พันธบัตรเราไม่ทิ้งกัน ยอดขายวันแรกพุ่ง ผู้สูงอายุจองซื้อ 2.5 หมื่นล้านบาท เทียบ 50% ของวงเงินทั้งหมด ชี้เข้าถึงกลุ่มรายย่อย พบยอดต่ำสุด 1,000 บาท หากความต้องการยังสูง อาจพิจารณาเรื่องการขยายวงเงิน
ภาพจาก Kong_Setthavaut / Shutterstock.com
วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การเปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ รุ่นเราไม่ทิ้งกัน วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ในวันแรก (14 พฤษภาคม) ซึ่งเปิดจำหน่ายให้ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
พบว่ามียอดจองซื้อเข้ามา 2.5 หมื่นล้านบาท หรือ 50% ของวงเงินที่เปิดขายทั้งหมด 5 หมื่นล้านบาท โดยมียอดเฉลี่ยจองซื้อต่อราย ประมาณ 1 ล้านบาท และเข้าซื้อในรุ่นอายุ 5 ปี ในสัดส่วน 60% ส่วนรุ่นอายุ 10 ปี อยู่ในสัดส่วน 40%
พบว่ามียอดจองซื้อเข้ามา 2.5 หมื่นล้านบาท หรือ 50% ของวงเงินที่เปิดขายทั้งหมด 5 หมื่นล้านบาท โดยมียอดเฉลี่ยจองซื้อต่อราย ประมาณ 1 ล้านบาท และเข้าซื้อในรุ่นอายุ 5 ปี ในสัดส่วน 60% ส่วนรุ่นอายุ 10 ปี อยู่ในสัดส่วน 40%
นับเป็นเรื่องที่น่าดีใจ ที่มีผู้สูงอายุให้ความสนใจจำนวนมาก รวมถึงมียอดจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาทด้วย แสดงว่าพันธบัตรออมทรัพย์นี้ สามารถเข้าถึงรายย่อยได้จริง ๆ ส่วนเหตุที่ผู้สูงอายุให้ความสนใจจำนวนมาก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ให้สูงกว่าการฝากเงินธนาคาร โดยรุ่นอายุ 5 ปี เฉลี่ย 2.40% ส่วนรุ่นอายุ 10 ปี เฉลี่ย 3% ต่อปี และไม่ได้จำกัดวงเงินต่อรุ่น สนใจรุ่นไหนสามารถจองซื้อได้ทันที
อย่างไรก็ดี มีการกำหนดวงเงินทั้ง 2 รุ่น ไม่เกิน 5 หมื่นล้านบาท แต่หากความต้องการยังสูง เราจะประเมินผลอีกครั้งว่าจะขยายวงเงินเพิ่มหรือไม่ ทั้งนี้ การออกพันธบัตรดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการกู้เงินตาม พ.ร.ก. จำนวน 1 ล้านล้านบาท
สำหรับการเปิดขายจะแบ่งเป็น 3 ช่วง ดังนี้...
- สัปดาห์ที่ 1 จำหน่ายให้ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
- สัปดาห์ที่ 2 จำหน่ายให้ประชาชนรายย่อยซื้อได้ก่อน กำหนดวงเงินซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท และสูงสุดไม่เกินวงเงิน 2 ล้านบาท/คน/ธนาคาร
- สัปดาห์ที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป เปิดให้ประชาชนทั่วไปและนิติบุคคลที่ไม่แสวงหาผลกำไรเข้าซื้อได้แบบไม่จำกัดวงเงิน โดยซื้อผ่าน BOND DIRECT Application และช่องทางของธนาคารตัวแทนจำหน่าย 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทยธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์