หุ้นกู้คืออะไร ซื้อยังไง ?
ในประเทศไทยนั้น หุ้นกู้จะมีมูลค่าหน่วยละ 1,000 บาท และส่วนใหญ่จะกำหนดให้ลงทุนขั้นต่ำ 100 หน่วย หรือ 100,000 บาท โดยติดต่อซื้อได้ที่ธนาคารหรือบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายตามประกาศของหุ้นกู้แต่ละบริษัท
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีการเปิดจำหน่ายหุ้นกู้ดิจิทัลที่สามารถซื้อได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งหุ้นกู้บางรุ่นให้เริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000-5,000 บาท
หุ้นกู้มีกี่ประเภท ?
หุ้นกู้จะมีอยู่หลายลักษณะ ได้แก่
- หุ้นกู้ชนิดมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หมายถึง หุ้นกู้นี้มีสินทรัพย์ต่าง ๆ ค้ำประกันอยู่ ถ้าเกิดปัญหาที่บริษัทไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยหรือเงินต้นให้เราได้ เราจะมีสิทธิ์ในหลักประกันนั้น
- หุ้นกู้ชนิดที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน คือ หุ้นกู้ที่ไม่มีสินทรัพย์ใด ๆ วางไว้ กรณีบริษัทที่ออกหุ้นกู้ประสบปัญหาทางการเงินจะต้องแบ่งสินทรัพย์กับเจ้าหนี้รายอื่นตามสิทธิ์และสัดส่วนที่ถือ
- หุ้นกู้ด้อยสิทธิ คือ ในกรณีที่ผู้ออกตราสารหนี้ล้มละลายหรือเลิกกิจการ ผู้ที่ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิจะมีสิทธิ์ได้รับคืนเงินต้นหลังจากผู้ถือหุ้นที่มีประกัน กล่าวว่าอยู่ในอันดับที่ด้อยกว่าเจ้าหนี้สามัญรายอื่น ๆ
- หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ คือ ในกรณีที่ผู้ออกตราสารหนี้ล้มละลายหรือเลิกกิจการ ผู้ที่ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิจะมีสิทธิ์ได้รับคืนเงินต้นในอันดับที่ทัดเทียมกับเจ้าหนี้สามัญรายอื่น ๆ และสูงกว่าผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิ
โดยหากจัดอันดับสิทธิ์ในการเรียกร้องสินทรัพย์ หรือการได้รับคืนเงินต้นจากผู้ออกตราสารเมื่อกิจการล้มละลาย จะเป็นดังนี้
- ลำดับที่ 1 หุ้นกู้มีประกัน
- ลำดับที่ 2 หุ้นกู้ไม่มีประกัน
- ลำดับที่ 3 หุ้นกู้ด้อยสิทธิ
- ลำดับที่ 4 หุ้นบุริมสิทธิ
- ลำดับที่ 5 หุ้นสามัญ
ต้องพิจารณาอะไรบ้างเมื่อจะลงทุนหุ้นกู้
บริษัทน่าเชื่อถือหรือไม่
การซื้อหุ้นกู้คือการให้บริษัทกู้ยืมเงิน ดังนั้นจึงควรดูให้แน่ใจก่อนว่าบริษัทมีความมั่นคงมากน้อยแค่ไหน ฐานะการเงินเป็นอย่างไร จะมีเงินจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นคืนให้เราได้หรือไม่ โดยสามารถพิจารณาได้จากอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ที่จัดทำโดยบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating Agency) ซึ่งอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB- ขึ้นไปจนถึง AAA จัดเป็นหุ้นกู้ที่อยู่ในระดับน่าลงทุน (Investment Grade) เพราะออกโดยบริษัทที่มั่นคง ผลประกอบการดี มีโอกาสที่จะไม่ได้รับเงินต้นคืนค่อนข้างต่ำ
แต่หากเป็นหุ้นกู้ที่มีเรตติ้งตั้งแต่ BB+ ลงมา จนถึง D จะเป็นหุ้นกู้ในกลุ่มต่ำกว่าระดับลงทุน (Non-Investment Grade) นอกจากนี้ที่ต้องระวังในการลงทุนคือ หุ้นกู้ในกลุ่มไม่มีเรตติ้ง (Unrated) ที่แม้จะให้ดอกเบี้ยสูงกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะไม่ได้เงินลงทุนคืนกลับมาสูงตามไปด้วย
อายุของหุ้นกู้นานแค่ไหน
ผลตอบแทน/ดอกเบี้ยเป็นเท่าไร
ใครมีสิทธิ์จองซื้อ
บริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะเสนอขายหุ้นกู้ตามกลุ่มนักลงทุน ดังนั้นก่อนซื้อต้องศึกษาให้ดีว่าเรามีสิทธิ์ซื้อหรือไม่ โดยแบ่งกลุ่มผู้ลงทุนออกเป็น 4 ประเภท คือ
- ผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจง (Private Placement : PP10) คือ การขายตราสารหนี้ให้กับผู้ลงทุนไม่เกิน 10 ฉบับ หรือ 10 ราย ซึ่งผู้ลงทุนจะต้องเป็นผู้ลงทุนสถาบัน กรรมการ ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ถือหุ้นเกิน 10% และบริษัทในเครือเท่านั้น
- ผู้ลงทุนสถาบัน (Institutional Investor : II) เช่น ธนาคาร บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ กองทุน บริษัทประกัน
- ผู้ลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth : HNW) คือ บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่มีสินทรัพย์ รายได้ต่อปี หรือลงทุนในหลักทรัพย์ตามที่กำหนด โดยกรณีเป็นบุคคลธรรมดา (รวมคู่สมรสตามกฎหมาย) จะใช้เกณฑ์ดังนี้ (เข้าเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่ง)
- มีรายได้ต่อปีตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป หรือ
- มีเงินลงทุนในหลักทรัพย์ตั้งแต่ 8 ล้านบาทขึ้นไป ถ้ารวมเงินฝากจะเป็น 15 ล้านบาทขึ้นไป หรือ
- มีสินทรัพย์สุทธิตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไป ไม่รวมที่อยู่พักอาศัยประจำ
แต่ในกรณีที่มีฐานะทางการเงินไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด จะพิจารณาคุณสมบัติด้านความรู้และประสบการณ์ในการลงทุนเพิ่มเติม โดยหากเข้าเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ก็สามารถเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ได้
- มีประสบการณ์การลงทุนย้อนหลังในสินทรัพย์เสี่ยงที่ต้องมีการลงทุนเป็นประจำและต่อเนื่อง หรือ
- มีประสบการณ์การทำงานด้านการบริหารการเงินและการลงทุน หรือ
- เป็นผู้แนะนำการลงทุนหรือผู้วางแผนการลงทุนที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. หรือ
- ได้รับวุฒิบัตรที่เกี่ยวกับการลงทุน
4. ผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering : PO) คือ ประชาชนทั่วไปสามารถซื้อหุ้นกู้ได้
หุ้นกู้ มีความเสี่ยงอะไรบ้าง
ความเสี่ยงของหุ้นกู้หลัก ๆ นั้นจะมีอยู่ 3 ด้าน คือ
- ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย : ในกรณีที่อัตราดอกเบี้ยทั่วไปลดลง หุ้นกู้จะมีมูลค่าสูงขึ้น แต่ในทางตรงกันข้าม หุ้นกู้ก็จะมีมูลค่าลดลงเมื่ออัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดสูงขึ้น ทำให้ราคาที่ขายได้อาจมากหรือน้อยกว่าราคาที่ซื้อมา ขึ้นอยู่กับระดับและทิศทางการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย ตรงนี้อาจมีค่าเสียโอกาสที่จะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น
- ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง : หากลงทุนในระยะยาวมาก ๆ แล้วประสบปัญหาจำเป็นต้องใช้เงินก้อนก่อนหุ้นกู้ครบอายุ ทำให้ต้องนำไปขายที่ตลาดรอง ซึ่งมีราคาลดลงหรืออาจขาดทุนได้
- ความเสี่ยงด้านเครดิต : การลงทุนหุ้นกู้กับบริษัทที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำจะมีความเสี่ยงสูง เช่น บริษัทเลิกกิจการหรือล้มละลาย จนไม่สามารถชำระหนี้คืนได้ตามที่สัญญา แต่ก็จะมีอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าหุ้นกู้ของบริษัทที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่า
นอกจากนี้ หากผู้ออกหุ้นกู้ประสบปัญหาทางการเงิน อาจจะไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยหรือคืนเงินต้นให้เราได้ เท่ากับผิดนัดชำระหนี้ (Default) ซึ่งต้องเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องต่อไป
หุ้นกู้ออกใหม่ เดือนกุมภาพันธ์ 2566
1. บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA)
บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้แบรนด์เสนา, นิช โมโน, เฟล็กซี่ และยังมีธุรกิจในเครืออีกมากมาย ทั้งเสนา โซลาร์ เอนเนอร์ยี่, เสนาเฟสท์, สนามกอล์ฟพัทยา คันทรี คลับ ฯลฯ เปิดให้จองหุ้นกู้ในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2566 จำนวน 1 ชุด
- ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ระยะยาว ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้
-
อายุและอัตราดอกเบี้ย : อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.70% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569
-
จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน
-
อันดับความน่าเชื่อถือ : BBB แนวโน้มลบ
-
ระดับความเสี่ยง : 5 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
-
การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี
-
ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป และ/หรือผู้ลงทุนสถาบัน
-
ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
-
วันที่เปิดจอง : 31 มกราคม และ 1-2 กุมภาพันธ์ 2566
-
ช่องทางการขาย : ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกสิกรไทย รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง, บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร รวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส
- ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
2. บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT)
-
ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน ชำระคืนเงินต้นเพียงครั้งเดียวเมื่อเลิกบริษัท หรือเมื่อผู้ออกหุ้นกู้ใช้สิทธิ์ไถ่ถอนหุ้นกู้ โดยผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิ์เลื่อนการชำระดอกเบี้ยพร้อมกับสะสมดอกเบี้ยจ่ายไปชำระในวันใด ๆ ได้ โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ
-
อัตราดอกเบี้ย :
-
ปีที่ 1-5 : อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.10% ต่อปี
-
ปีที่ 6-25 : อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี + Intial Credit Spread 4.20% ต่อปี + 0.25% ต่อปี
-
ปีที่ 26-50 : อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี + Intial Credit Spread 4.20% ต่อปี + 1.00% ต่อปี
