ถ้าอยากฝากเงินแบบมีความเสี่ยงต่ำ การซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ หรือพันธบัตรรัฐบาล ก็เป็นทางเลือกออมเงินที่น่าสนใจทีเดียว เพราะให้เราเลือกลงทุนได้ทั้งระยะสั้นหรือระยะยาว แถมยังได้รับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากธนาคารทั่วไป ซึ่งล่าสุดสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้ออกพันธบัตรออมทรัพย์ 2563 มาให้ประชาชนได้เก็บออม 2 รุ่น คือ
1. พันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ครั้งที่ 1 วงเงิน 15,000 ล้านบาท
2. พันธบัตรออมทรัพย์รุ่นพิเศษ วงเงิน 5,000 ล้านบาท
ใครอยากรู้ว่าพันธบัตรออมทรัพย์แต่ละรุ่น ให้ดอกเบี้ยเท่าไร ใครสามารถซื้อได้บ้าง เราลองมาดูข้อมูลกัน
ตัวอย่างสมุดพันธบัตร
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ครั้งที่ 1
พันธบัตรออมทรัพย์ 2563 ให้ดอกเบี้ยเท่าไร ?
พันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วงเงิน 15,000 ล้านบาท เป็นแบบไร้ใบตราสาร (Scripless) มีทั้งหมด 2 รุ่นคือ
- รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 1.70% ต่อปี
- รุ่นอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 1.95% ต่อปี
จ่ายดอกเบี้ยปีละ 2 งวด คือ วันที่ 13 มิถุนายน และ 13 ธันวาคม ของทุกปี จนกว่าพันธบัตรจะครบกำหนด โดยจะโอนดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร
พันธบัตรออมทรัพย์ 2563 ใครซื้อได้บ้าง ?
- บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
- สภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ และนิติบุคคลอื่นที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร
วงเงินซื้อขั้นต่ำ
- กำหนดวงเงินซื้อขั้นต่ำอยู่ที่ 1,000 บาท (1 หน่วย) และไม่จำกัดวงเงินขั้นสูง ไม่จำกัดจำนวนครั้งที่ซื้อ
- ต้องซื้อเพิ่มเป็นหน่วยทวีคูณของ 1,000 บาท เช่น 2,000 บาท 10,000 บาท 150,000 บาท เป็นต้น ไม่สามารถซื้อ 1,500 บาท หรือ 25,900 บาท ได้
เปิดขายเมื่อไร ซื้อได้ที่ไหน ?
พันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง 2563 ครั้งที่ 1 แบ่งการขายออกเป็น 2 รอบ คือ
- วันที่ 9 ธันวาคม 2562 (เวลา 08.30 น.) - 11 ธันวาคม 2562 (เวลา 15.00 น.) เปิดให้เฉพาะผู้ถือกรรมสิทธิ์พันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง 2560 (SB19DA) ที่ครบกำหนดในวันที่ 13 ธันวาคม 2562 สามารถจองซื้อได้ก่อนในจำนวนไม่เกินวงเงินที่เคยลงทุนไว้ ผ่านแอปพลิเคชัน BOND DIRECT และ Line @bonddirect โดยต้องชำระเงินภายในวันที่ 13-17 ธันวาคม 2562 ที่เคาน์เตอร์ธนาคารผู้จัดจำหน่าย 3 แห่ง คือ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทย
- วันที่ 13 ธันวาคม 2562 (เวลา 08.30 น.) - 24 เมษายน 2563 (เวลา 15.00 น.) เปิดขายให้ประชาชนทั่วไปสามารถซื้อได้ที่
- ธนาคารตัวแทนจำหน่าย 4 แห่ง คือ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์
- แอปพลิเคชัน BOND DIRECT
วันที่ครบกำหนดไถ่ถอน
- พันธบัตรรุ่นอายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 13 ธันวาคม 2565
- พันธบัตรรุ่นอายุ 7 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 13 ธันวาคม 2569
โอนกรรมสิทธิ์ก่อนครบกำหนดไถ่ถอนได้หรือไม่ ?
ประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
พันธบัตรออมทรัพย์รุ่นพิเศษ ให้ดอกเบี้ยเท่าไร ?
- เป็นพันธบัตรที่มีอายุ 5 ปี ให้ดอกเบี้ย 2.00% ต่อปี
- จัดทำในรูปแบบพันธบัตรทยอยชำระคืนเงินต้น ซึ่งผู้ถือพันธบัตรจะได้รับเงินต้นและดอกเบี้ย (Amortized Bond) คืนเพื่อนำไปใช้จ่ายได้ ไม่ต้องรอจนครบ 5 ปี ถึงจะได้รับเงินคืน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการออมเงินระยะสั้นและได้รับเงินต้นคืนไว้ใช้จ่าย
- ปีที่ 1 จะได้รับดอกเบี้ยทุก 6 เดือน
- ปีที่ 2-5 จะได้รับดอกเบี้ยทุก 6 เดือน และคืนเงินต้นปีละ 25% (8 งวด งวดละเท่ากัน) - จ่ายดอกเบี้ยวันที่ 23 มิถุนายน และ 23 ธันวาคมของทุกปี จนกว่าพันธบัตรจะครบกำหนดไถ่ถอนโดยจ่ายดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ 23 มิถุนายน 2563
จ่ายคืนเงินต้นเมื่อไร ?
- ทยอยจ่ายคืนเงินต้นงวดแรกเมื่อพันธบัตรอายุครบ 1 ปี 6 เดือน โดยโอนเงินต้นเข้าบัญชีเงินฝาก (ยกเว้นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ และบัญชีเงินฝากประจำ)
- แบ่งจ่ายคืนเงินต้นเป็นจำนวนแปดงวดงวดละเท่า ๆ กัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2564
- จ่ายคืนเงินต้นงวดสุดท้ายในวันครบกำหนดไถ่ถอนพันธบัตรในวันที่ 23 ธันวาคม 2567
- กรณีเปลี่ยนเป็นพันธบัตรแบบมีใบตราสาร (Scrip) การจ่ายคืนเงินต้นงวดสุดท้าย ธนาคารแห่งประเทศไทยจะโอนเงินต้นเข้าบัญชีเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับคืนใบพันธบัตร
พันธบัตรออมทรัพย์รุ่นพิเศษ ใครซื้อได้บ้าง ?
- ซื้อวันที่ 23 –31 ธันวาคม 2562 อายุ 60 ปีขึ้นไป หมายถึงผู้ที่เกิดก่อนหรือภายในปี พ.ศ. 2502
- ซื้อวันที่ 1 มกราคม–24 เมษายน 2563 อายุ 60 ปีขึ้นไป หมายถึงผู้ที่เกิดก่อนหรือภายในปี พ.ศ. 2503
วงเงินซื้อขั้นต่ำ
- กำหนดวงเงินซื้อขั้นต่ำอยู่ที่ 1,000 บาท (1 หน่วย)
- ซื้อได้สูงสุดรายละไม่เกิน 2 ล้านบาท (2,000 หน่วย) ต่อ 1 ธนาคาร หรือผ่าน Bond Direct Application
- ไม่จำกัดจำนวนครั้งที่ซื้อ
- ต้องซื้อเพิ่มเป็นหน่วยทวีคูณของ 1,000 บาท เช่น 2,000 บาท 10,000 บาท 150,000 บาท เป็นต้น ไม่สามารถซื้อ 1,500 บาท หรือ 25,900 บาท ได้
เปิดขายเมื่อไร ซื้อได้ที่ไหน ?
- วันที่ 23 ธันวาคม 2562 เปิดขายผ่านแอปพลิเคชัน BOND DIRECT เท่านั้น
- วันที่ 24 ธันวาคม 2562 - 24 เมษายน 2563 เปิดขายผ่านแอปพลิเคชัน BOND DIRECT และธนาคารตัวแทนจำหน่าย 4 แห่ง คือ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์
โอนกรรมสิทธิ์ได้เมื่อไร ?
