บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จัดมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เพิ่มเงินบัตรคนจนส่งท้ายปี เช็กเลย ใครบ้างมีสิทธิได้รับ
ข่าวใหญ่ ข่าวดี รับสิ้นปีกันเลยสำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน หลังจากที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบก้อนโต 38,000 ล้านบาท ออกมาช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติม เพื่อลดภาระค่าครองชีพช่วงปลายปีและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ผ่าน 4 มาตรการ ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้น กระปุกดอทคอม สรุปรายละเอียดมาให้แล้ว
1. สนับสนุนค่าใช้จ่ายช่วงปลายปีคนละ 500 บาท

ภาพจาก ทำเนียบ รัฐบาล
ผู้มีสิทธิได้รับ : ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคนทั่วประเทศ จำนวน 14.5 ล้านคน ทั้งที่ได้ลงทะเบียนไปแล้ว 11.4 ล้านคน และผู้ที่ลงทะเบียนเพิ่มเติม ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน อีก 3.1 ล้านคน
เรียกว่าเป็นเหมือนโบนัสให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อยใช้จ่ายในช่วงปลายปีเลยทีเดียว ด้วยการเติมเงินเข้าไปในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 500 บาท/คน โดยจะได้รับครั้งเดียวในช่วงเดือนธันวาคม 2561
เริ่มจ่ายเงินเข้าบัตร (e-Money) :
- ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอยู่แล้ว เริ่มจ่ายเงินให้วันที่ 8-10 ธันวาคม 2561
- ผู้ที่ยังไม่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (สำหรับคนที่ลงทะเบียนรอบ 2) เริ่มจ่ายเงินให้วันที่ 5 มกราคม 2562 และ 1 กุมภาพันธ์ 2562
- ผู้ที่ยังไม่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (สำหรับคนที่ลงทะเบียนรอบ 2) เริ่มจ่ายเงินให้วันที่ 5 มกราคม 2562 และ 1 กุมภาพันธ์ 2562
กดเงินได้ถึงเมื่อไร : เงินจำนวนนี้เข้าบัญชีแล้วไม่มีการดึงกลับ ดังนั้นสามารถกดเงินออกมาเมื่อไรก็ได้ ไม่ได้กำหนดว่าต้องใช้ภายในเดือนนั้นเหมือนกับวงเงินสวัสดิการซื้อสินค้าธงฟ้า 200-300 บาท ดังนั้นหากไม่ได้กดเงินออกมา เงินของขวัญ 500 บาท ก็จะคงอยู่ในบัตรตลอดไป
2. ช่วยเหลือค่าน้ำ-ค่าไฟ นาน 10 เดือน

ผู้มีสิทธิได้รับ : ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั่วประเทศ จำนวน 14.5 ล้านคน แต่จะให้ครัวเรือนละ 1 สิทธิ ซึ่งปัจจุบันมีครัวเรือนที่มีสิทธิประมาณ 8.2 ล้านครัวเรือน
โดยจะช่วยเหลือค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา สำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้า ไม่เกิน 230 บาท/เดือน และใช้น้ำประปา ไม่เกิน 100 บาท/เดือน ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟในเดือนนั้น ๆ เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 - กันยายน 2562 รวม 10 เดือน แต่หากมีการใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีรายได้น้อยจะไม่ได้รับสิทธิในมาตรการนี้ ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด
ส่วนวิธีรับเงินช่วยเหลือ หากผู้มีรายได้น้อยใช้น้ำและไฟฟ้าอยู่ในกรอบวงเงินที่กำหนด เมื่อตอนที่นำบิลไปชำระที่การประปาและการไฟฟ้า ให้แสดงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วย หลังจากนั้นกรมบัญชีกลางจึงจะโอนเงินตามที่ชำระ คืนกลับเข้าไปในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในช่วงกลางเดือนของเดือนถัดไป
เริ่มจ่ายเงินเข้าบัตร (e-Money) : ทุกวันที่ 18 ของเดือน โดยเริ่มคืนเงินครั้งแรกวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562
ค่าไฟฟ้าฟรี 230 บาท/เดือน
ลงทะเบียนรับสิทธิ์ใช้ไฟฟรีได้อย่างไร ?
สำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 230 บาท/เดือน ที่ต้องการรับสิทธิ์ใช้ไฟฟ้าฟรี จะต้องลงทะเบียนกับหน่วยงานก่อน โดย
* ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ, สมุทรปราการ, นนทบุรี สามารถเลือกลงทะเบียนได้ตามช่องทางต่าง ๆ คือ
- การไฟฟ้านครหลวงเขตต่าง ๆ
- เว็บไซต์การไฟฟ้านครหลวง
- แอปพลิเคชั่น MEA Smart Life
* ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ต่างจังหวัด สามารถลงทะเบียนได้ที่
- เว็บไซต์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
* ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ, สมุทรปราการ, นนทบุรี สามารถเลือกลงทะเบียนได้ตามช่องทางต่าง ๆ คือ
- การไฟฟ้านครหลวงเขตต่าง ๆ
- เว็บไซต์การไฟฟ้านครหลวง
- แอปพลิเคชั่น MEA Smart Life
* ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ต่างจังหวัด สามารถลงทะเบียนได้ที่
- เว็บไซต์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
- สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในพื้นที่ทุกแห่ง
- PEA Shop และ PEA Mobile Shop ในพื้นที่ทุกแห่ง
- แอปพลิเคชัน PEA Smart plus
- ตัวแทนเก็บเงินค่าไฟฟ้า
- PEA Call Center โทร. 1129
- PEA Shop และ PEA Mobile Shop ในพื้นที่ทุกแห่ง
- แอปพลิเคชัน PEA Smart plus
- ตัวแทนเก็บเงินค่าไฟฟ้า
- PEA Call Center โทร. 1129
เช่าบ้านอยู่ใช้สิทธิ์ไฟฟ้าฟรีได้ไหม ?
กรณีเช่าบ้านอยู่ ไม่ได้เป็นเจ้าของมิเตอร์ก็สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ใช้ไฟฟ้าฟรีได้ หากปกติจ่ายค่าไฟไม่เกินเดือนละ 230 บาท
หากใช้สิทธิ์ไฟฟ้าฟรีไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน อยู่แล้ว จะได้รับสิทธิ์ค่าไฟฟ้า 230 บาท/เดือนหรือไม่ ?
สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ใช้สิทธิ์มาตรการค่าไฟฟ้าฟรี จากการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ให้ใช้สิทธิ์ฟรีตามมาตรการเดิม แต่หากเดือนใดมีการใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน แต่ใช้ไม่เกิน 230 บาท/ครัวเรือน/เดือน จะต้องใช้ตามมาตรการใหม่ รับสิทธิ์ตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระหว่างเดือนธันวาคม 2561 - กันยายน 2562
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ การไฟฟ้านครหลวง โทร. 1130 หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โทร. 1129

ค่าประปาฟรี 100 บาท/เดือน
ลงทะเบียนรับสิทธิ์ใช้น้ำฟรีได้อย่างไร ?
สำหรับผู้ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 100 บาท/เดือน ที่ต้องการรับสิทธิ์ใช้น้ำฟรี จะต้องลงทะเบียนกับหน่วยงานก่อน โดย
* ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ, สมุทรปราการ, นนทบุรี สามารถเลือกลงทะเบียนได้ตามช่องทางต่าง ๆ คือ
- สำนักงานประปาสาขา 18 แห่ง
- ศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต, เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ และเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน
- เคาน์เตอร์รับชำระเงิน กปน. สำนักงานใหญ่
- ศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต, เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ และเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน
- เคาน์เตอร์รับชำระเงิน กปน. สำนักงานใหญ่
ตั้งแต่วันนี้ - 31 มกราคม 2562 โดยเตรียมหลักฐาน คือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และหมายเลขทะเบียนผู้ใช้น้ำ มาลงทะเบียน และมีเงื่อนไข ดังนี้
1. เป็นผู้มีสิทธิ์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
2. ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ กับ กปน. เพียงครั้งเดียว (ลงทะเบียน 1 บัตร ต่อ 1 หมายเลขทะเบียนผู้ใช้น้ำ)
3. ยอดค่าน้ำที่ได้รับสิทธิ์ คือยอดค่าน้ำที่ใช้ในเดือนธันวาคม 2561 - กันยายน 2562 หรือยอดที่ระบุในใบแจ้งค่าน้ำเดือนมกราคม-ตุลาคม 2562
4. มียอดเงินที่ต้องชำระทั้งสิ้นไม่เกิน 100 บาท ต่อ 1 ทะเบียนผู้ใช้น้ำต่อเดือน หากเดือนใดมียอดเกิน 100 บาท จะไม่สามารถรับสิทธิ์ดังกล่าวในเดือนนั้นได้ และต้องชำระเองเต็มจำนวน
5. สิทธิ์นี้ไม่ครอบคลุมสำหรับผู้ใช้น้ำในหอพักหรือคอนโดมิเนียม
6. ชำระค่าน้ำตามปกติผ่านช่องทางต่าง ๆ ของ กปน. และจะได้รับการโอนเงินคืนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามยอดชำระจริงในกลางเดือนถัดไป
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการประชาชน โทร. 1125 ตลอด 24 ชั่วโมง
- การประปาส่วนภูมิภาค สำนักงานใหญ่
- สำนักงาน กปภ. เขต 1-10
- สำนักงาน กปภ. 234 สาขาทั่วประเทศ
- สำนักงาน กปภ. เขต 1-10
- สำนักงาน กปภ. 234 สาขาทั่วประเทศ
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การประปาส่วนภูมิภาค โทร. 1662
3. ช่วยเหลือค่าเช่าบ้านเดือนละ 400 บาท

ภาพจาก Workpoint News
รัฐจะช่วยเหลือค่าเช่าบ้านให้ผู้สูงอายุเดือนละ 400 บาท ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 - กันยายน 2562 รวม 10 เดือน ผ่านการโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ทั้งนี้ หากผู้มีสิทธิรายใดมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในระหว่างเดือนธันวาคม 2561 - กันยายน 2562 จะได้รับเงินในเดือนเกิดเป็นครั้งแรก จนสิ้นสุดมาตรการ
เริ่มจ่ายเงินเข้าบัตร (e-money) : ทุกวันที่ 12 ของเดือน
- ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอยู่แล้ว เริ่มจ่ายเงินให้วันที่ 12 ธันวาคม 2561
- ผู้ที่ยังไม่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (สำหรับคนที่ลงทะเบียนรอบ 2) เริ่มจ่ายเงินให้วันที่ 5 มกราคม 2562 และ 1 กุมภาพันธ์ 2562
- ผู้ที่ยังไม่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (สำหรับคนที่ลงทะเบียนรอบ 2) เริ่มจ่ายเงินให้วันที่ 5 มกราคม 2562 และ 1 กุมภาพันธ์ 2562
4. ช่วยเหลือค่าเดินทางไปรักษาพยาบาล 1,000 บาท

เป็นเงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายผู้สูงอายุในการเดินทางไปรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ด้วยการโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 1,000 บาท/คน (ได้รับครั้งเดียว)
ทั้งนี้ หากผู้มีสิทธิรายใดมีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ ในระหว่างเดือนธันวาคม 2561 - กันยายน 2562 จะได้รับเงินวันที่ 21 ของเดือนเกิด
เริ่มจ่ายเงินเข้าบัตร (e-Money) :
- ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอยู่แล้ว เริ่มจ่ายเงินให้วันที่ 21 ธันวาคม 2561
- ผู้ที่ยังไม่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (สำหรับคนที่ลงทะเบียนรอบ 2) เริ่มจ่ายเงินให้วันที่ 5 มกราคม 2562 และ 1 กุมภาพันธ์ 2562
- ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอยู่แล้ว เริ่มจ่ายเงินให้วันที่ 21 ธันวาคม 2561
- ผู้ที่ยังไม่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (สำหรับคนที่ลงทะเบียนรอบ 2) เริ่มจ่ายเงินให้วันที่ 5 มกราคม 2562 และ 1 กุมภาพันธ์ 2562
เงินช่วยเหลือเพิ่มเติม นำไปใช้อะไรได้บ้าง ถอนเป็นเงินสดได้ไหม

ภาพจาก ทำเนียบ รัฐบาล
เรียกว่าช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยได้รับประโยชน์กันไปเต็ม ๆ กับมาตรการจัดหนักปลายปีแบบนี้ ส่วนใครที่ต้องการทราบรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง หรือ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 02-109-2345 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30-17.30 น.
ทั้งนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2562 กระทรวงการคลังได้ขยายเวลาจ่ายเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ในส่วนที่เป็นค่าครองชีพพื้นฐาน ได้แก่ วงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค เงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม และวงเงินค่าโดยสารรถสาธารณะ ออกไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 จากเดิมถึงเดือนกันยายน 2562
อย่างไรก็ดี ในส่วนของวงเงินช่วยเหลือเพิ่มทั้ง 4 มาตรการนี้ จะสิ้นสุดได้รับเงินช่วยเหลือตามเดิม ไม่มีการขยายเวลาให้แต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี ในส่วนของวงเงินช่วยเหลือเพิ่มทั้ง 4 มาตรการนี้ จะสิ้นสุดได้รับเงินช่วยเหลือตามเดิม ไม่มีการขยายเวลาให้แต่อย่างใด
*หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 12 มิถุนายน 2562
ขอขอบคุณข้อมูลจาก