-
ปีที่ 51 เป็นต้นไป : อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี + Intial Credit Spread 4.20% ต่อปี + 2.00% ต่อปี
-
-
จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 6 เดือน
-
อันดับความน่าเชื่อถือ : BBB+ แนวโน้มคงที่
-
ระดับความเสี่ยง : 7 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
-
การไถ่ถอนก่อนกำหนด : บริษัทมีสิทธิ์ไถ่ถอนก่อนกำหนด
-
ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน
-
ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
-
วันที่เปิดจอง : 7-9 กุมภาพันธ์ 2566
-
ช่องทางการขาย : ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร, บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส, บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต, บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า
- ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
3. บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TUC)
ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้แบรนด์ ทรูมูฟ เอช เสนอขายหุ้นกู้ 4 ชุด ดังนี้
- ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ระยะยาว ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้
-
อายุและอัตราดอกเบี้ย :
-
อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.50% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2568
-
อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.10% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569
-
อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.90% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2571
-
อายุ 5 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.05% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2571
-
-
จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน
-
อันดับความน่าเชื่อถือ : BBB+ แนวโน้มบวก
-
ระดับความเสี่ยง : 5 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
-
การไถ่ถอนก่อนกำหนด :
-
ชุดที่ 1-2 ไม่มี
-
ชุดที่ 3-4 ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิ์ไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนด
-
-
ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป และ/หรือผู้ลงทุนสถาบัน
-
ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
-
วันที่เปิดจอง : 13-15 กุมภาพันธ์ 2566
-
ช่องทางการขาย : ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร และธนาคารทหารไทยธนชาต (สำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้น)
-
ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
4. บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (THANI)
บริษัทที่ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเพื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อสัญญาเช่าทางการเงินในตลาดรถยนต์ทั้งใหม่และเก่า รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเช่าซื้อและให้เช่าทรัพย์สินแบบลีสซิ่ง เสนอขายหุ้นกู้ 2 ชุด ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566
- ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้
-
อายุและอัตราดอกเบี้ย :
-
อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.17% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569
-
อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.43% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2570
-
-
จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน
-
อันดับความน่าเชื่อถือ : A- แนวโน้มคงที่
-
ระดับความเสี่ยง : 3 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
-
ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป
-
ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : รอประกาศ
-
วันที่เปิดจอง : 13-15 กุมภาพันธ์ 2566
-
ช่องทางการขาย : ธนาคารทหารไทยธนชาต
- ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
5. บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC)
บริษัทที่ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถ สินเชื่อโฉนดที่ดินและสินเชื่อส่วนบุคคลแก่ลูกค้ารายย่อย ออกหุ้นกู้จำนวน 5 ชุด ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ดังนี้
- ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้
-
อายุและอัตราดอกเบี้ย :
-
อายุ 1 ปี 6 เดือน 6 วัน อัตราดอกเบี้ย 3.30% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2567
-
อายุ 2 ปี 24 วัน อัตราดอกเบี้ย 3.80% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2568
-
อายุ 3 ปี 23 วัน อัตราดอกเบี้ย 4.10% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569
-
อายุ 4 ปี 22 วัน อัตราดอกเบี้ย 4.30% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2570
-
อายุ 5 ปี 21 วัน อัตราดอกเบี้ย 4.50% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2571
-
-
จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน
-
อันดับความน่าเชื่อถือ : BBB+ แนวโน้มคงที่
-
ระดับความเสี่ยง : 5 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
-
ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป ผู้ลงทุนสถาบัน (เฉพาะบุคคลธรรมดา) และผู้ลงทุนรายใหญ่
-
ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
-
วันที่เปิดจอง : 16-17 และ 20 กุมภาพันธ์ 2566
-
ช่องทางการขาย : ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส, บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า
- ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
6. บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL)
ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกประเภทร้านสะดวกซื้อ ภายใต้แบรนด์ 7-Eleven ในประเทศ เสนอขายหุ้นกู้ 3 ชุด ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566
- ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ระยะยาว ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้
- อายุและอัตราดอกเบี้ย :
-
อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.95% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2570
-
อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.55% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2573
-
อายุ 12 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.20% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2578
-
- จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 6 เดือน
-
อันดับความน่าเชื่อถือ : A+ แนวโน้มคงที่
-
ระดับความเสี่ยง : 3 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
-
การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี
-
ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป ทั้งผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน
-
ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
-
วันที่เปิดจอง : คาดว่าวันที่ 20-22 กุมภาพันธ์ 2566
-
ช่องทางการขาย : ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร
- ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
7. บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) (SGP)
บริษัทประกอบธุรกิจพลังงาน ทั้งธุรกิจค้าและขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว แอมโมเนีย และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีอื่น ๆ รวมทั้งผลิตและจำหน่ายถังก๊าซปิโตรเลียมเหลว ผลิตและจำหน่ายเอทานอล ธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลวในต่างประเทศ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า และธุรกิจให้บริการเช่าคลังเก็บสินค้าเหลวและท่าเทียบเรือน้ำลึก เสนอขายหุ้นกู้ 1 ชุด ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566
- ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ระยะยาว ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้
- อายุหุ้นกู้ : 4 ปี ไถ่ถอนปี พ.ศ. 2570
- อัตราดอกเบี้ย : 4.30% ต่อปี
- จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน
- อันดับความน่าเชื่อถือ : BBB+ แนวโน้มคงที่
- ระดับความเสี่ยง : 5 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
- การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี
- ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป และ/หรือผู้ลงทุนสถาบัน
- ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
- วันที่เปิดจอง : วันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ 2566
- ช่องทางการขาย : ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส และธนาคารทหารไทยธนชาต (เฉพาะผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่)
- ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
บทความที่เกี่ยวข้องกับหุ้นกู้
* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Thaibma : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (1), (2), (3), (4), (5), (6), (7), (8)
ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (1), (2), (3), (4), (5), (6), (7), Youtube ThaiBMAChannel