
วันที่ 13 กันยายน 2560 นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาเพื่อที่จะออกแพ็กเกจมาตรการส่งเสริมการออมระดับชาติ โดยจะเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาภายในเดือนกันยายนนี้ โดยหากมีการส่งเสริมการออมได้สำเร็จ จะทำให้ประหยัดงบประมาณในการดูแลผู้สูงอายุได้ถึง 6-7 แสนล้านบาท ในช่วง 10-15 ปีข้างหน้า สำหรับแพ็กเกจดังกล่าวประกอบด้วย 4 มาตรการ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนรู้จักการออมหลังวัยเกษียณ ดังนี้
- มาตรการที่ 2 ส่งเสริมความแข็งแกร่งให้สถาบันการออม ทั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ และสถาบันการเงินชุมชน เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ไม่กระทบกับผู้ออม รวมถึงทำให้เกิดความมั่นใจกับการออมในสถาบันเหล่านี้มากขึ้น

- มาตรการที่ 4 เพิ่มเติมระบบการออมเพื่อผู้เกษียณอายุ โดยการจัดตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) ให้ผู้ประกอบการตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับ โดยจะให้บริษัทขนาดใหญ่เข้ามาสมทบเงินในระยะแรกและบริษัทขนาดเล็กในระยะต่อไป ภายใน 7 ปี ซึ่งคาดว่าจะมีลูกจ้างเป็นสมาชิกถึง 11 ล้านคน
นอกจากนี้ รัฐบาลยังเล็งเห็นความสำคัญของปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งผู้ที่ประสบปัญหาส่วนใหญ่ คือ กลุ่มคนรากหญ้า ทำให้กลุ่มคนดังกล่าวขาดการออม ดังนั้น รัฐบาลจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์ภายในปีนี้ โดยจะนำหนี้นอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบทั้งหมด เพื่อให้สามารถจัดเก็บดอกเบี้ยได้ในระดับที่เหมาะสมตามกฎหมายกำหนด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


