ครบกำหนดพักชำระหนี้บ้าน หนี้รถ หนี้บัตรเครดิต แล้วยังผ่อนต่อไม่ไหว เพราะพิษ COVID-19 ลองมาดูมาตรการช่วยเหลือระยะที่ 2 จากธนาคารและสถาบันการเงินต่าง ๆ แม้สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทยจะซาลง จนปลดล็อกกิจการต่าง ๆ ได้เกือบทั้งหมดแล้ว แต่คนจำนวนมากยังคงมีรายได้ไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้กับสถาบันการเงิน ซึ่งความช่วยเหลือส่วนหนึ่งจะสิ้นสุดมาตรการในช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคม ดังนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย ระยะที่ 2 เพื่อให้สถาบันการเงินต่าง ๆ ดำเนินการผ่อนปรนอย่างน้อยตามขั้นต่ำที่กำหนดไว้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ลูกหนี้ต่ออีกระยะ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ในส่วนของธนาคารและสถาบันการเงินต่าง ๆ จะมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย ทั้งการชะลอชำระหนี้ พักชำระหนี้ ในระยะที่ 2 อย่างไรบ้าง เรารวบรวมมาให้ทราบแล้ว (ข้อมูลวันที่ 8 ตุลาคม 2563) โดยผู้ที่เคยลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือเดิมอยู่ก่อนแล้ว หรือยังไม่เคยลงทะเบียน สามารถติดต่อธนาคารเพื่อเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือ ระยะที่ 2 ได้เลย (เป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของธนาคาร)สำหรับมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมในปี 2564 สามารถอ่านได้ที่บทความ >> มาแล้ว ! มาตรการพักชำระหนี้ เยียวยาโควิดรอบ 2 จากแบงก์ต่าง ๆ เช็กด่วนที่ไหนช่วยอะไรบ้าง โดยลูกค้าที่เคยเข้าร่วมมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 จะได้รับการพักชำระหนี้ต่อโดยอัตโนมัติอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2563 โดยไม่ต้องติดต่อธนาคารเพื่อจัดทำนิติกรรมสัญญาใด ๆ ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนดพักชำระหนี้ถึง 31 ธันวาคม 2563 แล้ว จะต้องกลับมาชำระเงินงวดตามปกติ ส่วนดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นระหว่างพักชำระหนี้ ให้นำไปชำระในงวดสุดท้ายของสัญญา แต่หากยังไม่สามารถชำระหนี้ได้ สามารถติดต่อธนาคารเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ได้เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ เป็นลูกค้าสินเชื่อบุคคลทุกประเภทที่ค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน และไม่เป็น NPL ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 เป็นลูกค้าสินเชื่อ SMEs วงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท และไม่เป็น NPL ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2562 สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการพักชำระหนี้ต่ออีก 3 เดือน และต้องการออกจากมาตรการ ให้แจ้งความประสงค์ที่แอปพลิเคชัน MyMo และเลือกแผนชำระเงินงวดที่เหลือ โดยมีให้เลือก 3 แผนเงื่อนไขการออกจากมาตรการพักชำระหนี้ แจ้งความประสงค์ผ่านแอปฯ MyMo ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน - 31 ธันวาคม 2563 โดยจะมีผลในวันถัดไป หากธนาคารอนุมัติแล้ว ไม่สามารถขอกลับเข้ามาตรการได้อีก กรณีผิดนัดชำระหนี้ ธนาคารจะนำส่งรายงานข้อมูลเครดิตไปยัง บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด กรณีกู้ร่วม ให้ผู้กู้ที่มีชื่อเป็นลำดับแรกในสัญญากู้เงิน เป็นผู้มีสิทธิ์แจ้งความประสงค์ออกจากมาตรการ ผ่านแอปฯ MyMo เท่านั้น หากมีหนี้ค้างชำระ มีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หรือติดสถานะทางกฎหมายใด ๆ ไม่สามารถแจ้งความประสงค์ออกจากมาตรการ ผ่านแอปฯ MyMo ได้ เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ สำหรับลูกหนี้ที่มีสินเชื่อเคหะ ร่วมกับสินเชื่ออื่น ๆ เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต ของธนาคารออมสิน สามารถรวมหนี้ได้ เพื่อลดภาระดอกเบี้ยของหนี้ เป็นไม่เกิน MRRช่องทางลงทะเบียน คลิกลงทะเบียนปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ด้วยวิธีการรวมหนี้ของธนาคารออมสินได้ ที่นี่ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ธนาคารออมสิน โทร. 1115 เปลี่ยนเป็นวงเงินกู้แบบกำหนดระยะเวลา (Term Loan) 48 งวด หรือ ขยายระยะเวลาได้ตามความสามารถในการชำระหนี้ ลดการผ่อนชำระลง 30% จากการผ่อนชำระตามสัญญากู้เดิม นานสูงสุด 6 เดือน ได้แก่ สินเชื่อบ้าน, สินเชื่อ Home for Cash, สินเชื่อกรุงไทยบ้านให้เงิน มีมาตรการช่วยเหลือ ดังนี้ พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย นาน 3 เดือน หรือ พักชำระเงินต้น (ชำระเฉพาะดอกเบี้ย) นาน 3 เดือน หรือ ลดค่างวด โดยการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ เป็นลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด 19 เช่น ธุรกิจสายการบิน, ธุรกิจโรงแรม หรือธุรกิจที่ปิดกิจการชั่วคราวตามประกาศทางราชการ เป็นต้น เป็นลูกค้าที่มีสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับธนาคาร เป็นลูกค้าที่มีประวัติการชำระปกติ ก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2563 การพิจารณาเข้าร่วมมาตรการฯ อยู่ในดุลพินิจของธนาคาร กรณีที่ลูกค้าไม่สามารถชำระหนี้ได้ กรุณาติดต่อธนาคาร เพื่อรับคำปรึกษาและความช่วยเหลือที่เหมาะสม ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ธนาคารกรุงไทย อัปโหลดเอกสาร ประกอบด้วย สำเนาบัตรประชาชนของผู้กู้ เอกสารแสดงการเปลี่ยนชื่อ-สกุล ผู้กู้ (ถ้ามี) เอกสารแสดงรายได้ก่อนได้รับผลกระทบ เอกสารแสดงรายได้หลังได้รับผลกระทบ เอกสารแสดงความสัมพันธ์ของผู้ได้รับผลกระทบและผู้กู้* (ถ้ามี) ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ธนาคารกรุงไทย Krungthai Contact Center 02-111-1111 ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ ลูกค้าที่ใช้บริการบัตรเครดิตกสิกรไทย และบัตรเงินด่วน Xpress Cash ได้ลดดอกเบี้ยโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องติดต่อธนาคาร ลูกค้าสินเชื่อเงินด่วน XPress Loan และสินเชื่อรถ Kleasing สินเชื่อรถช่วยได้ ประเภทจำนำทะเบียนรถ ที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป จะได้รับการลดดอกเบี้ยโดยอัตโนมัติ เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ เป็นลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากสถานการณ์ COVID-19 เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน หรือธุรกิจที่ปิดบริการชั่วคราวตามประกาศทางราชการ ลูกค้าต้องไม่ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 90 วัน หรือ 3 เดือน นับแต่วันครบกำหนดชำระ (NPL) ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 ลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้าน ต้องเป็นลูกค้าที่จดทะเบียนจำนองหลักประกันก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2563 พิมพ์ @help ผ่าน LINE Kbank Live คลิก หรือสแกน QR CODE ด้านล่างนี้ ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ธนาคารกสิกรไทย K-Contact Center 02-888-8888 K-BIZ Contact Center 02-888-8822 (สำหรับลูกค้าธุรกิจ) ปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำมาอยู่ที่ 5% (จากเดิม 10%) จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพทุกประเภท และทุกรายได้รับสิทธิ์อัตโนมัติ โดยไม่ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ มาตรการที่ต้องลงทะเบียน เลื่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ย นาน 3 เดือน และลดดอกเบี้ยลงเหลือ 12% ในระหว่างเลื่อนชำระ เปลี่ยนประเภทการผ่อนชำระบัตรเครดิตเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลาผ่อนชำระ 48 งวด และลดดอกเบี้ยลงเหลือ 12% โอนภาระหนี้บัตรเครดิตค้างชำระเป็นการผ่อนชำระระยะยาว โดยลดดอกเบี้ยลงเหลือ 12% และสามารถใช้วงเงินบัตรเครดิตส่วนที่เหลืออยู่ได้ โดยคิดดอกเบี้ยปกติ คลิกลงทะเบียนสำหรับลูกค้าบัตรเครดิตประเภทสินเชื่อเงินกู้ที่มีลักษณะหมุนเวียน (Revolving Loan) ลดอัตราผ่อนขั้นต่ำ ตามความสามารถในการชำระหนี้ เปลี่ยนเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลา (term loan) 48 งวด หรือขยายระยะเวลาตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า โดยคิดดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี ทั้งนี้ จะพิจารณาให้ใช้วงเงินที่เหลือตามความสามารถในการชำระหนี้ แต่เมื่อรวมกับยอดคงเหลือของสินเชื่อเดิมต้องไม่เกินกว่าวงเงินที่ได้รับการอนุมัติ ประเภทสินเชื่อเงินกู้ที่ผ่อนชำระเป็นงวด (Installment Loan) ลดค่างวดอย่างน้อย 30% โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี คลิกลงทะเบียนสำหรับลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคล เลื่อนชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) ระยะเวลา 3 เดือน หรือ เลื่อนชำระเงินต้น (จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย) ระยะเวลา 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยให้ลูกค้าแต่ละรายตามความเหมาะสม หรือ ลดค่างวดโดยขยายเวลาการชำระหนี้ คลิกลงทะเบียนสำหรับลูกค้าสินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่ออเนกประสงค์ที่ใช้ที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพ คลิก สาขา/สำนักธุรกิจของธนาคาร ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2563 ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพ โทร. 1333 พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน พักชำระหนี้เงินผ่อนชำระค่างวด สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน ปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระค่างวด สูงสุดไม่เกิน 30% เปลี่ยนจากวงเงินหมุนเวียน เป็นผ่อนชำระค่างวด สูงสุดไม่เกิน 48 เดือน (สินเชื่อส่วนบุคคล) เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เท่านั้น ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณามาตรการช่วยเหลือตามผลกระทบที่ลูกค้าได้รับ แล้วแต่กรณี ไม่เป็นสินเชื่อค้างชำระเกิน 90 วัน ไม่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หรือไม่เป็นสินเชื่อที่อยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย ก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2563 สำหรับลูกค้าที่มีสินเชื่อกับธนาคารก่อนวันที่ 1 เมษายน 2563 ช่องทางลงทะเบียน สแกน QR Code ด้านล่างนี้ เพื่อลงทะเบียน ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา โทร. 1572 ลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษเหลือ 12% ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 เป็นต้นไป ลดภาระการชำระคืนด้วยการขยายเวลาผ่อนชำระให้นานสูงสุด 96 เดือน (ขึ้นอยู่กับยอดคงค้าง) คือ เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เท่านั้น และไม่เคยเข้าร่วมมาตรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับสมาชิกสินเชื่อบัตรเครดิต ช่วงวันที่ 13 เมษายน - 31 สิงหาคม 2563 ต้องคงสถานะบัญชีปกติ และไม่เคยมีประวัติค้างชำระ ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา และเฉพาะผู้ที่มีบัญชีบัตรกับบริษัท ก่อนเดือนมีนาคม 2563 สำหรับทุกบัญชีบัตรเครดิตที่ใช้วงเงินร่วม (Share line) ยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตคงค้างในทุกบัญชีดังกล่าวจะถูกเปลี่ยนเป็นยอดแบ่งชำระรายเดือนภายใต้บัญชีบัตรเครดิตนั้น ๆ โดยให้เฉพาะในกรณีที่ทุกบัญชีบัตรเครดิตที่ใช้วงเงินร่วมมีสถานะบัญชีปกติ และไม่เคยมีประวัติค้างชำระเท่านั้น วงเงินจะถูกปรับลดเท่ากับยอดสินเชื่อคงค้าง โดยเมื่อรวมกับวงเงินคงเหลือสูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท (หากมี) จะไม่เกินกว่ายอดวงเงินเดิม และระงับวงเงินในการเบิกถอนเงินสดเป็นการชั่วคราว ตลอดระยะเวลาที่เข้าร่วมโครงการ ยอดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมของยอดใช้จ่ายผ่านบัตรคงค้างจะถูกแบ่งเป็นยอดชำระรายเดือน 0% ตามระยะเวลาแบ่งชำระของยอดใช้จ่ายผ่านบัตรคงค้าง ปรับลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษเป็น 22% ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 เป็นต้นไป ลดภาระการชำระคืนด้วยการขยายเวลาผ่อนชำระให้นานสูงสุด 96 เดือน (ขึ้นอยู่กับยอดคงค้าง) ยอดสินเชื่อคงค้าง น้อยกว่าหรือเท่ากับ 30,000 บาท บริษัทจะเปลี่ยนเป็นสินเชื่อแบบชำระขั้นต่ำเหลือเพียง 3% ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 ถึง 31 ธันวาคม 2564 ยอดสินเชื่อคงค้าง มากกว่า 30,000 บาท บริษัทจะเปลี่ยนเป็นสินเชื่อแบบชำระรายเดือน เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เท่านั้น และไม่เคยเข้าร่วมมาตรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับสมาชิกสินเชื่อบุคคล ช่วงวันที่ 13 เมษายน - 31 สิงหาคม 2563 ต้องคงสถานะบัญชีปกติ และไม่เคยมีประวัติค้างชำระ ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา และเฉพาะผู้ที่มีบัญชีกับบริษัท ก่อนเดือนมีนาคม 2563 สำหรับทุกบัญชีสินเชื่อบุคคลที่ใช้วงเงินร่วม (Share line) ยอดสินเชื่อคงค้างในทุกบัญชีดังกล่าวจะถูกเปลี่ยนเป็นยอดสินเชื่อแบบชำระขั้นต่ำภายใต้บัญชีสินเชื่อบุคคลนั้น ๆ โดยให้เฉพาะในกรณีที่ทุกบัญชีสินเชื่อบุคคลที่ใช้วงเงินร่วมมีสถานะบัญชีปกติ และไม่เคยมีประวัติค้างชำระเท่านั้น วงเงินของท่านจะถูกปรับลดเท่ากับยอดสินเชื่อคงค้าง โดยเมื่อรวมกับวงเงินคงเหลือสูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท (หากมี) จะไม่เกินกว่ายอดวงเงินเดิม ตลอดระยะเวลาที่เข้าร่วมโครงการ ยอดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมของยอดใช้จ่ายผ่านบัตรคงค้างจะถูกแบ่งเป็นยอดชำระรายเดือน 0% ตามระยะเวลาแบ่งชำระของยอดใช้จ่ายผ่านบัตรคงค้าง ช่องทางลงทะเบียนบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล ลงทะเบียนผ่านโมบายแอปฯ Uchoose ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน - 31 ธันวาคม 2563 ข้อมูลเพิ่มเติม บัตรเครดิตกรุงศรี บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน บัตรเทสโก้ โลตัส วีซ่า ลดค่างวดผ่อนชำระสูงสุด 30% ของค่างวดเดิม หรือ พักชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) สูงสุด 3 เดือน * กรุงศรี ออโต้ จะเป็นผู้พิจารณาให้ความช่วยเหลือตามมาตรการที่เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบันของลูกค้า เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ เป็นลูกค้าที่ยังไม่เคยขอความช่วยเหลือ หรือลูกค้าที่เคยได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการระยะแรก เป็นลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อกับกรุงศรี ออโต้ ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2563 ไม่เป็นสินเชื่อที่ค้างชำระเกิน 90 วัน ณ วันที่เข้าร่วมมาตรการ ไม่เป็นสินเชื่อที่อยู่ในขบวนการทางกฎหมาย ณ วันที่เข้าร่วมมาตรการ ช่องทางลงทะเบียน ต้องแจ้งความประสงค์ขอเข้าร่วมโครงการและยืนยันผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าก่อนวันครบกำหนดชำระค่างวด หรือก่อนโครงการเดิมสิ้นสุดไม่น้อยกว่า 15 วัน เพื่อให้มาตรการช่วยเหลือระยะที่ 2 มีผลในรอบบัญชีที่จะถึงกำหนดชำระ ยื่นคำร้องผ่านออนไลน์ คลิก ส่งเอกสารประกอบการพิจารณาเมื่อได้รับข้อความทาง SMS ข้อมูลเพิ่มเติม krungsriauto.com โทร. 02-740-7400 กด 3 หรือ 5 มาตรการที่ไม่ต้องลงทะเบียน ลดอัตราดอกเบี้ยจาก 18% เป็น 16% มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 ปรับลดอัตราชำระคืนขั้นต่ำให้แก่ลูกค้าบัตรเครดิต SCB ทุกท่าน จากเดิม 10% ของยอดใช้จ่าย เป็น 5% ของยอดใช้จ่าย ในปี พ.ศ. 2563-2564 8% ของยอดใช้จ่าย ในปี พ.ศ. 2565 10% ของยอดใช้จ่าย ในปี พ.ศ. 2566 และปีถัดไป มาตรการที่ต้องลงทะเบียน พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยทุกหน้าบัตร 3 เดือน โดยไม่ต้องจ่ายขั้นต่ำ หรือ ผ่อนเงินต้นค้างชำระ ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 12% ต่อปี นาน 48 เดือน ทุกหน้าบัตร ยกเว้นบัตร JCB และรายการใช้จ่ายที่ขอใช้บริการดีจังแบ่งชำระรายเดือน พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน โดยไม่ต้องจ่ายขั้นต่ำ หรือ ผ่อนเงินต้นค้างชำระด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 22% ต่อปี นาน 48 เดือน พักชำระค่างวด 3 เดือน หรือ ปรับลดอัตราผ่อน และขยายระยะเวลาผ่อน พักชำระค่างวด 3 เดือน หรือ พักชำระเงินต้น 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยให้ตามความเหมาะสม หรือ ปรับลดอัตราผ่อน และขยายระยะเวลาผ่อน เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ ลูกค้าที่เข้าร่วมมาตรการระยะที่ 2 ต้องไม่เป็นลูกหนี้ NPL ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 ต้องไม่ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 90 วัน หรือ 3 เดือน นับแต่วันครบกำหนดชำระ การพิจารณาอนุมัติเป็นไปตามเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียนผ่าน SCB EASY App หรือ ผ่านระบบอัตโนมัติ SCB Call Center โทร. 02-777-7777 ลงทะเบียนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ธนาคารไทยพาณิชย์ โทร. 0-2777-7777 มาตรการที่ไม่ต้องลงทะเบียนกับธนาคาร ปรับลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำให้ลูกค้าทุกราย โดยไม่ต้องติดต่อธนาคาร มีผลตั้งแต่รอบบิลเดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป ปรับลดเพดานดอกเบี้ยให้ลูกค้าทุกราย โดยไม่ต้องติดต่อธนาคาร สำหรับยอดการใช้จ่าย/ยอดกดเงินสด ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป มาตรการที่ต้องลงทะเบียนกับธนาคาร สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ธนาคารทหารไทย และธนาคารธนชาต ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงช่องทางลงทะเบียน ทีเอ็มบี ลงทะเบียนผ่าน Contact Center โทร. 1558 ธนชาต ลงทะเบียนผ่าน Contact Center โทร. 1770 ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2563 ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ธนาคารทหารไทย สำหรับลูกค้าที่ยังไม่เคยลงทะเบียนกับธนาคาร พักชำระเงินต้น โดยยังคงชำระเฉพาะดอกเบี้ย นาน 6 เดือน หรือ ลดยอดผ่อนชำระ 50% นาน 6 เดือน หรือ พักชำระค่างวด ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย นาน 3 เดือน * ขึ้นอยู่กับผลการพิจารณาของธนาคาร สำหรับลูกค้าแต่ละราย ช่องทางลงทะเบียน ลูกค้าสินเชื่อบ้านทีเอ็มบี คลิก ลูกค้าสินเชื่อบ้านธนชาต คลิก สำหรับลูกค้าที่ยังไม่เคยลงทะเบียนกับธนาคาร ลดยอดผ่อนชำระ 50% นาน 6 เดือน และลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 22% ช่องทางลงทะเบียน ลูกค้าสินเชื่อบุคคลทีเอ็มบี คลิก ลูกค้าสินเชื่อบุคคลธนชาต คลิก สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้าน หรือสินเชื่อบุคคล ที่เคยลงทะเบียนกับธนาคาร และเข้าร่วมมาตรการครบ 3 เดือนแล้ว ธนาคารจะแจ้งเตือนวันครบกำหนดให้ลูกค้าแต่ละรายทาง SMS ล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วัน ก่อนถึงวันครบกำหนดชำระค่างวดสินเชื่อ หากลูกค้าต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถติดต่อธนาคารผ่านช่องทางที่ระบุใน SMS รถยนต์ใหม่ รถยนต์ใช้แล้ว และรถแลกเงิน : ลดค่างวดโดยขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ สินเชื่อเล่มแลกเงิน : ปรับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 22% และลดค่างวดผ่อนชำระต่อเดือนสูงสุด 30% ไม่เกิน 6 เดือน ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียนผ่าน Contact Center ธนชาต 1770 เท่านั้น ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ธนาคารทหารไทย