ลูกหนี้บัตรเครดิต ดูเลย ! กรมบังคับคดี จัดไกล่เกลี่ยลดค่างวด จ่ายตามสภาพ ลดภาระช่วงโควิด

 
          กรมบังคับคดี หาช่องทางช่วยลูกหนี้บัตรเครดิต ลดภาระหนี้สินช่วงโควิด 19 จัดไกล่เกลี่ยระหว่างเจ้าหนี้-ลูกหนี้ ช่วยให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้ตามสภาพ ลดโอกาสถูกฟ้องและอายัดทรัพย์สิน
          วันที่ 15 มกราคม 2564 นางอรัญญา ทองน้ำตะโก อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ส่งผลกระทบทำให้ประชาชนมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหนี้จากบัตรเครดิต ซึ่งเมื่อถึงที่สุดแล้ว ประชาชนที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ก็จะถูกฟ้อง มีการยึด และอายัดทรัพย์สินของลูกหนี้เหล่านั้น กรมบังคับคดีเล็งเห็นถึงสภาพปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าว จึงได้เร่งให้ความช่วยเหลือลูกหนี้บัตรเครดิต

          โดยการจัดกระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ชั้นบังคับคดีขึ้นในทุกจังหวัด ร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เปิดโอกาสให้เจ้าหนี้-ลูกหนี้ ได้เจรจากัน โดยมีผู้ไกล่เกลี่ยของกรมบังคับคดีเป็นคนกลางในการทำหน้าที่เจรจา ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับการลดวงเงินที่ต้องชำระคืนแก่เจ้าหนี้ตามฐานะสภาพของลูกหนี้ ทำให้ลูกหนี้มีโอกาสชำระหนี้ในวงเงินที่ลดลงได้ ซึ่งหากเจ้าหนี้ได้รับการชำระหนี้ และลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้ ก็จะทำให้ลดปัญหาหนี้สิน ไม่ต้องถูกบังคับคดี ลดปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ และความเดือดร้อนของประชาชนได้


          ทั้งนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาหนี้สินจากบัตรเครดิต ใช้บริการผ่านสำนักงานของกรมบังคับคดีทั่วประเทศ โดยลูกหนี้สามารถยื่นคำร้องข้อไกล่เกลี่ยข้อพิพาทผ่านเว็บไซต์กรมบังคับคดี www.led.go.th โดยสามารถเข้าไกล่เกลี่ยได้ 2 ทาง คือ

          - ขอเข้าไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้วยตนเอง

          - ขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาทออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน Session call สามารถทำได้ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

          โดยสามารถโหลดได้ทั้งระบบ Android และ IOS เพื่ออำนวยความสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับประชาชน และลดความแออัดในการใช้ห้องประชุมและการรวมตัวของคนจำนวนมาก ตามมาตรการป้องกันและการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  ของรัฐบาล

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กรมบังคับคดี หมายเลขโทรศัพท์ 02-881-4999 หรือ สายด่วนกรมบังคับคดี 1111 กด 79 หรือศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท หมายเลขโทรศัพท์ 02-881-4840, 02-887-5072 และสำนักงานบังคับคดีจังหวัด และสาขาทั่วประเทศ


ขอบคุณข้อมูลจาก กรมบังคับคดี