เปิดหลักเกณฑ์ใหม่ คลินิกแก้หนี้ โครงการของ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่มีหนี้เสีย ขยายคุณสมบัติจากเดิมต้องเป็นหนี้เสียก่อน 1 มกราคม เป็นก่อน 1 กรกฎาคม 2563
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 10 สิงหาคม 2563 ข่าวไทยพีบีเอส รายงานว่า นางสุวัธนา รัศมีโรจน์วงศ์ ผู้บริหารโครงการคลินิกแก้หนี้ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) เปิดเผยว่า ได้มีการปรับเกณฑ์คุณสมบัติการสมัครเข้าโครงการ จากเดิมต้องเป็นหนี้เสียก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่ไม่มีเวลาเข้ามา ได้มีโอกาสเข้ามาปรึกษาและสมัครเข้าโครงการได้มากขึ้น
สำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นผู้ที่จะสามารถเข้าโครงการได้ มีดังนี้...
- เป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ อายุไม่เกิน 65 ปี
- เป็นหนี้เสียก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2563
สำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นผู้ที่จะสามารถเข้าโครงการได้ มีดังนี้...
- เป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ อายุไม่เกิน 65 ปี
- เป็นหนี้เสียก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2563
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
สำหรับเอกสารที่ใช้ยื่นสมัคร มีดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน
- สลิปเงินเดือนย้อนหลัง หรือเอกสารแสดงรายได้ย้อนหลัง 6 เดือน
- รายการเดินบัญชี หรือ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
- เอกสารรายงานเครดิตบูโร (พิเศษ ! สำหรับลูกค้าที่ยังไม่มีเอกสารเครดิตบูโร สามารถขอรับอีคูปองได้ภายในงาน เพื่อนำไปใช้ตรวจเครดิตบูโร ณ ศูนย์เครดิตบูโรทุกแห่ง ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย)
ทั้งนี้ ผู้ที่ผ่านเกณฑ์นอกจากจะได้รับดอกเบี้ยต่ำเพียงร้อยละ 4-7 ต่อปี และระยะเวลาการผ่อนนานสูงสุดถึง 10 ปีแล้ว ยังได้รับเงื่อนไขพิเศษลดดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2563 อีกร้อยละ 2 ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวไทยพีบีเอส
- สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน
- สลิปเงินเดือนย้อนหลัง หรือเอกสารแสดงรายได้ย้อนหลัง 6 เดือน
- รายการเดินบัญชี หรือ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
- เอกสารรายงานเครดิตบูโร (พิเศษ ! สำหรับลูกค้าที่ยังไม่มีเอกสารเครดิตบูโร สามารถขอรับอีคูปองได้ภายในงาน เพื่อนำไปใช้ตรวจเครดิตบูโร ณ ศูนย์เครดิตบูโรทุกแห่ง ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย)
ทั้งนี้ ผู้ที่ผ่านเกณฑ์นอกจากจะได้รับดอกเบี้ยต่ำเพียงร้อยละ 4-7 ต่อปี และระยะเวลาการผ่อนนานสูงสุดถึง 10 ปีแล้ว ยังได้รับเงื่อนไขพิเศษลดดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2563 อีกร้อยละ 2 ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวไทยพีบีเอส