ในเดือนกันยายน 2564 ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับการเติมเงินเข้าบัตรหลายรายการ รวมถึงเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมเดือนละ 200 บาท ที่ได้รับต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 แล้ว
นอกจากนี้ ผู้สูงอายุที่มีบัตรคนจนยังมีสิทธิ์ได้รับเงินพิเศษเพิ่มอีกไม่เกิน 500-1,000 บาท ตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (อ่านข่าว ผู้สูงอายุถือบัตรคนจน มีเฮ รัฐเตรียมจ่ายเงินพิเศษเพิ่มอีก 10 เดือน ได้เท่าไร เช็กเลย) โดยสามารถเช็กวันโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในเดือนกันยายนได้เลย

วงเงินซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค คนละ 200-300 บาท/เดือน
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ได้รับ 300 บาท/เดือน
- กลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท ได้รับ 200 บาท/เดือน
โครงการเพิ่มกำลังซื้อ คนละ 200 บาท/เดือน
ค่ารถโดยสารสาธารณะ
- ค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า 500 บาท/เดือน (ใช้ชำระค่าโดยสารด้วยระบบ e-Ticket เฉพาะผู้ถือบัตรใน 7 จังหวัด คือ กทม., นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร และนครปฐม)
- ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาท/เดือน
- ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาท/เดือน
เงินช่วยเหลือพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ผู้ที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติเห็นชอบให้จ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ย้อนหลัง 10 เดือน ตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4.7 ล้านคน ดังนี้
เดือนมิถุนายน-กันยายน 2563 (4 เดือน) และเดือนตุลาคม 2563 - กันยายน 2564 (จ่ายเดือนเว้นเดือน รวม 6 เดือน)
- ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับ 100 บาท/เดือน (รวม 10 เดือน คือ 1,000 บาท)
- ผู้สูงอายุที่มีรายได้มากกว่า 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ได้รับ 50 บาท/เดือน (รวม 10 เดือน คือ 500 บาท)
ดังนั้น ผู้สูงอายุจะได้รับเงินพิเศษเพิ่มในเดือนกันยายน 2564 คือ
- ผู้สูงอายุที่ได้รับเงินปกติ เดือนละ 200 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่มอีก 500 บาท
- ผู้สูงอายุที่ได้รับเงินปกติ เดือนละ 300 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่มอีก 1,000 บาท
โดยจะเริ่มโอนเงินให้ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2564 เป็นต้นไป และเงินส่วนนี้สามารถใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการผ่านเครื่อง EDC หรือแอปพลิเคชัน "ถุงเงินประชารัฐ" ที่ร้านธงฟ้าได้ รวมทั้งสามารถกด ATM ออกมาใช้จ่ายได้
* หมายเหตุ : ผู้ที่จะได้รับเงินต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป ก่อนเดือนที่ได้รับสิทธิเงินสงเคราะห์ฯ

ค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 230 บาท/เดือน/ครัวเรือน
เป็นการต่ออายุจากมาตรการเดิม โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 230 บาท/เดือน/ครัวเรือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 - กันยายน 2564
- กรณีใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน ให้ใช้สิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรีตามมาตรการปัจจุบัน
- กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้สิทธิ์ตามมาตรการนี้ ในวงเงิน 230 บาท/ครัวเรือน/เดือน หากใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าไฟฟ้าทั้งหมด
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เรียบร้อย
- ผู้ใช้ไฟฟ้าใน กทม., สมุทรปราการ, นนทบุรี ลงทะเบียนที่การไฟฟ้านครหลวง
- ผู้ใช้ไฟฟ้าในต่างจังหวัด ลงทะเบียนที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาท/เดือน/ครัวเรือน
- ต่ออายุให้จากมาตรการเดิม โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับเงินช่วยเหลือค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาท/เดือน/ครัวเรือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 - กันยายน 2564
- หากผู้ถือบัตรคนจนใช้น้ำประปาเกินวงเงิน 100 บาท/ครัวเรือน/เดือน จะต้องเป็นผู้จ่ายค่าน้ำประปาเองทั้งหมด
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ครัวเรือนที่ใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เรียบร้อย
- ผู้ใช้ประปาใน กทม., สมุทรปราการ, นนทบุรี ลงทะเบียนที่การประปานครหลวง
- ผู้ใช้ประปาในต่างจังหวัด ลงทะเบียนที่การประปาส่วนภูมิภาค
เงินช่วยเหลือผู้พิการ 200 บาท
- เงิน 800 บาท : โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเหมือนเดิม ทุกวันที่ 10 ของเดือน
- เงินเพิ่มเติมอีก 200 บาท จากกองทุนประชารัฐ : จ่ายเข้ากระเป๋าเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งคาดว่าเงินจะเข้าบัญชีประมาณวันที่ 22 ของทุกเดือน

ขอบคุณข้อมูลจาก
กรมบัญชีกลาง, เฟซบุ๊ก สถานีข่าวกระทรวงการคลัง : Ministry of Finance News Station, ฐานเศรษฐกิจ, ไทยพีบีเอส