หุ้นกู้คืออะไร ซื้อยังไง ?
หุ้นกู้ คือ ตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทภาคเอกชน ภาษาอังกฤษเรียกว่า Corporate Bond หรือ Debenture มีจุดประสงค์เพื่อระดมทุนสำหรับใช้ในกิจการต่าง ๆ ของบริษัท เช่น การลงทุนขยายกิจการ หรือซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ เมื่อซื้อหุ้นกู้แล้วผู้ซื้อก็จะมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ ส่วนบริษัทที่ออกหุ้นกู้จะมีฐานะเป็นลูกหนี้ โดยที่บริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะต้องชำระดอกเบี้ยตามที่ตกลงไว้ตลอดช่วงอายุของหุ้นกู้ และชำระเงินต้นคืนในวันที่ครบกำหนดอายุของหุ้นกู้
ในประเทศไทยนั้น หุ้นกู้จะมีมูลค่าหน่วยละ 1,000 บาท และส่วนใหญ่จะกำหนดให้ลงทุนขั้นต่ำ 100 หน่วย หรือ 100,000 บาท โดยติดต่อซื้อได้ที่ธนาคารหรือบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายตามประกาศของหุ้นกู้แต่ละบริษัท
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีการเปิดจำหน่ายหุ้นกู้ดิจิทัลที่สามารถซื้อได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งหุ้นกู้บางรุ่นให้เริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000-5,000 บาท
หุ้นกู้มีกี่ประเภท ?
หุ้นกู้จะมีอยู่หลายลักษณะ ได้แก่
- หุ้นกู้ชนิดมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หมายถึง หุ้นกู้นี้มีสินทรัพย์ต่าง ๆ ค้ำประกันอยู่ ถ้าเกิดปัญหาที่บริษัทไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยหรือเงินต้นให้เราได้ เราจะมีสิทธิ์ในหลักประกันนั้น
- หุ้นกู้ชนิดที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน คือ หุ้นกู้ที่ไม่มีสินทรัพย์ใด ๆ วางไว้ กรณีบริษัทที่ออกหุ้นกู้ประสบปัญหาทางการเงินจะต้องแบ่งสินทรัพย์กับเจ้าหนี้รายอื่นตามสิทธิ์และสัดส่วนที่ถือ
- หุ้นกู้ด้อยสิทธิ คือ ในกรณีที่ผู้ออกตราสารหนี้ล้มละลายหรือเลิกกิจการ ผู้ที่ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิจะมีสิทธิ์ได้รับคืนเงินต้นหลังจากผู้ถือหุ้นที่มีประกัน กล่าวว่าอยู่ในอันดับที่ด้อยกว่าเจ้าหนี้สามัญรายอื่น ๆ
- หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ คือ ในกรณีที่ผู้ออกตราสารหนี้ล้มละลายหรือเลิกกิจการ ผู้ที่ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิจะมีสิทธิ์ได้รับคืนเงินต้นในอันดับที่ทัดเทียมกับเจ้าหนี้สามัญรายอื่น ๆ และสูงกว่าผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิ
โดยหากจัดอันดับสิทธิ์ในการเรียกร้องสินทรัพย์ หรือการได้รับคืนเงินต้นจากผู้ออกตราสารเมื่อกิจการล้มละลาย จะเป็นดังนี้
- ลำดับที่ 1 หุ้นกู้มีประกัน
- ลำดับที่ 2 หุ้นกู้ไม่มีประกัน
- ลำดับที่ 3 หุ้นกู้ด้อยสิทธิ
- ลำดับที่ 4 หุ้นบุริมสิทธิ
- ลำดับที่ 5 หุ้นสามัญ
ต้องพิจารณาอะไรบ้างเมื่อจะลงทุนหุ้นกู้
บริษัทน่าเชื่อถือหรือไม่
การซื้อหุ้นกู้คือการให้บริษัทกู้ยืมเงิน ดังนั้นจึงควรดูให้แน่ใจก่อนว่าบริษัทมีความมั่นคงมากน้อยแค่ไหน ฐานะการเงินเป็นอย่างไร จะมีเงินจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นคืนให้เราได้หรือไม่ โดยสามารถพิจารณาได้จากอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ที่จัดทำโดยบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating Agency) ซึ่งอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB- ขึ้นไปจนถึง AAA จัดเป็นหุ้นกู้ที่อยู่ในระดับน่าลงทุน (Investment Grade) เพราะออกโดยบริษัทที่มั่นคง ผลประกอบการดี มีโอกาสที่จะไม่ได้รับเงินต้นคืนค่อนข้างต่ำ
แต่หากเป็นหุ้นกู้ที่มีเรตติ้งตั้งแต่ BB+ ลงมา จนถึง D จะเป็นหุ้นกู้ในกลุ่มต่ำกว่าระดับลงทุน (Non-Investment Grade) นอกจากนี้ที่ต้องระวังในการลงทุนคือ หุ้นกู้ในกลุ่มไม่มีเรตติ้ง (Unrated) ที่แม้จะให้ดอกเบี้ยสูงกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะไม่ได้เงินลงทุนคืนกลับมาสูงตามไปด้วย
อายุของหุ้นกู้นานแค่ไหน
ผลตอบแทน/ดอกเบี้ยเป็นเท่าไร
ใครมีสิทธิ์จองซื้อ
บริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะเสนอขายหุ้นกู้ตามกลุ่มนักลงทุน ดังนั้นก่อนซื้อต้องศึกษาให้ดีว่าเรามีสิทธิ์ซื้อหรือไม่ โดยแบ่งกลุ่มผู้ลงทุนออกเป็น 4 ประเภท คือ
- ผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจง (Private Placement : PP10) คือ การขายตราสารหนี้ให้กับผู้ลงทุนไม่เกิน 10 ฉบับ หรือ 10 ราย ซึ่งผู้ลงทุนจะต้องเป็นผู้ลงทุนสถาบัน กรรมการ ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ถือหุ้นเกิน 10% และบริษัทในเครือเท่านั้น
- ผู้ลงทุนสถาบัน (Institutional Investor : II) เช่น ธนาคาร บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ กองทุน บริษัทประกัน
- ผู้ลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth : HNW) คือ บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่มีสินทรัพย์ รายได้ต่อปี หรือลงทุนในหลักทรัพย์ตามที่กำหนด โดยกรณีเป็นบุคคลธรรมดา (รวมคู่สมรสตามกฎหมาย) จะใช้เกณฑ์ดังนี้ (เข้าเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่ง)
- มีรายได้ต่อปีตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป หรือ
- มีเงินลงทุนในหลักทรัพย์ตั้งแต่ 8 ล้านบาทขึ้นไป ถ้ารวมเงินฝากจะเป็น 15 ล้านบาทขึ้นไป หรือ
- มีสินทรัพย์สุทธิตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไป ไม่รวมที่อยู่พักอาศัยประจำ
แต่ในกรณีที่มีฐานะทางการเงินไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด จะพิจารณาคุณสมบัติด้านความรู้และประสบการณ์ในการลงทุนเพิ่มเติม โดยหากเข้าเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ก็สามารถเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ได้
- มีประสบการณ์การลงทุนย้อนหลังในสินทรัพย์เสี่ยงที่ต้องมีการลงทุนเป็นประจำและต่อเนื่อง หรือ
- มีประสบการณ์การทำงานด้านการบริหารการเงินและการลงทุน หรือ
- เป็นผู้แนะนำการลงทุนหรือผู้วางแผนการลงทุนที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. หรือ
- ได้รับวุฒิบัตรที่เกี่ยวกับการลงทุน
4. ผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering : PO) คือ ประชาชนทั่วไปสามารถซื้อหุ้นกู้ได้
หุ้นกู้ มีความเสี่ยงอะไรบ้าง
ความเสี่ยงของหุ้นกู้หลัก ๆ นั้นจะมีอยู่ 3 ด้าน คือ
- ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย : ในกรณีที่อัตราดอกเบี้ยทั่วไปลดลง หุ้นกู้จะมีมูลค่าสูงขึ้น แต่ในทางตรงกันข้าม หุ้นกู้ก็จะมีมูลค่าลดลงเมื่ออัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดสูงขึ้น ทำให้ราคาที่ขายได้อาจมากหรือน้อยกว่าราคาที่ซื้อมา ขึ้นอยู่กับระดับและทิศทางการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย ตรงนี้อาจมีค่าเสียโอกาสที่จะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น
- ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง : หากลงทุนในระยะยาวมาก ๆ แล้วประสบปัญหาจำเป็นต้องใช้เงินก้อนก่อนหุ้นกู้ครบอายุ ทำให้ต้องนำไปขายที่ตลาดรอง ซึ่งมีราคาลดลงหรืออาจขาดทุนได้
- ความเสี่ยงด้านเครดิต : การลงทุนหุ้นกู้กับบริษัทที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำจะมีความเสี่ยงสูง เช่น บริษัทเลิกกิจการหรือล้มละลาย จนไม่สามารถชำระหนี้คืนได้ตามที่สัญญา แต่ก็จะมีอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าหุ้นกู้ของบริษัทที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่า
นอกจากนี้ หากผู้ออกหุ้นกู้ประสบปัญหาทางการเงิน อาจจะไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยหรือคืนเงินต้นให้เราได้ เท่ากับผิดนัดชำระหนี้ (Default) ซึ่งต้องเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องต่อไป
หุ้นกู้ออกใหม่ เดือนเมษายน 2566
1. บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (NOBLE)
บริษัทที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกที่สร้างคอนโดมิเนียมแนวราบออกสู่ตลาด เสนอขายหุ้นกู้ 1 ชุด ต่อประชาชนทั่วไป ในเดือนเมษายน 2566
- ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ระยะยาว ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้
- อายุ : 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569
- อัตราดอกเบี้ย : 4.70% ต่อปี
- จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน
- อันดับความน่าเชื่อถือ : BBB แนวโน้มคงที่
- ระดับความเสี่ยง : 5 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
- การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี
- ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป และ/หรือผู้ลงทุนสถาบัน
- ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
- วันที่เปิดจอง : 3-5 เมษายน 2566
- ช่องทางการขาย : ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส, บริษัท หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย), บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง
- ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
2. บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (LOTUSS)
บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด หรือเจ้าของธุรกิจค้าปลีกชื่อดัง "โลตัส" (Lotus's เสนอขายหุ้นกู้จำนวน 5 ชุด แก่บุคคลทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน ในเดือนเมษายน 2566 ดังนี้
- ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้
-
อายุและอัตราดอกเบี้ย :
-
อายุ 1 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.80% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2567
-
อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.20% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569
-
อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.54% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2571
-
อายุ 8 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.83% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2574
-
อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.00% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2576
-
-
จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 6 เดือน
- อันดับความน่าเชื่อถือ : A+ แนวโน้มคงที่
- ระดับความเสี่ยง : 3 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
- การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี
- ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน (ไม่รวมถึงบุคคลธรรมดาที่จองซื้อในฐานะผู้ลงทุนสถาบัน)
- ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
- วันที่เปิดจอง : 17-19 เมษายน 2566
- ช่องทางการขาย : ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารทหารไทยธนชาต, ธนาคารยูโอบี, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร
- ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
หุ้นกู้ออกใหม่ เดือนพฤษภาคม 2566
1. บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SAWAD)
บริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรายย่อย ภายใต้เครื่องหมายบริการ "ศรีสวัสดิ์ เงินสด ทันใจ" ออกหุ้นกู้ 3 ชุด ในเดือนพฤษภาคม 2566
- ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้
-
อายุและอัตราดอกเบี้ย :
-
อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.30% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569
-
อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.50% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2570
-
อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.65% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2571
-
-
จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน
- อันดับความน่าเชื่อถือ : BBB+ แนวโน้มคงที่
- ระดับความเสี่ยง : 5 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
- การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี
- ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนเป็นการทั่วไป (ผู้ลงทั่วไป และ/หรือผู้ลงทุนสถาบัน)
- ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
- วันที่เปิดจอง : 8-10 พฤษภาคม 2566
- ช่องทางการขาย : ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, ธนาคารออมสิน, บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน, บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ, บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ, บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์, บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์, บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส
- ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
2. บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) (JMART)
ดำเนินธุรกิจบริษัทโฮลดิ้งหรือประกอบธุรกิจลงทุนในธุรกิจอื่น โดยมีธุรกิจหลักของบริษัทแกน คือ จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่หลักทุกรายและผู้ให้บริการเครือข่าย และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
- ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้
- อายุ : 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569
- อัตราดอกเบี้ย : 4.60% ต่อปี
- จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน
- อันดับความน่าเชื่อถือ : BBB แนวโน้มคงที่
- ระดับความเสี่ยง : 5 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
- ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป และ/หรือผู้ลงทุนสถาบัน
- ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
- วันที่เปิดจอง : 9-11 พฤษภาคม 2566
- ช่องทางการขาย : ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส, บริษัท หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)
- ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
3. บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) (BRI)
บริษัทประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยแนวราบในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นโดย บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ประกอบด้วย 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ เบลกราเวีย, แกรนด์ บริทาเนีย, บริทาเนีย และไบรตัน เสนอขายหุ้นกู้ 2 ชุด ในเดือนพฤษภาคม 2566 ดังนี้
- ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้
-
อายุและอัตราดอกเบี้ย :
-
อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.00% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2568
-
อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.70% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569
-
-
จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน
- อันดับความน่าเชื่อถือ : BBB แนวโน้มคงที่
- ระดับความเสี่ยง : 5 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
- การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี
- ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ผู้ลงทุนทั่วไป และ/หรือผู้ลงทุนสถาบัน
- ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
- วันที่เปิดจอง : 18-19 และ 22 พฤษภาคม 2566
- ช่องทางการขาย : ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, ธนาคารกรุงไทย, บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย)
- ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
4. บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) (CK)
บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ทั้งเป็นผู้รับเหมาโดยตรง ผู้รับเหมาช่วง หรือการร่วมกับผู้รับเหมาต่างประเทศในลักษณะกิจการร่วมค้า รวมถึงประกอบธุรกิจพัฒนาโครงการสาธารณูปโภค เช่น ระบบคมนาคม ระบบขนส่งมวลชน ระบบสาธารณูปโภคน้ำ ระบบพลังงานไฟฟ้า เป็นต้น เปิดจองหุ้นกู้ 4 ชุด ในเดือนพฤษภาคม 2566 ดังนี้
- ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้
-
อายุและอัตราดอกเบี้ย :
-
อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคาดว่า 3.00-3.30% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569
-
อายุ 5 ปี รอประกาศอัตราดอกเบี้ย ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2571
-
อายุ 7 ปี รอประกาศอัตราดอกเบี้ย ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2573
-
อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคาดว่า 4.00-4.15% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2576
-
-
จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 6 เดือน
- อันดับความน่าเชื่อถือ : A- แนวโน้มคงที่
- ระดับความเสี่ยง : 3 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
- การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ชุดที่ 1 ไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด, ชุดที่ 2-4 บริษัทมีสิทธิ์ไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกําหนดไถ่ถอนหุ้นกู้
- ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนเป็นการทั่วไป โดยให้บุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ลงทุนสถาบันจองซื้อในฐานะผู้ลงทุนทั่วไปเท่านั้น
- ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
- วันที่เปิดจอง : 22-24 พฤษภาคม 2566
- ช่องทางการขาย : ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย
- ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
5. บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (AQUA)
บริษัทประกอบธุรกิจผลิต ติดตั้ง และให้บริการสื่อโฆษณากลางแจ้ง รวมทั้งผลิตรายการโทรทัศน์และขายเวลาโฆษณา เสนอขายหุ้นกู้ 1 ชุด ในเดือนพฤษภาคม 2566
- ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีหลักประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้
- อายุ : 2 ปี 6 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568
- อัตราดอกเบี้ย : คาดว่า 6.00-6.50% ต่อปี
- อันดับความน่าเชื่อถือ : BB+ แนวโน้มคงที่
- ระดับความเสี่ยง : 7 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
- การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี
- ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป และ/หรือผู้ลงทุนสถาบัน
- ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
- วันที่เปิดจอง : 24-29 พฤษภาคม 2566
- ช่องทางการขาย : บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จํากัด
- ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
6. บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC)
บริษัทที่ประกอบธุรกิจปิโตรเคมีครบวงจรแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ธุรกิจปิโตรเลียม ธุรกิจปิโตรเคมี และธุรกิจสนับสนุนอื่น ๆ เช่น ธุรกิจไฟฟ้าและสาธารณูปโภค ธุรกิจท่าเรือและถังเก็บผลิตภัณฑ์ ธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินเสนอขายหุ้นกู้ จำนวน 4 ชุด และหุ้นกู้ดิจิทัล จำนวน 4 ชุด รวมเป็น 8 ชุด ในเดือนพฤษภาคม ดังนี้
หุ้นกู้ 4 ชุด
- ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้
-
อายุและอัตราดอกเบี้ย :
-
อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.20% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569
-
อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.70% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2571
-
อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.00% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2573
-
อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.20% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2576
-
-
จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 6 เดือน
- อันดับความน่าเชื่อถือ : A- แนวโน้มคงที่
- ระดับความเสี่ยง : 3 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
- การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี
- ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนเป็นการทั่วไป โดยให้บุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ลงทุนสถาบันจองซื้อในฐานะผู้ลงทุนทั่วไปเท่านั้น
- ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
- วันที่เปิดจอง : 26, 29-30 พฤษภาคม 2566
- ช่องทางการขาย : ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารทหารไทยธนชาต, ธนาคารยูโอบี, ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
- ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ดิจิทัล ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้
-
อายุและอัตราดอกเบี้ย :
-
อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.20% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569
-
อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.70% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2571
-
อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.00% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2573
-
อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.20% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2576
-
-
จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 6 เดือน
- อันดับความน่าเชื่อถือ : A- แนวโน้มคงที่
- ระดับความเสี่ยง : 3 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
- การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี
- ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : เฉพาะบุคคลธรรมดาที่บรรลุนิติภาวะแล้ว ถือสัญชาติไทย และมีภูมิลำเนาและถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย เท่านั้น
- ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 1,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 1,000 บาท
- วันที่เปิดจอง : 26-30 พฤษภาคม 2566
- ช่องทางการขาย : แอปพลิเคชันเป๋าตังของธนาคารกรุงไทย
- ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
สำหรับผู้ที่ต้องการทราบรายละเอียดหุ้นกู้ทั้งหมดที่เสนอขายในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2566 ทั้งหุ้นกู้ที่ขายประชาชนทั่วไป ผู้ลงทุนรายใหญ่ หรือผู้ลงทุนสถาบัน สามารถเข้าไปดูรายชื่อได้ที่ เว็บไซต์ ก.ล.ต. หรือเฟซบุ๊ก ThaiBMA
บทความที่เกี่ยวข้องกับหุ้นกู้
* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 16 พฤษภาคม 2566
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Thaibma : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (1), (2), (3), (4), (5), (6), (7), (8)
ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (1), (2), (3), (4), (5), (6), (7), (8), YouTube ThaiBMAChannel