หุ้นกู้

          ความเสี่ยงของหุ้นกู้หลัก ๆ นั้นจะมีอยู่ 3 ด้าน คือ

  • ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย : ในกรณีที่อัตราดอกเบี้ยทั่วไปลดลง หุ้นกู้จะมีมูลค่าสูงขึ้น แต่ในทางตรงกันข้าม หุ้นกู้ก็จะมีมูลค่าลดลงเมื่ออัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดสูงขึ้น ทำให้ราคาที่ขายได้อาจมากหรือน้อยกว่าราคาที่ซื้อมา ขึ้นอยู่กับระดับและทิศทางการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย ตรงนี้อาจมีค่าเสียโอกาสที่จะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น

  • ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง : หากลงทุนในระยะยาวมาก ๆ แล้วประสบปัญหาจำเป็นต้องใช้เงินก้อนก่อนหุ้นกู้ครบอายุ ทำให้ต้องนำไปขายที่ตลาดรอง ซึ่งมีราคาลดลงหรืออาจขาดทุนได้

  • ความเสี่ยงด้านเครดิต : การลงทุนหุ้นกู้กับบริษัทที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำจะมีความเสี่ยงสูง เช่น บริษัทเลิกกิจการหรือล้มละลาย จนไม่สามารถชำระหนี้คืนได้ตามที่สัญญา แต่ก็จะมีอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าหุ้นกู้ของบริษัทที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่า

          นอกจากนี้ หากผู้ออกหุ้นกู้ประสบปัญหาทางการเงิน อาจจะไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยหรือคืนเงินต้นให้เราได้ เท่ากับผิดนัดชำระหนี้ (Default) ซึ่งต้องเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องต่อไป

หุ้นกู้ออกใหม่
เดือนสิงหาคม 2566

          ในเดือนสิงหาคม-กันยายน 2566 มีหุ้นกู้บางตัวที่เปิดให้นักลงทุนทั่วไป (PO) สามารถซื้อได้ ดังนี้

1. บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) (SCAP)

หุ้นกู้

ภาพจาก : Thaibma : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย

           บริษัทที่ประกอบธุรกิจให้สินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อเช่าซื้อ เสนอขายหุ้นกู้ 2 ชุด ในเดือนสิงหาคม 2566

  • ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ระยะยาว ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้

  • อายุและอัตราดอกเบี้ย :  

    • อายุ 1 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 4.00% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2568

    • อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.70% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569

  • จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน

  • อันดับความน่าเชื่อถือ : BBB+ แนวโน้มคงที่

  • ระดับความเสี่ยง : 5 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)

  • การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี

  • ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป 

  • ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท

  • วันที่เปิดจอง : 3-4 และ 7 สิงหาคม  2566

  • ช่องทางการขาย : ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส, บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า, บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง

  • ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

2. บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) (S)

หุ้นกู้

ภาพจาก : Thaibma : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย

         บริษัทอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน เสนอขายหุ้นกู้ 1 ชุด ในเดือนสิงหาคม 2566

  • ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ระยะยาว ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้

  • อายุ : 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569

  • อัตราดอกเบี้ย : 5.00% ต่อปี
  • จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน

  • อันดับความน่าเชื่อถือ : BBB แนวโน้มคงที่

  • ระดับความเสี่ยง : 5 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)

  • การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี

  • ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนเป็นการทั่วไป

  • วันที่เปิดจอง : 8-10 สิงหาคม 2566

  • ช่องทางการขาย : ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกสิกรไทย, บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร

  • ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

3. บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC)

หุ้นกู้

ภาพจาก : Thaibma : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย

         เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจประเภทสินเชื่อมาตั้งแต่ปี 2535 โดยเน้นการปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์ ครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อประเภทอื่น ได้แก่ สินเชื่อรถยนต์ทุกประเภท สินเชื่อรถเพื่อการเกษตร สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ สินเชื่อโฉนดที่ดิน รวมทั้งรับทำ พ.ร.บ. เสนอขายหุ้นกู้ 3 ชุด ดังนี้

  • ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ระยะยาว ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้

  • อายุและอัตราดอกเบี้ย :

    • อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.25% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2568

    • อายุ 3 ปี 1 วัน อัตราดอกเบี้ย 4.70% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569

    • อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.80% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2570

  • จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน

  • อันดับความน่าเชื่อถือ : BBB+ แนวโน้มคงที่

  • ระดับความเสี่ยง : 5 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)

  • การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี

  • ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ผู้ลงทุนทั่วไป ผู้ลงทุนสถาบัน (เฉพาะบุคคลธรรมดา)  

  • วันที่เปิดจอง : 21-23 สิงหาคม 2566

  • ช่องทางการขาย : ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส, บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง, บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ

  • ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

หุ้นกู้ออกใหม่
เดือนกันยายน 2566

4. บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (SCGJWD)

หุ้นกู้

ภาพจาก : Thaibma : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย

          บริษัทประกอบธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแบบครบวงจรภายในภูมิภาคอาเซียน โดยแบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท รวมถึงกลุ่มธุรกิจอาหาร ไอทีโซลูชั่น และกลุ่มธุรกิจการลงทุน เสนอขายหุ้นกู้ 2 ชุด ในเดือนกันยายน 2566

  • ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้

  • อายุและอัตราดอกเบี้ย : 

    • อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.76% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2568

    • อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.35% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569

  • จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน

  • อันดับความน่าเชื่อถือ : BBB+ แนวโน้มคงที่

  • ระดับความเสี่ยง : 5 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)

  • การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี

  • ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป 

  • ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท

  • วันที่เปิดจอง : คาดว่า 4-6 กันยายน 2566

  • ช่องทางการขาย : ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกสิกรไทย, บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส, บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ

  • ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์  

5. บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (CPAXT)

หุ้นกู้

ภาพจาก : Thaibma : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย

         บริษัทประกอบธุรกิจค้าส่งภายใต้ชื่อแม็คโคร และธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าโลตัส ซึ่งดำเนินธุรกิจทั้งภายในและต่างประเทศ เสนอขายหุ้นกู้ครั้งแรกในเดือนกันยายน 2566 จำนวน 4 ชุด

  • ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้

  • อายุและอัตราดอกเบี้ย : 

    • อายุ 1 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.04% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2568

    • อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.20% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569

    • อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.55% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2571

    • อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.80% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2573

  • จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 6 เดือน

  • อันดับความน่าเชื่อถือ : A+ แนวโน้มบวก

  • ระดับความเสี่ยง : 3 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)

  • การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี

  • ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป 

  • ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท

  • วันที่เปิดจอง : วันที่ 8 และ 11-12 กันยายน 2566

  • ช่องทางการขาย : ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารยูโอบี, บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร

  • ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

6. บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SAWAD)

หุ้นกู้

ภาพจาก : Thaibma : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย

          บริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรายย่อย ภายใต้เครื่องหมายบริการ "ศรีสวัสดิ์ เงินสด ทันใจ" ออกหุ้นกู้ 4 ชุด ในเดือนกันยายน 2566

  • ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้

  • อายุและอัตราดอกเบี้ย : 

    • อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคาดว่า 4.25-4.40% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2568

    • อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคาดว่า 4.70-4.90% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569

    • อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคาดว่า 4.80-5.00% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2570

    • อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคาดว่า 5.00-5.20% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2571

  • จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน

  • อันดับความน่าเชื่อถือ : BBB+ แนวโน้มคงที่

  • ระดับความเสี่ยง : 5 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)

  • การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี

  • ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป 

  • ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท

  • วันที่เปิดจอง : 12-14 กันยายน 2566

  • ช่องทางการขาย : ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง, บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย), บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย), บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์, บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย), บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย), บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

  • ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์  

7. บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (NOBLE)

หุ้นกู้

ภาพจาก : Thaibma : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย

         บริษัทที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกที่สร้างคอนโดมิเนียมแนวราบออกสู่ตลาด เสนอขายหุ้นกู้ 1 ชุด ต่อประชาชนทั่วไป ในเดือนกันยายน 2566 

  • ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ระยะยาว ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้

  • อายุ : 1 ปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2567

  • อัตราดอกเบี้ย : 4.50% ต่อปี
  • จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน

  • อันดับความน่าเชื่อถือ : BBB แนวโน้มคงที่

  • ระดับความเสี่ยง : 4 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)

  • การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี

  • ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป และ/หรือผู้ลงทุนสถาบัน

  • วันที่เปิดจอง : 15 และ 18-19 กันยายน 2566

  • ช่องทางการขาย : บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง

  • ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

8. บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA)

หุ้นกู้

ภาพจาก : Thaibma : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย

          ผู้ประกอบการด้านพลังงาน โดยมีรายได้มาจากกลุ่มธุรกิจไบโอดีเซล โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และการพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ เสนอขายหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 3 ชุด

  • ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้

  • อายุและอัตราดอกเบี้ย : 

    • อายุ 1 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.20% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2567

    • อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.70% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569

    • อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.10% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2571

  • จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 6 เดือน

  • อันดับความน่าเชื่อถือ : A- แนวโน้มลบ

  • ระดับความเสี่ยง : 3 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)

  • การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี

  • ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป 

  • ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท

  • วันที่เปิดจอง : รอประกาศ

  • ช่องทางการขาย : ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย), บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์, บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)

  • ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์  

           สำหรับใครที่ต้องการทราบรายละเอียดหุ้นกู้รุ่นต่าง ๆ สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ ก.ล.ต. หรือที่ เฟซบุ๊ก ThaiBMA

บทความที่เกี่ยวข้องกับหุ้นกู้

* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 18 กันยายน 2566

ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Thaibma : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (1), (2), (3), (4), (5), (6), (7), (8), (9)เมืองไทยแคปปิตอล 
ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (1), (2), (3), (4), (5), (6), (7), (8)เมืองไทยแคปปิตอลYoutube ThaiBMAChannel

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หุ้นกู้ออกใหม่ เดือนสิงหาคม-กันยายน 2566 คนทั่วไปซื้อได้ ให้ดอกเบี้ยสูง อัปเดตล่าสุด 18 กันยายน 2566 เวลา 11:18:59 106,758 อ่าน
TOP
x close