จัดอันดับ 5 กองทุนรวม SSF และ RMF ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในปี 2564 จะมีกองไหนน่าสนใจบ้าง ตามมาส่องกันเลย เทศกาลลดหย่อนภาษี 2564 มาถึงแล้ว ใครอยากลงทุนในกองทุนรวมเพื่อหวังผลตอบแทนและได้ประหยัดภาษีไปในตัว ปัจจุบันมีกองทุนเพื่อการลดหย่อนภาษีอยู่ 2 รูปแบบให้เลือก คือ 1. กองทุนรวมเพื่อการออม หรือกองทุนรวม SSF ซึ่งมาแทนกองทุนรวม LTF ที่สิ้นสุดไปแล้ว โดยเงื่อนไขสำคัญคือ เมื่อลงทุนแล้วต้องถือครองไว้อย่างน้อย 10 ปี และสามารถซื้อได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท 2. กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือกองทุนรวม RMF มีข้อบังคับให้ซื้ออย่างน้อยปีเว้นปี โดยต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปี และจะขายได้เมื่ออายุ 55 ปี เหมาะกับคนที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อการเกษียณ สามารถซื้อได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่เมื่อรวมกับกองทุนรวม SSF และกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท ทั้งนี้ จะเลือกซื้อกองทุนรวม SSF หรือ RMF ก็ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการออมของเรา ถ้าต้องการออมเงินระยะสั้น 10 ปี ก็ควรเลือก SSF แต่ถ้าหวังผลว่าจะมีเงินเก็บไว้ใช้ในยามเกษียณ กองทุน RMF ย่อมตอบโจทย์กว่า ส่วนคนที่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อกองทุนรวมกองไหนดี เพราะมีให้เลือกอยู่มากมายหลายกอง วันนี้เราได้ลิสต์ 5 กองทุนรวม SSF และ 5 กองทุนรวม RMF ที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดตั้งแต่ต้นปี 2564 จากการจัดอันดับของ wealthmagik.com ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2564 มาแนะนำให้ทราบเป็นข้อมูลเบื้องต้น กองทุน SSF ตัวท็อปจาก บลจ.แอสเซท พลัส ที่เน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กพื้นฐานดี ไม่น้อยกว่า 65% ของพอร์ต โดยกองนี้ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในบรรดากองทุน SSF ทั้งหมด นับตั้งแต่ต้นปี 2564 • จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : 5,000 บาท • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 26.75% • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 32.56% • นโยบายการจ่ายเงินปันผล : ไม่จ่ายเงินปันผล • ระดับความเสี่ยงกองทุน : 6 ข้อมูลเพิ่มเติม assetfund.co.th อีกหนึ่งกองทุนรวมที่เน้นลงทุนให้หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยมีสัดส่วนไม่น้อยกว่า 80% ทำให้ผลตอบแทนของ TISCOMS-SSF จาก บลจ.ทิสโก้ ติดชาร์ตกองทุนรวม SSF ผลงานดีอันดับต้น ๆ ของปีนี้ • จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : 1,000 บาท • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 42.48% • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 32.14% • นโยบายการจ่ายเงินปันผล : ไม่จ่ายเงินปันผล • ระดับความเสี่ยงกองทุน : 6 ข้อมูลเพิ่มเติม tiscoasset.com กองนี้เหมาะกับคนอยากลงทุนหุ้นเทคโนโลยีของต่างประเทศ เพราะ KKP TECH-H-SSF จาก บลจ.เกียรตินาคินภัทร ลงทุนใน iShares Expanded Tech Sector ETF ซึ่งกระจายการลงทุนในบริษัทกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสื่อสาร และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ในทวีปอเมริกาเหนือ • จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : 1,000 บาท • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 33.80% • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 26.45% • นโยบายการจ่ายเงินปันผล : ไม่จ่ายเงินปันผล • ระดับความเสี่ยงกองทุน : 7 ข้อมูลเพิ่มเติม kkpfg.com TSF-SSF เป็นกองทุนรวม SSF ที่เน้นลงทุนในหุ้นทั่วไปไม่น้อยกว่า 80% โดยกระจายในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม, กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์, กลุ่มพลังงาน, กลุ่มปิโตรเคมี เป็นต้น • จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : 1,000 บาท • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 45.75% • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 26.19% • นโยบายการจ่ายเงินปันผล : ไม่จ่ายเงินปันผล • ระดับความเสี่ยงกองทุน : 6 ข้อมูลเพิ่มเติม tiscoasset.com สำหรับคนที่ต้องการลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกา SCBS&P500-SSF จากไทยพาณิชย์ก็น่าสนใจ กองนี้เน้นลงทุนในหุ้นที่อยู่ในดัชนี S&P 500 ซึ่งมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 • จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : 1,000 บาท • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 33.32% • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 25.79% • นโยบายการจ่ายเงินปันผล : จ่ายเงินปันผล • ระดับความเสี่ยงกองทุน : 6 ข้อมูลเพิ่มเติม scbam.com ตอบรับกระแสตลาดหลักทรัพย์ในประเทศเวียดนามที่กำลังมาแรงและยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกในอนาคต ทำให้กองทุน ASP-VIETRMF ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้นของประเทศเวียดนามไม่น้อยกว่า 80% เป็นกองทุน RMF ที่มีผลงานดีที่สุดในปี 2564 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นการลงทุนในต่างประเทศจึงมีความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนและความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัวในประเทศใดประเทศหนึ่ง • จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : 1,000 บาท • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 14.54% • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 55.03% • นโยบายการจ่ายเงินปันผล : ไม่จ่ายเงินปันผล • ระดับความเสี่ยงกองทุน : 6 ข้อมูลเพิ่มเติม assetfund.co.th B-INDIAMRMF ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Kotak Funds - India Midcap Fund (กองทุนหลัก) ชนิดหน่วยลงทุน Class J Acc ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยประเทศอินเดียนับเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการเติบโตของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม • จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : 500 บาท • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 6.89% • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 39.39% • นโยบายการจ่ายเงินปันผล : ไม่จ่ายเงินปันผล • ระดับความเสี่ยงกองทุน : 6 ข้อมูลเพิ่มเติม bangkokbank.com เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีพื้นฐานดี มีความมั่นคง และมีแนวโน้มการเจริญเติบโตทางธุรกิจ ทั้งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ/หรือตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ไม่น้อยกว่า 80% • จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : ไม่กำหนด • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 12.09% • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 32.11% • นโยบายการจ่ายเงินปันผล : ไม่จ่ายเงินปันผล • ระดับความเสี่ยงกองทุน : 6 ข้อมูลเพิ่มเติม tiscoasset.com อีกหนึ่งกองทุนที่มีนโยบายลงทุนหุ้นไทยขนาดกลางและเล็ก โดยคัดเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ทั้งกลุ่มพาณิชย์, สื่อและสิ่งพิมพ์, ขนส่งและโลจิสติกส์, อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ • จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : 500 บาท • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 10.45% • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 31.70% • นโยบายการจ่ายเงินปันผล : ไม่จ่ายเงินปันผล • ระดับความเสี่ยงกองทุน : 6 ข้อมูลเพิ่มเติม kasikornasset.com ทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศ เพราะ KKP GNP RMF-UH เน้นการลงทุนในหุ้นสามัญทั่วโลก โดยเฉพาะทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป แต่ผู้ลงทุนก็ต้องยอมรับความเสี่ยงจากการผันผวนของปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ เช่น เศรษฐกิจ การเมือง สังคม รวมทั้งความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งกองนี้เป็น Unhedged จึงไม่ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน • จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : 1,000 บาท • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 22.97% • ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 28.48% • นโยบายการจ่ายเงินปันผล : ไม่จ่ายเงินปันผล • ระดับความเสี่ยงกองทุน : 6 ข้อมูลเพิ่มเติม kkpfg.com ทั้งนี้ ต้องขอย้ำว่า ผลตอบแทนในอดีตไม่ได้การันตีผลตอบแทนในอนาคต เพราะทุกกองทุนมีโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้น-ลงได้ตามปัจจัยต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นควรเลือกลงทุนในระดับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ระดับ 1 (ความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนน้อย) ไปจนถึงระดับ 8 (ความเสี่ยงขาดทุนสูงมาก แต่ก็อาจได้ผลตอบแทนมาก) นอกจากนี้ต้องศึกษาข้อมูลและปฏิบัติตามเงื่อนไขของกองทุนรวม SSF และ RMF ให้ชัดเจน เพราะหากทำผิดเงื่อนไขขึ้นมาเมื่อไร ไม่ใช่แค่ต้องคืนเงินภาษี แต่ยังต้องเสียค่าปรับอีกต่างหาก ทำความเข้าใจ กองทุน SSF ตัวช่วยลดหย่อนภาษีที่มาแทน LTF เทคนิคเลือก RMF ลดหย่อนภาษีอย่างไรให้เหมาะกับตัวเรา 5 เรื่องน่ารู้ก่อนลงทุน RMF ลดหย่อนภาษี ลดหย่อนภาษี 2564 มีอะไรบ้าง รู้ไว้ก่อนยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กองทุนรวม คืออะไร ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ 3 เทคนิคพิชิตกองทุนรวม แบบคนไม่มีเวลา 5 คำถามที่ต้องถามตัวเอง ก่อนตัดสินใจซื้อกองทุนรวม อยากซื้อกองทุนรวม ต้องเริ่มอย่างไร ขอบคุณข้อมูลจาก wealthmagik.com บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด ธนาคารเกียรตินาคินภัทร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด ธนาคารกรุงเทพ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด
แสดงความคิดเห็น