
ฟุ่มเฟือย คำนี้ดูไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไรถ้าจะคิดในแง่ของการจับจ่ายใช้สอย แต่ในเมื่อฟุ่มเฟือยแล้วได้กำไรเป็นสุขภาพดี ๆ มีหรือใครจะไม่อยากฟุ่มเฟือย
สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่คล่องตัวอย่างทุกวันนี้บังคับเรากลาย ๆ ให้ใช้จ่ายอย่างรัดกุม สำหรับบางคนคำว่าฟุ่มเฟือยจึงไม่มีสิทธิ์ได้เฉียดเข้าใกล้ชีวิตได้เลย ทว่าหากเปิดโอกาสให้ตัวเองได้จับจ่ายอย่างฟุ่มเฟือยในบางเรื่องที่เหมาะสม แถมยังเสมือนเป็นการลงทุนชีวิตก็มีสุขภาพดี ๆ เป็นกำไรอีกต่างหาก อย่างนี้แล้วคุณจะกล้าท้าตัวเองด้วยการทำตัวฟุ่มเฟือยเช่นที่ Lisa แนะนำมาเป็นบางครั้งบางคราวบ้างไหมล่ะ
ใครที่กำลังเอาจริงเอาจังกับการใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่าย่อมไม่มีที่ว่างในชีวิตให้กับคำว่า “ฟุ่มเฟือย” แต่เราอยากบอกว่า...สิ่งที่คุณคิดอาจไม่ถูกทั้งหมดเสมอไป!
เพราะสิ่งที่เราอยากบอกกับสาว ๆ ก็คือ ความฟุ่มเฟือยไม่ใช่แค่ไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น แต่มันยังจำเป็นและทำให้เราสุขภาพดีขึ้นด้วย เมื่อบรรลุความสุขจากการใช้เงิน โดยสอดคล้องกับสถานการณ์ทางการเงินของแต่ละคน เพราะต้องยอมรับกันว่าเงินซื้อความสะดวกสบายให้ชีวิตได้ แม้ว่าเราจะต้องตั้งงบประมาณสำหรับมันก็ตาม
กุญแจสำคัญขึ้นอยู่กับการหาวิธีที่เราจะฟุ่มเฟือยอย่างไรให้ถูกที่ถูกทาง โดยไม่ให้ตัวเองหลุดออกจากเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้ และทำให้เงินที่จ่ายไปได้ความสุขหรือผลตอบแทนกลับคืนมาต่างหาก

ฟุ่มเฟือยเพื่อต่อยอดให้ชีวิต
“ประหยัดวันนี้เพื่อชีวิตวันข้างหน้า” สโลแกนนี้ได้ยินกันมานาน แต่มันคงไม่คุ้มค่าหากความพยายามที่จะเอาชนะตัวเองด้วยการวางแผนใช้เงินอย่างรัดกุม ลด ละ เลิกสิ่งฟุ่มเฟือย แล้วประหยัดซะจนทำให้ชีวิตติดกับดักความเครียด สุดท้ายต้องมาลงเอยด้วยความรู้สึกสูญเสียหรือรู้สึกไม่ดีต่อตัวเอง
ตรงกันข้ามหากเรายอมรับว่าความฟุ่มเฟือยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และเราสามารถใช้ประโยชน์จากความจริงที่ว่านี้มาสร้างความสุขให้ตัวเองได้ล่ะ...จะดีกว่าไหม ?



เพราะในความเป็นจริงการฟุ่มเฟือยบ้างในบางเวลาก็สามารถสร้างความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่กระตุ้นให้เรามีกำลังใจ รู้สึกสดใส และมีชีวิตชีวาขึ้นได้เหมือนกัน

โอกาสของความฟุ่มเฟือย
ธรรมชาติของมนุษย์ แม้จะมีเงินมากขึ้นหรือมีบ้านหลังใหญ่ขึ้นก็ไม่ได้หมายถึงความสุขที่เพิ่มขึ้นเสมอไป เพราะเรามักวัดระดับความสุขด้วยระดับของความพอใจ ความฟุ่มเฟือย จึงถูกมองว่าเป็นตัวอันตรายสำหรับคนที่ไม่รู้จัก “พอ” หรือพูดง่าย ๆ ความสุขจะมากหรือน้อยไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของความฟุ่มเฟือย เพราะสิ่งฟุ่มเฟือยแม้เพียงเล็ก ๆ หากเราพึงใจก็ก่อให้เกิดความสุขได้ เช่น การกินคุกกี้หนึ่งชิ้นน้ำหนัก 10 กรัม อาจไม่ได้ทำให้เรารู้สึกพอใจเท่ากับการได้กินคุกกี้ 2 ชิ้นที่น้ำหนักเท่ากัน เพียงเพราะมันมีจำนวนชิ้นที่มากกว่าก็ได้
เทคนิคของการใช้ประโยชน์จากความฟุ่มเฟือยจึงควรมีขนาดเล็ก แต่เกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง ตราบใดที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินของแต่ละคน เช่น



พึงระลึกเสมอว่าเราใช้ความฟุ่มเฟือยเป็นเครื่องมือช่วยผ่อนปรนจากความตึงเครียดจากการใช้ชีวิตอย่างประหยัด แต่ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายอย่างไร้เหตุผล ไม่มีสติ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
