เพียงแค่แตะ ก็โดนดูดเงินจากบัตรเครดิต-บัตรเดบิตได้ เรื่องแบบนี้ทำได้จริงหรือเปล่า แล้วจะมีวิธีป้องกันยังไง เพื่อจะใช้บัตรอย่างปลอดภัย
เชื่อเลยว่าใครที่ใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตอยู่เป็นประจำ พอเห็นคลิปนี้น่าจะรู้สึกหวั่นใจไม่น้อยว่าแบบนี้เราจะตกเป็นเหยื่อโดนมิจฉาชีพขโมยเงินจากบัตรไปได้ง่าย ๆ เหมือนในคลิปหรือเปล่า แล้วการดูดเงินแบบนี้สามารถทำได้จริงไหม วันนี้ กระปุกดอทคอม จะมาคลายข้อสงสัย
ดูดเงินจากบัตร ทำได้จริงไหม ?
เพราะฉะนั้นจึงเกิดช่องโหว่ให้กลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาขโมยเงินในบัตรได้ ด้วยการตั้งค่าในเครื่องชำระเงิน (RFID Scanners) ไว้ก่อน ว่าจะให้บัตรนั้นจ่ายเงินซื้ออะไร จำนวนเท่าไหร่ แล้วถึงค่อย ๆ นำเครื่องไปสุ่มสแกนนั่นเอง ซึ่งถ้าจะให้เครื่องอ่านต้องมีระยะห่างน้อยกว่า 4 เซนติเมตร และโดยปกติแล้วธนาคารจะกำหนดวงเงินในการแตะบัตรชำระสินค้าไม่เกินครั้งละ 1,500 บาท
อย่างไรก็ตาม ย้ำอีกครั้งว่าต้องเป็นบัตรแบบ Contactless Payment เท่านั้น ถึงจะถูกโจรกรรมแบบนี้ได้ ส่วนใครที่ใช้บัตรเครดิต-บัตรเดบิตแบบปกติ ก็ขอให้สบายใจได้
รู้ได้ยังไงว่าเราใช้บัตรแบบ Contactless Payment อยู่
สำหรับบัตรแบบ Contactless Payment มีให้บริการทั้งในฝั่งของบัตร Visa ที่ใช้เทคโนโลยี Visa payWave และบัตร Master Card ที่เรียกว่า Master Card PayPass ใครอยากรู้ว่าบัตรตัวเองเป็นแบบไหน มีความเสี่ยงหรือเปล่า ก็ลองหยิบบัตรเครดิต บัตรเดบิต ในกระเป๋าสตางค์ตัวเองขึ้นมาเช็กดูได้เลย
แม้ผู้ให้บริการบัตรต่าง ๆ จะออกแบบระบบความปลอดภัยมาในระดับหนึ่งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการจำกัดวงเงินต่อครั้ง หรือกำหนดให้เครื่องอ่านบัตรในระยะสั้น น้อยกว่า 4 เซนติเมตร แต่ถึงอย่างนั้นเพื่อความสบายใจที่มากขึ้น การป้องกันด้วยตัวเองเพิ่มไปอีกขั้น ก็จะช่วยลดโอกาสตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ ซึ่งทำได้โดย
วิธีนี้สำหรับใครที่อยากประหยัดเงินหน่อย ไม่อยากไปหาซื้อกระเป๋าป้องกัน RFID มาใช้ ก็ทดแทนได้ด้วยการหาแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์สำหรับเผาอาหาร มาทำเป็นซองห่อทับบัตรไว้ก็ได้
ดูวิธีใช้บัตรเครดิต-บัตรเดบิต อย่างปลอดภัย เพิ่มเติมได้ที่ >> 10 วิธีป้องกันบัตรเครดิต-เดบิตถูกขโมยไปใช้ ! ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ
ต้องบอกว่าตอนนี้เทคโนโลยีทางการเงินกำลังก้าวหน้าไปอย่างมาก ทำให้รูปแบบการใช้จ่ายในชีวิตของเราสะดวก สบาย รวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ แต่ในอีกด้านก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน ถ้าเราไม่รู้จักใช้อย่างระมัดระวัง
ช่วงที่ผ่านมาหลายคนคงจะเคยผ่านตากับคลิปที่แชร์กันในโลกออนไลน์ ที่มีชายคนนึงนำเครื่องรูดบัตรไปสแกนที่กระเป๋ากางเกงของอีกคน ซึ่งมีบัตรเครดิตอยู่ข้างใน แล้วเครื่องก็ทำการคิดเงินจากบัตรนั้นไปหน้าตาเฉย
ดูดเงินจากบัตร ทำได้จริงไหม ?
