คลินิกแก้หนี้ ปรับเกณฑ์คุณสมบัติใหม่ เปิดโอกาสอาชีพอิสระ-ถูกฟ้องดำเนินคดี ร่วมโครงการได้ เริ่ม 1 พฤษภาคม 2561 หวังขยายฐานช่วยคนปลดหนี้ 50,000 ราย วันที่ 23 เมษายน 2561 นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวถึงโครงการ
คลินิกแก้หนี้ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด และธนาคารพาณิชย์ 16 แห่ง ร่วมกันดำเนินการเพื่อปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้ มาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2560 ว่า ขณะนี้มีลูกหนี้บางส่วนติดปัญหาเรื่องคุณสมบัติบางประการ ทำให้เสียโอกาสเข้าร่วมโครงการ
จึงได้ทำการปรับหลักเกณฑ์เงื่อนไขใหม่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป
โดยจะขยายขอบเขตเพิ่มให้ครอบคลุมถึงลูกหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันค้างชำระเกินกว่า 3 เดือนกับธนาคารตั้งแต่ 2 แห่งขึ้นไป ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2561 ทั้งกลุ่มที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี และกลุ่มที่ถูกดำเนินคดีแล้ว แต่ยังไม่มีคำพิพากษา จากเดิมกำหนดเฉพาะลูกหนี้ที่มีรายได้ประจำ ค้างชำระเกินกว่า 3 เดือนก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม 2560 และยังไม่ถูกดำเนินคดีเท่านั้น
ทั้งนี้ จากการปรับเงื่อนไขใหม่ คาดว่าจะมีลูกหนี้สามารถเข้าโครงการ
เพิ่มขึ้นประมาณ 50,000 ราย เฉลี่ยรายละ 400,000 บาท รวมมูลหนี้ 20,000 ล้านบาท หลังจากในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา มีผู้สมัครเข้าโครงการ 33,736 ราย ผ่านคุณสมบัติเพียง 1,074 ราย และมีผู้ที่เข้าร่วมโครงการจริง 594 ราย รวมยอดหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว 129.65 ล้านบาท ซึ่งช่วงสิ้นเดือนเมษายนนี้ จะมีลูกหนี้ที่ผ่อนชำระเสร็จสิ้นเป็นรายแรก
ด้านนางฤชุกร สิริโยธิน รองผู้ว่าด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไข พ.ร.ก.บริษัทบริหารสินทรัพย์ เพื่อขยายขอบเขตให้สามารถบริหารหนี้เสียที่เกิดกับนอนแบงก์ได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยจะเป็นการช่วยลูกหนี้นอนแบงก์ให้มาเข้าร่วมในโครงการคลินิกแก้หนี้ได้
สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ สามารถติดต่อเข้าโครงการได้ที่ บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด โทร. 0-2610-2266 และสมัครผ่านเว็บไซต์ได้ที่ www.debtclinicbysam.com หรือ www.คลินิกแก้หนี้.com
ภาพจาก
www.คลินิกแก้หนี้.com อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