- การโอนกรรมสิทธิ์การขายพันธบัตรก่อนวันที่ครบกำหนดไถ่ถอน สามารถทำรายการได้ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป
- การโอนทางมรดก การแบ่งทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการหย่า การล้มละลาย การชำระบัญชี การใช้เป็นหลักประกัน ทำได้หลังจากวันที่ทำรายการซื้อ 15 วันทำการ
กรณีผู้ซื้อเสียชีวิตก่อนครบกำหนด 5 ปี
1. ถ้าไม่มีบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย ต้องเปิดบัญชีที่ธนาคารกรุงไทยก่อน เพราะต้องใช้บัญชีออมทรัพย์ของธนาคารกรุงไทยเพื่อลงทะเบียนซื้อพันธบัตร
2. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน BOND DIRECT
3. ทำตามขั้นตอนจองซื้อที่ปรากฏในแอปฯ
4. ชำระเงินค่าพันธบัตรผ่าน Mobile Banking ธนาคารกรุงไทย หรือเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย
สามารถจองซื้อพันธบัตรได้ที่ธนาคารทั้ง 4 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทย ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
1. เคาน์เตอร์ธนาคารทุกสาขา
2. เครื่องถอนเงินอัตโนมัติ (ATM)
3. ระบบ Internet Banking
4. ระบบ Mobile Application
หมายเหตุ :
- กรณียังไม่เคยซื้อพันธบัตรมาก่อนและไม่มีสมุดเงินฝากออมทรัพย์ของธนาคารตัวแทนจำหน่าย จะไม่สามารถซื้อพันธบัตรผ่านเครื่อง ATM / Internet Banking / Mobile Application ได้ ดังนั้นต้องไปติดต่อสาขาเพื่อเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และลงทะเบียนพันธบัตรก่อนจึงจะซื้อผ่านทั้ง 3 ช่องทางได้
- หากเคยลงทะเบียนซื้อพันธบัตรมาก่อนหน้านี้ (มีสมุดพันธบัตรแล้ว) สามารถซื้อพันธบัตรผ่านเครื่อง ATM / Internet Banking / Mobile Application ได้เลย
- กรณีซื้อพันธบัตรผ่านเครื่อง ATM หากผู้ซื้อทำบัตร ATM ใหม่ ธนาคารจะยกเว้นค่าธรรมเนียมการทำบัตร ATM และค่าธรรมเนียมบัตร ATM ปีแรกให้แก่ผู้ซื้อ
(กรณีซื้อครั้งแรก)
หากเราไม่เคยซื้อพันธบัตรออมทรัพย์กับธนาคารมาก่อน จะต้องลงทะเบียนซื้อพันธบัตรและเปิดบัญชีฝากหลักทรัพย์ที่สาขาธนาคาร โดยใช้หลักฐาน ดังนี้
1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
2. สำเนาหน้าแรกสมุดบัญชีเงินฝาก (ยกเว้นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษและบัญชีเงินฝากประจำ) ของผู้ซื้อที่เปิดบัญชีไว้กับธนาคาร พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง ในกรณีที่ไม่มีบัญชีเงินฝากผู้ซื้อต้องเปิดบัญชีใหม่ ซึ่งต้องเป็นบัญชีของธนาคารที่ทำรายการซื้อเท่านั้น
ตัวอย่างพันธบัตรออมทรัพย์
เมื่อซื้อแล้ว เริ่มคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันไหน ?
หากชำระค่าพันธบัตรด้วยเงินสด หรือหักบัญชีเงินฝากก่อนเวลา 15.00 น. ของวันทำการ ดอกเบี้ยจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ซื้อเลย แต่หากชำระเงินหลังเวลา 15.00 น. ของวันทำการ หรือติดวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดของธนาคาร ดอกเบี้ยจะเริ่มนับในวันทำการถัดไป
ดังนั้น กรณีที่ซื้อพันธบัตรหลายครั้ง หากวันที่ซื้อพันธบัตรต่างกัน การนับจำนวนวันเพื่อไปคำนวณดอกเบี้ยก็จะไม่เท่ากันด้วย ทำให้ได้รับดอกเบี้ยไม่เท่ากัน
พันธบัตรออมทรัพย์ 2563 เสียภาษีเท่าไร
ใช้พันธบัตรออมทรัพย์เป็นหลักประกันได้ไหม ?
ขายพันธบัตรออมทรัพย์ ก่อนครบกำหนดได้ไหม
ผู้ถือพันธบัตรสามารถขายคืนพันธบัตรออมทรัพย์ ก่อนครบกำหนดวันไถ่ถอนให้กับสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมใด ๆ แต่ราคาขายจะขึ้นอยู่กับราคาตลาด ณ วันที่ขาย ทั้งนี้ สามารถเช็กราคาพันธบัตรได้ที่ เว็บไซต์สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย, สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ, เฟซบุ๊ก Thaibma : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย, ธนาคารแห่งประเทศไทย