แม้จะดูไม่ค่อยน่าเชื่อเท่าไหร่ กับการแค่ใช้เครื่องแตะผ่านกระเป๋า จะขโมยเงินจากบัตรไปได้ง่าย ๆ แต่ก็ต้องบอกเลยว่ากรณีแบบนี้ สามารถเกิดขึ้นได้จริง ถ้าบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตของเราเป็นแบบ "Contactless Payment" (จ่ายเงินโดยไม่ต้องรูดบัตร) เพราะบัตรแบบนี้มีการใช้เทคโนโลยีไร้สายจำพวก RFID หรือ NFC ที่เพียงแค่แตะสัมผัสใกล้ ๆ ก็ชำระค่าบริการได้แล้ว คล้ายกับการใช้บัตรเข้ารถไฟฟ้า ซึ่งนิยมกันมากในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ย้ำอีกครั้งว่าต้องเป็นบัตรแบบ Contactless Payment เท่านั้น ถึงจะถูกโจรกรรมแบบนี้ได้ ส่วนใครที่ใช้บัตรเครดิต-บัตรเดบิตแบบปกติ ก็ขอให้สบายใจได้
รู้ได้ยังไงว่าเราใช้บัตรแบบ Contactless Payment อยู่
วิธีสังเกตว่าบัตรเรามีความเสี่ยงหรือไม่นั้น ดูได้ง่าย ๆ จากบนบัตรว่ามีสัญลักษณ์ EMV Contactless หรือเปล่า ถ้ามีก็แสดงว่าบัตรที่เราใช้เป็นแบบ Contactless Payment สามารถชำระสินค้าผ่านการแตะสัมผัสได้ แปลว่าก็มีโอกาสที่จะถูกดูดเงินในบัตรออกไปเช่นกัน
สัญลักษณ์ EMV Contactless
ในไทยมีบัตรแบบ Contactless Payment ไหม
ส่วนใหญ่บัตรแบบ Contactless Payment จะแพร่หลายในต่างประเทศมากกว่า โดยเฉพาะในยุโรปหลาย ๆ แห่งที่กำลังเข้าสู่การเป็นประเทศสังคมไร้เงินสด ขณะที่ในประเทศไทยเองแม้จะยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก แต่ก็มีหลาย ๆ ธนาคารที่มีบัตรแบบนี้ออกมาให้เห็นกันแล้ว ทั้ง Visa payWave และ Master Card PayPass แม้ว่าร้านค้าที่รองรับการชำระเงินผ่านการแตะบัตรจะยังมีจำนวนไม่มากก็ตาม
วิธีป้องกันโดนขโมยเงินจากบัตร
1. หลีกเลี่ยงนำบัตรใส่ในกระเป๋าหลังกางเกง
เป็นวิธีป้องกันเบื้องต้นที่ง่ายที่สุด คือ อย่านำบัตรที่ใส่ไว้กระเป๋าหลังของกางเกง หรือช่องเล็กของกระเป๋าสะพาย เพราะเป็นจุดอับสายตาที่เราจะไม่เห็นเลย ถ้ามีคนแอบนำเครื่องมาสแกนขโมยเงินออกไป
2. ใช้กระเป๋าป้องกัน RFID
ปัจจุบันมีอุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันเครื่อง RFID Scanners ได้โดยเฉพาะ อย่างกระเป๋าป้องกัน RFID ซึ่งมีหน้าตาเหมือนกับกระเป๋าสตางค์ทั่วไปเลย ใครที่ไม่อยากเสี่ยงต้องตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ก็ลองหาซื้อมาใช้งานดู
3. ใช้แผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ห่อบัตรไว้
ดูวิธีใช้บัตรเครดิต-บัตรเดบิต อย่างปลอดภัย เพิ่มเติมได้ที่ >> 10 วิธีป้องกันบัตรเครดิต-เดบิตถูกขโมยไปใช้ ! ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ
ต้องบอกว่าตอนนี้เทคโนโลยีทางการเงินกำลังก้าวหน้าไปอย่างมาก ทำให้รูปแบบการใช้จ่ายในชีวิตของเราสะดวก สบาย รวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ แต่ในอีกด้านก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน ถ้าเราไม่รู้จักใช้อย่างระมัดระวัง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก