1. ใครลงทะเบียนรับเงินประกันไฟฟ้าได้บ้าง ?
- ต้องเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย และประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็ก
- ต้องเป็นเจ้าของมิเตอร์ผู้วางเงินประกัน ณ เวลาที่มาแจ้งขอใช้ไฟฟ้าเท่านั้น
2. ได้รับเงินประกันไฟฟ้าคืนเท่าไร ?
3. ลงทะเบียนคืนเงินประกันไฟฟ้าจากการไฟฟ้านครหลวงได้อย่างไร ?
- ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ การไฟฟ้านครหลวง
- ลงทะเบียนทางโทรศัพท์ หมายเลข 02 256 3333 (วันที่ 25 มีนาคม - 29 พฤษภาคม 2563)
- ลงทะเบียนที่ทำการไฟฟ้านครหลวง 18 เขต ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ แนะนำให้ลงทะเบียนทางออนไลน์จะได้รับความสะดวกที่สุด โดยมีขั้นตอนการลงทะเบียน ดังนี้
4. ลงทะเบียนคืนเงินประกันไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้อย่างไร ?
- ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
- สแกน QR Code ในใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนมีนาคม
- ติดต่อที่ทำการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ทั้งนี้ แนะนำให้ลงทะเบียนผ่านออนไลน์จะได้รับความสะดวกที่สุด
5. ลงทะเบียนได้ถึงวันไหน ?
6. ชื่อเจ้าของบ้านไม่ตรงกับชื่อเจ้าของมิเตอร์ ขอรับเงินประกันคืนได้ไหม ?
กรณีนี้ จะรับเงินคืนได้ก็ต่อเมื่อเจ้าของมิเตอร์ (ผู้วางเงินประกันการใช้ไฟฟ้า) ต้องทำหนังสือโอนสิทธิ์เงินประกันการใช้ไฟฟ้าให้กับเจ้าของบ้านแล้วเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถขอรับเงินประกันได้ เนื่องจากเจ้าของบ้านไม่ได้เป็นผู้วางเงินประกันตั้งแต่ต้น ดังนั้นต้องโอนสิทธิ์ก่อน แล้วนำเอกสารต่อไปนี้ มาแจ้งต่อการไฟฟ้าฯ
- หนังสือการโอนสิทธิ์ให้รับคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าจากเจ้าของเงินประกันการใช้ไฟฟ้าให้แก่ผู้ร้องขอ (ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม กฟน. หรือ กฟภ.) หรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ในสถานที่ใช้ไฟฟ้า เช่น สัญญาซื้อ-ขาย โฉนดที่ดิน น.ส.3 ก.
- หลักฐานผู้ขอรับเงิน
- กรณีเป็นบุคคลธรรมดา บัตรประจำตัวประชาชน
- กรณีเป็นนิติบุคคล สำเนาหนังสือจดทะเบียนนิติบุคคลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า อายุไม่เกิน 1 เดือน ประทับตรานิติบุคคลฯ ทุกฉบับ พร้อมลงลายมือชื่อผู้มีอำนาจลงนามรับรอง และบัตรประชาชนของผู้ลงนามมอบอำนาจ
- ใบเสร็จรับเงินประกันการใช้ไฟฟ้า (ถ้ามี)
- หน้าสมุดเงินฝากธนาคารที่มีเลขที่บัญชีและชื่อของเจ้าของบัญชี กรณีเลือกขอรับเงินโดยการโอนเงิน (ชื่อบัญชีเดียวกับชื่อผู้ขอรับเงินเท่านั้น)
7. ซื้อบ้านมานานแล้ว แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ จะได้เงินประกันคืนหรือไม่ ?
ไม่ได้รับเงินประกันคืน เพราะผู้ซื้อบ้านไม่ได้เป็นผู้วางเงินประกัน หากต้องการรับเงินประกัน จะต้องให้ผู้วางเงินประกันโอนสิทธิ์ให้เราก่อน จากนั้นยื่นเอกสารเหล่านี้ต่อการไฟฟ้าฯ
- หนังสือการโอนสิทธิ์ให้รับคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าจากเจ้าของเงินประกันการใช้ไฟฟ้าให้แก่ผู้ร้องขอ (ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม กฟน. หรือ กฟภ.) หรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ในสถานที่ใช้ไฟฟ้า เช่น สัญญาซื้อ-ขาย โฉนดที่ดิน น.ส.3 ก.
- หลักฐานผู้ขอรับเงิน
- กรณีเป็นบุคคลธรรมดา บัตรประจำตัวประชาชน
- กรณีเป็นนิติบุคคล สำเนาหนังสือจดทะเบียนนิติบุคคลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า อายุไม่เกิน 1 เดือน ประทับตรานิติบุคคลฯ ทุกฉบับ พร้อมลงลายมือชื่อผู้มีอำนาจลงนามรับรอง และบัตรประชาชนของผู้ลงนามมอบอำนาจ
- ใบเสร็จรับเงินประกันการใช้ไฟฟ้า (ถ้ามี)
- หน้าสมุดเงินฝากธนาคารที่มีเลขที่บัญชีและชื่อของเจ้าของบัญชี กรณีเลือกขอรับเงินโดยการโอนเงิน (ชื่อบัญชีเดียวกับชื่อผู้ขอรับเงินเท่านั้น)
8. เจ้าของมิเตอร์/ผู้วางเงินประกันเสียชีวิตแล้ว ต้องทำอย่างไร ?
สามารถรับเงินประกันการใช้ไฟฟ้าได้ 2 กรณี คือ
1. มีคำสั่งศาลแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดก ให้นำเอกสารเหล่านี้มายื่นเรื่อง
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้จัดการมรดก
- ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
- ใบเสร็จรับเงินประกันการใช้ไฟฟ้า (ถ้ามี)
- สำเนาหน้าสมุดเงินฝากธนาคารที่มีเลขที่บัญชีและชื่อเจ้าของบัญชี กรณีต้องการให้โอนเงิน (ชื่อบัญชีเดียวกับผู้จัดการมรดกเท่านั้น)
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ขอรับคืนเงิน
- ใบมรณบัตรหรือทะเบียนบ้านที่ประทับตราเสียชีวิตของเจ้าของเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
- หลักฐานแสดงความสัมพันธ์กับเจ้าของเงินประกันการใช้ไฟฟ้า เช่น ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส เป็นต้น
- หนังสือแสดงความยินยอมของทายาทพร้อมบัตรประจำตัวประชาชน (ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม กฟน. หรือ กฟภ.)
- ใบเสร็จรับเงินประกันการใช้ไฟฟ้า (ถ้ามี)
- หน้าสมุดเงินฝากธนาคารที่มีเลขที่บัญชีและชื่อเจ้าของบัญชี กรณีต้องการ ให้โอนเงิน (ชื่อบัญชีเดียวกับทายาทผู้ขอรับคืนเงินเท่านั้น)
9. ซื้อบ้านต่อจากคนอื่น แต่ชื่อมิเตอร์ยังเป็นเจ้าของเดิม จะได้รับเงินประกันไหม ?
- คำร้องขอรับคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าประเภท 1-2 (เฉพาะผู้ขอรับเงินที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ แต่ไม่ใช่ผู้ขอใช้ไฟฟ้า)
- หนังสือการโอนสิทธิ์ให้รับคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าจากเจ้าของเงินประกันการใช้ไฟฟ้าให้แก่ผู้ร้องขอ (ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม กฟน. หรือ กฟภ.) หรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ในสถานที่ใช้ไฟฟ้า เช่น สัญญาซื้อ-ขาย โฉนดที่ดิน น.ส.3 ก.
- หลักฐานผู้ขอรับเงิน
- กรณีเป็นบุคคลธรรมดา บัตรประจำตัวประชาชน
- กรณีเป็นนิติบุคคล สำเนาหนังสือจดทะเบียนนิติบุคคลจากกรมพัฒนา ธุรกิจการค้า อายุไม่เกิน 1 เดือน ประทับตรานิติบุคคลฯ ทุกฉบับ พร้อมลงลายมือชื่อผู้มีอำนาจลงนามรับรอง และบัตรประชาชนของผู้ลงนามมอบอำนาจ
- ใบเสร็จรับเงินประกันการใช้ไฟฟ้า (ถ้ามี)
- หน้าสมุดเงินฝากธนาคารที่มีเลขที่บัญชีและชื่อของเจ้าของบัญชี กรณีเลือกขอรับเงินโดยการโอนเงิน (ชื่อบัญชีเดียวกับชื่อผู้ขอรับเงินเท่านั้น)
10. ขอใช้ไฟฟ้าในนามชื่อของโครงการหมู่บ้าน แต่ยังไม่ได้โอนเปลี่ยนชื่อตามเจ้าของบ้าน จะทำอย่างไร ?
11. ถ้ามีชื่อเป็นผู้วางหลักประกันหลายบ้าน สามารถขอรับเงินประกันคืนทั้งหมดหรือไม่ ?
12. สามี-ภรรยาจดทะเบียนสมรส แต่ปัจจุบันแยกกันอยู่ จะขอคืนเงินประกันได้ไหม ?
13. บ้านที่ถูกหักค่าไฟฟ้าจากเงินประกันไป ไม่เหลือเงินประกันแล้ว ต้องทำอย่างไร ?
- หากยังมีการใช้ไฟเป็นปกติ ไม่ต้องดำเนินการขอคืนเงินประกัน
- หากมีหนี้ค่าไฟฟ้าค้างชำระ ให้ดำเนินการตามกระบวนการงานติดตามเร่งรัดหนี้ งดจ่ายไฟต่อไป
14. ขายบ้านไปแล้วแต่ยังไม่ได้โอนเปลี่ยนชื่อ เจ้าของเดิมสามารถขอรับเงินประกันคืนได้ไหม ?
15. ยื่นเอกสารทั้งหมดได้ที่ไหน ?
16. จะได้รับเงินคืนอย่างไร ?
1. คืนเงินผ่านพร้อมเพย์
ต้องเป็นบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับหมายเลขบัตรประชาชนของผู้วางหลักประกันเท่านั้น
2. คืนเงินผ่านบัญชีธนาคาร
- ปัจจุบันมีธนาคารเข้าร่วม 3 แห่ง คือ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกสิกรไทย
- ต้องระบุบัญชีธนาคารของผู้วางหลักประกันเท่านั้น ไม่สามารถใช้บัญชีเงินฝากของผู้อื่นได้ เช่น หากพ่อเป็นผู้วางเงินประกัน จะต้องใช้บัญชีธนาคารของพ่อ ไม่สามารถใช้บัญชีธนาคารของลูกในการรับเงินโอนจากการไฟฟ้าฯ ได้
3. คืนเงินผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส
- หากเลือกช่องทางนี้ เราสามารถถือบัตรประชาชนไปรับเงินสดจากเคาน์เตอร์เซอร์วิสตามจุดต่าง ๆ เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น ได้เลย แต่จำนวนเงินที่จะได้รับคืนนั้นต้องไม่เกิน 50,000 บาท
- ไม่มีค่าธรรมเนียม
1. คืนเงินผ่านพร้อมเพย์
ต้องเป็นบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับหมายเลขบัตรประชาชนของผู้วางหลักประกันเท่านั้น
2. คืนเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
3. คืนเงินผ่านบัญชีธนาคาร
4. รับเงินสดที่สำนักงานการไฟฟ้า
17. ขอเงินประกันคืนไปแล้ว ยังจะใช้มิเตอร์ได้อยู่ไหม ?
กรณีมิเตอร์ไฟฟ้าชำรุดหรือเสียหาย หากเกิดจากผู้ใช้ไฟฟ้าเอง ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องชดใช้ค่าเสียหาย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้เป็นการกระทำของผู้ใช้ไฟฟ้า เช่น เกิดจากภัยธรรมชาติ ฟ้าผ่า น้ำท่วม ในกรณีนี้ทางการไฟฟ้าฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งไม่ได้นำเงินประกันการใช้ไฟฟ้ามาหักในส่วนนี้
18. หากบ้านที่ได้รับเงินประกันคืนไปแล้ว อนาคตไม่ได้ไปจ่ายค่าไฟที่ค้างชำระ ทางการไฟฟ้าฯ จะดำเนินการอย่างไร ?
19. ใส่เลขที่บัญชีธนาคารไม่ตรงกับชื่อผู้วางหลักประกัน ได้ไหม ?
20. บ้านเช่าที่มีหลายห้อง ผู้เช่าจะขอคืนเงินประกันได้หรือไม่ ?
21. ชื่อผู้วางเงินประกัน กับ ชื่อเจ้าบ้าน ไม่ตรงกัน ใครจะได้รับเงิน ?
- ผู้วางเงินประกันสามารถยื่นเรื่องขอคืนเงินประกันได้
- เจ้าบ้านไม่มีสิทธิ์ในเงินประกันนี้ เพราะไม่ได้เป็นผู้วางเงินประกัน
- หากเจ้าบ้านต้องการรับเงินส่วนนี้ ต้องให้ผู้วางเงินประกันทำหนังสือโอนสิทธิ์ให้ก่อน
22. เจ้าของคนเดิมเสียชีวิต แต่ในบิลแจ้งค่าไฟเขียนชื่อ-นามสกุลผิดตั้งแต่แรก จะขอรับเงินได้ไหม ?
- คำสั่งศาลแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดก
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้จัดการมรดก
- ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
- ใบเสร็จรับเงินประกันการใช้ไฟฟ้า (ถ้ามี)
- สำเนาหน้าสมุดเงินฝากธนาคารที่มีเลขที่บัญชีและชื่อเจ้าของบัญชี กรณีต้องการให้โอนเงิน (ชื่อบัญชีเดียวกับผู้จัดการมรดกเท่านั้น)
23. ไม่ขอเงินประกันการใช้ไฟฟ้าคืนได้หรือเปล่า ?
24. รับเงินคืนผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส ต้องนำหลักฐานอะไรไปบ้าง ?
25. ลงทะเบียนไว้แล้ว จะตรวจสอบสถานะการคืนเงินได้ไหมว่าอยู่ขั้นตอนไหน ?
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบได้ที่การไฟฟ้านครหลวง โทร. 1130 หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โทร. 1129 หรือที่ เฟซบุ๊ก การไฟฟ้านครหลวง และ เฟซบุ๊ก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค PEA
* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 10 เมษายน 2563
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, การไฟฟ้านครหลวง