ทีเอ็มบี โทร. 1558 ธนชาต โทร. 1770 เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการต้องเป็นลูกค้าเดิมที่อยู่ระหว่างการใช้มาตรการต่อไปนี้ และรายได้ยังได้รับผลกระทบจากโควิด 19 มาตรการที่ 1 : พักชำระเงินต้น 3 เดือน จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท มาตรการที่ 3 : พักชำระเงินต้น 6 เดือน จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน โดยลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เท่ากับ 3.90% ต่อปี สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ มาตรการที่ 8 : พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน สำหรับลูกค้าที่อยู่ระหว่างการใช้ "โครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ" มาตรการที่ 1, 2, 3, 4, 6 และลูกค้าที่ไม่ได้ใช้มาตรการใด ๆ มาตรการที่ 8.5 : พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน สำหรับลูกค้าที่อยู่ระหว่างการใช้ "โครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ" มาตรการที่ 5 ช่องทางลงทะเบียน แอปพลิเคชัน GHB ALL ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม - 29 ตุลาคม 2563 เวลา 20.00 น. ต้องแสดงหลักฐานเพื่อยืนยันว่ายังมีผลกระทบทางรายได้จริงให้ธนาคารพิจารณา อาทิ สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองจากหน่วยงานต้นสังกัด ภาพถ่าย และ Statement เป็นต้น ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร. 0-2645-9000 Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ สำหรับลูกหนี้ที่มีกำหนดชำระตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 - 31 มีนาคม 2564 พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 1 ปี นับจากงวดชำระเดิม ยกเว้นเงินกู้โครงการนโยบายรัฐที่มีเงื่อนไขพิเศษ หรือสิทธิประโยชน์ที่ดีกว่า ไม่ต้องลงทะเบียน ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โทร. 02-555-0555 ลดค่างวด 30% ของค่างวดเดิม ระยะเวลา 6 เดือน ไม่ขยายระยะเวลา และให้นำไปชำระในงวดสุดท้าย เลือกข้อใดข้อหนึ่ง ทางเลือกที่ 1 : พักชำระเงินต้นและกำไร 3 เดือน โดยไม่ขยายระยะเวลา และให้นำไปชำระในงวดสุดท้าย ทางเลือกที่ 2 : พักชำระเงินต้น (ชำระเฉพาะกำไร) 3 เดือน โดยไม่ขยายระยะเวลา และให้ปรับลดอัตรากำไรในระยะเวลาที่พักชำระหนี้ลง 0.25% เฉพาะบัญชีสินเชื่อที่อยู่ในช่วงการชำระค่างวดด้วยอัตรากำไรอ้างอิง SPRL ทางเลือกที่ 3 : พักชำระเงินต้น (ชำระเฉพาะกำไร) ไม่เกิน 6 เดือน โดยให้ขยายระยะเวลาไม่เกินระยะเวลาที่พักชำระ เลือกข้อใดข้อหนึ่ง ทางเลือกที่ 1 : พักชำระเงินต้นและกำไร 3 เดือน และขยายระยะเวลา 3 เดือน ทางเลือกที่ 2 : ขยายระยะเวลาชำระหนี้ 6 เดือน และเฉลี่ยค่างวดใหม่ ตามระยะเวลา เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ เป็นลูกค้าธนาคารที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ไม่มีสถานะหนี้ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน (NPF) ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 เป็นบัญชีสินเชื่อที่เบิกใช้ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2563 ไม่เป็นบัญชีสินเชื่อที่อยู่ระหว่างพักชำระหนี้ 6-12 เดือน ตามมาตรการอื่นของธนาคาร ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ธนาคาร คลิก ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2563 ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โทร. 1302 พักชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) 3 เดือน พักชำระเงินต้น 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยให้ตามความเหมาะสมของลูกหนี้แต่ละราย ลดค่างวดโดยขยายระยะเวลาการชำระหนี้ * ธนาคารจะพิจารณามาตรการช่วยเหลือเป็นรายกรณีไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและดุลยพินิจตามที่ธนาคารกำหนด ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ คลิก กรอกข้อมูลเพื่อลงทะเบียนเข้าโครงการ รอรับ SMS แจ้งผลการพิจารณาเบื้องต้น ภายใน 7 วันทำการ ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ สอบถามได้ที่ LH Bank ทุกสาขา LH Bank Call Center โทร. 1327 หรือ 0 2359 0000 Email : callcenter@lhbank.co.th พักเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 3 รอบบัญชี เปลี่ยนยอดหนี้ค้างก่อนหน้า เป็นยอดผ่อนรายเดือน สูงสุดถึง 48 รอบบัญชี (สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตที่ได้รับผลกระทบโดยตรงตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด จะได้รับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็น 12% และลูกค้าบัตรกดเงินสดแคชพลัส ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็น 22%) *ไม่รวมรายการผ่อนชำระรายเดือนที่เกิดขึ้นก่อนเข้าร่วมโครงการนี้ พักเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 3 รอบบัญชี สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโดยตรงตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด จะได้รับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็น 22% พักเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 3 รอบบัญชี หรือ พักชำระเงินต้น และชำระเฉพาะดอกเบี้ย สูงสุด 12 รอบบัญชี ช่องทางลงทะเบียน กรอกแบบฟอร์ม ที่นี่ แนบเอกสารประกอบ ธนาคารจะแจ้งผลการพิจารณาผ่านทาง SMS ให้ท่านทราบ ลูกค้ารายย่อย ลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ธนาคารยูโอบี โทร. 02-285-1555 ลดค่างวด 30% ของค่างวดเดิม โดยขยายเวลาการผ่อนชำระ และอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี พักชำระค่างวด 3 งวด หรือ ปรับลดค่างวด โดยขยายเวลาการผ่อนชำระ เลื่อนจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยนาน 3 เดือน หรือ เลื่อนการจ่ายเงินต้น 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยตามความเหมาะสม หรือ ลดค่างวดโดยขยายเวลาชำระหนี้ * การพิจารณาให้ความช่วยเหลือสำหรับลูกค้าแต่ละรายเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด โดยธนาคารจะพิจารณาจากผลกระทบที่ลูกค้าได้รับ และนำเสนอแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสมต่อความสามารถในการชำระหนี้ และความเสี่ยงของลูกค้า เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ เป็นลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 มีสินเชื่อกับธนาคารและไม่ค้างชำระ/ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยไม่เกินกว่า 90 วัน ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ธนาคารทิสโก้ ส่งเอกสารเพิ่มเติม หลังจากลงทะเบียนขอเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือระยะที่ 2 เสร็จสิ้นแล้ว ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ธนาคารทิสโก้ โทร. 02-080-6000 หรือ 02-633-6000 กด 1 สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และยังไม่เคยได้รับมาตรการช่วยเหลือของธนาคารมาก่อน พักชำระค่างวด 3 เดือน หรือ ลดค่างวดโดยขยายระยะเวลาชำระหนี้นานสูงสุด 24 เดือน ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ คลิก หรือสแกน QR CODE ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2563 สำหรับลูกค้าที่ปัจจุบันได้พักชำระเงินต้นตามมาตรการช่วยเหลือระยะที่ 1 ของธนาคารไปแล้ว ให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขเดิมของมาตรการช่วยเหลือระยะที่ 1 คือการพักชำระหนี้เงินต้น 6 เดือน มีส่วนลดดอกเบี้ยให้ 30-50% สำหรับผู้ชำระดอกเบี้ยช่วงพักชำระหนี้ได้ภายใน 6 เดือน กรณีพ้นระยะเวลาพักหนี้แล้ว แต่ยังขาดสภาพคล่อง ธนาคารยินดีพิจารณาลดค่างวดและขยายระยะเวลาผ่อนชำระสินเชื่อเช่าซื้อให้นานสูงสุดถึง 24 เดือน นับจากครบกำหนดระยะเวลา "พักชำระหนี้" ของสัญญาเดิม ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ คลิก หรือสแกน QR CODE หรือติดต่อยื่นความประสงค์ที่หมายเลข 02-495-7655 ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2563 เลือกลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำ หรือเปลี่ยนวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนคงค้างเป็นค่างวดกำหนดระยะเวลาผ่อนชำระ (ยกเลิกสินเชื่อบัตรกดเงินสด) ลดค่างวดพร้อมปรับอัตราดอกเบี้ย เลือกพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน หรือพักชำระเงินต้น 3 เดือน พร้อมลดอัตราดอกเบี้ย หรือลดค่างวดโดยขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ช่องทางลงทะเบียน สามารถกรอกแบบฟอร์มเพื่อขอรับความช่วยเหลือได้ ที่นี่ ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2563 ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ธนาคารเกียรตินาคิน โทร. 02-495-7655 ปรับลดภาระการชำระค่างวดต่อเดือน 50% เป็นระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน โดยจำนวนเงินค่างวดที่ได้รับการผ่อนผันจะชำระเป็นค่างวดปกติต่อท้ายสัญญาเดิม เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ สำหรับลูกค้าที่ยังคงได้รับผลกระทบจากโควิด 19 โดยต้องแสดงข้อมูลผลกระทบที่ได้รับการได้รับความช่วยเหลือ ขึ้นอยู่กับผลการพิจารณาของบริษัท ช่องทางลงทะเบียน กรอกแบบฟอร์มผ่านเว็บไซต์ คลิก ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป ข้อมูลเพิ่มเติม ตัวอย่างแบบคำขอเข้าร่วมโครงการฯ และข้อมูลเอกสารประกอบเพื่อใช้ในการพิจารณา เว็บไซต์ลีสซิ่งไอซีบีซี Call Center : 02-626-8100, 02-876-7200 เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทางตรงและทางอ้อมจากสถานการณ์ COVID-19 ลงทะเบียนได้ทั้งลูกค้าที่เคยและยังไม่เคยเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือกับธนาคาร ต้องไม่ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 90 วัน หรือ 3 เดือน นับแต่วันครบกำหนดชำระ (NPL) ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2563 ผ่าน LINE : @CIMBTHAI หรือสแกน QR Code เมื่อลงทะเบียนแล้ว รอรับ SMS แจ้งผลการพิจารณาเบื้องต้นภายใน 10 วันทำการ ลูกค้าที่อยู่นอกเหนือคุณสมบัติตามเกณฑ์ข้างต้น ธนาคารยังคงจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือเป็นรายกรณี โดยจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับภายใน 5 วันทำการ ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย CIMB THAI Care Center 02-626-7777 ทุกวัน เวลา 07.00-20.00 น. ทางเลือกที่ 1 : ลดค่างวดและขยายเวลาชำระหนี้ ทางเลือกที่ 2 : พักชำระค่างวด 3 เดือน (มีดอกเบี้ยระหว่างพักชำระ) ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ cimbthaiauto ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2563 ระยะเวลาโครงการ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2563 ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ cimbthaiauto โทร 02-180-5555 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.00 น. เลื่อนการชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) รวม 3 เดือน ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน WL SOM ระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2563 ข้อมูลเพิ่มเติม แอปพลิเคชัน WL SOM เว็บไซต์ worldlease.co.th โทร. 02-675-6300 กด 200 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.00 น. พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน ขยายเวลาชำระผ่อนชำระหนี้ นานสูงสุด 24 เดือน (โดยลดจำนวนเงินในการผ่อนชำระ สามารถชำระ รวมทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย หรือชำระเฉพาะดอกเบี้ย หรือชำระเฉพาะเงินต้นได้) ลดค่าธรรมเนียมการโอนที่กรมที่ดิน เหลือ 0.01% เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ ลูกค้าสินเชื่อธนาคารไทยเครดิตทุกผลิตภัณฑ์ อาชีพใดก็ได้ เป็นลูกค้าสินเชื่อที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เนื่องจากสงครามการค้า ภัยแล้ง และโรคระบาดร้ายแรง (COVID-19) เป็นลูกค้าสินเชื่อที่มีศักยภาพในการผ่อนชำระสินเชื่อ และยังดำเนินธุรกิจ หรือทำงานอยู่ ช่องทางลงทะเบียน ทำได้ 3 วิธี คือ 1. โทร. 02-203-6500 โครงการความช่วยเหลือ กด 1 สินเชื่อไมโครเอสเอ็มอี/สินเชื่อส่วนบุคคล กด 2 สินเชื่อนาโนและไมโครไฟแนนซ์ 2. ติดต่อ Call Center โทร. 02-697-5454 3. ติดต่อสาขา วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.00 น. เตรียมหลักฐาน คือ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน เครดิตบูโร สลิปเงินเดือน ติดต่อกับทางธนาคารสาขาใดก็ได้ ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม - 31 ธันวาคม 2563 ระยะเวลาบังคับใช้ : 1 มกราคม 2563 - 31 ธันวาคม 2564 * รายละเอียดเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด สงวนสิทธิ์การพิจารณามาตรการความช่วยเหลือลูกค้าตามความเหมาะสมเป็นรายกรณีไป ข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-697-5300 เว็บไซต์ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย เฟซบุ๊ก Thai Credit Retail Bank ไม่ต้องลงทะเบียนกับธนาคาร ปรับลดอัตรายอดขั้นต่ำที่ต้องชำระอัตโนมัติทุกราย โดยปรับจาก 10% เหลือ 5% ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 - 31 ธันวาคม 2564 และเป็น 8% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2565 ยกเลิกเงื่อนไขการกำหนดยอดชำระคืนขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 200 บาท มีผลตั้งแต่รอบบัญชีเดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป ต้องลงทะเบียนกับธนาคาร ขอเปลี่ยนแปลงยอดค้างชำระทั้งหมดให้เป็นรายการผ่อนชำระรายเดือน พร้อมรับอัตราดอกเบี้ย 12% ต่อปี นานสูงสุด 48 เดือน ขอเปลี่ยนแปลงยอดค้างชำระทั้งหมดให้เป็นรายการผ่อนชำระรายเดือน พร้อมรับอัตราดอกเบี้ย 22% ต่อปี นานสูงสุด 48 เดือน เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ และบัญชีซิตี้ เรดดี้เครดิต ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ COVID-19 หรือสภาวะเศรษฐกิจ เป็นลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ หรือบัญชีซิตี้ เรดดี้เครดิต ที่เปิดบัญชีก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2563 ไม่มีประวัติค้างชำระเกินกว่า 90 วัน ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 และในปัจจุบัน * การพิจารณาและอนุมัติเป็นรายกรณี เป็นไปตามเงื่อนไขของธนาคาร ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียนออนไลน์ ที่นี่ หรือ ติดต่อหน่วยงานที่ดูแลด้านการให้ความช่วยเหลือลูกค้าของธนาคาร ได้ที่ โทร. 02-081-1456 ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2563 หากได้รับการอนุมัติ ธนาคารจะส่งคำยืนยันการอนุมัติรายการให้ภายใน 10 วันทำการ ลดค่างวดผ่อนชำระรายเดือนลง 30% จากค่างวดเดิม ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 22% ต่อปี ในกรณีที่สัญญาเงินกู้ปัจจุบันมีอัตราดอกเบี้ยที่มากกว่า 22% ต่อปี เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ สำหรับลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคลซิตี้ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ COVID-19 หรือสภาวะเศรษฐกิจ เป็นลูกค้าสินเชื่อบุคคลซิตี้ที่เปิดบัญชีก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2563 ไม่มีประวัติค้างชำระเกินกว่า 90 วัน ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 และในปัจจุบัน * การพิจารณาและอนุมัติเป็นรายกรณี เป็นไปตามเงื่อนไขของธนาคาร ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียนออนไลน์ ที่นี่ หรือ ติดต่อหน่วยงานที่ดูแลด้านการให้ความช่วยเหลือลูกค้าของธนาคาร ได้ที่ โทร. 02-081-1556 ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2563 ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ธนาคารซิตี้แบงก์ หยุดพักชำระเงินต้นเป็นเวลา 6 เดือน (สามารถขยายระยะเวลาหยุดพักชำระเงินต้นได้สูงสุด 12 เดือน) ทั้งนี้ การช่วยเหลือทางการเงินขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและดุลยพินิจตามที่ธนาคารกำหนด ช่องทางลงทะเบียน ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สาขาของธนาคาร หรือสำนักงานใหญ่ โทร. 02-281-1010 ต่อ 2510 หรือ 2520 (คุณสรพงษ์ หรือ คุณพีระพงศ์ ฝ่ายลูกค้าธุรกิจ) และต่อ 2555 หรือ 2919 (คุณธิติกร หรือ คุณนิวิมา ฝ่ายสินเชื่อบ้าน) ข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-679-5566 เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศจีน ปรับลดอัตราผ่อนชำระขั้นตํ่าของบัตรเครดิต KTC จาก 10% เป็น 5% ให้สมาชิกบัตรทุกท่านอัตโนมัติ โดยไม่ต้องแจ้งความประสงค์ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บัตรเครดิต KTC ทุกประเภท ปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมอัตราค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินเท่ากับ 16% ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 (ปรับให้อัตโนมัติ ไม่ต้องลงทะเบียน) บัตรกดเงินสด KTC PROUD ปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมอัตราค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินสูงสุดเท่ากับ 25% ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 (ปรับให้อัตโนมัติ ไม่ต้องลงทะเบียน) มาตรการที่ต้องลงทะเบียน เปลี่ยนประเภทหนี้บัตรเครดิต เป็นหนี้เงินกู้สินเชื่อส่วนบุคคลระยะยาว ดอกเบี้ย 12% ต่อปี นาน 48 เดือน ผ่อนผันการชำระหนี้บัตรกดเงินสด เป็นหนี้เงินกู้สินเชื่อส่วนบุคคลระยะยาว ดอกเบี้ย 22% ต่อปี นาน 48 เดือน เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ สงวนสิทธิ์เฉพาะสมาชิกที่มีสถานภาพบัญชีเป็นปกติ และไม่มีประวัติการผิดนัดชำระหนี้เกิน 90 วัน ณ วันที่บันทึกรายการเงินกู้ เฉพาะสมาชิกที่ได้รับการอนุมัติบัตรเครดิต KTC / บัตรกดเงินสด KTC PROUD ก่อนวันที่ 27 มีนาคม 2563 เท่านั้น ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ที่นี่ หรือจุดบริการ KTC TOUCH สาขาในกรุงเทพฯ ภายในวันและเวลาทำการ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 - 31 ธันวาคม 2563 ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ ktc.co.th โทร. 02-123-5000 สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH ปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวมอัตราค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินสูงสุดเท่ากับ 25% ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 (ปรับให้อัตโนมัติ ไม่ต้องลงทะเบียน) มาตรการที่ต้องลงทะเบียน ลดค่างวด 30% และอัตราดอกเบี้ย ไม่เกิน 22% ต่อปี เป็นเวลา 6 รอบบัญชี หรืองวด เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ สงวนสิทธิ์เฉพาะสมาชิกที่มีสถานภาพบัญชีปกติ และไม่มียอดค้างชำระ ณ วันที่ทำข้อตกลงเท่านั้น เฉพาะสมาชิกที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อส่วนบุคคล KTC CASH และสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม ก่อนวันที่ 27 มีนาคม 2563 เท่านั้น ค่างวดตั้งแต่งวดที่ 7 เป็นต้นไป สมาชิกจะถูกปรับเพิ่มค่างวด ในอัตราดอกเบี้ยตามเงื่อนไขของข้อตกลงสินเชื่อเดิม สมาชิกที่อยู่ระหว่างร่วมมาตรการพักชำระค่างวด จะต้องให้ครบระยะเวลาพักชำระค่างวด 3 รอบบัญชี หรืองวดก่อน ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ที่นี่ จุดบริการ KTC TOUCH สาขาในกรุงเทพฯ ภายในวันและเวลาทำการ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2563 ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ ktc.co.th โทร. 02-123-5000 ลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำ (เดิม 10%) ดังนี้ 5% ต่อรอบบัญชี ในรอบบัญชีที่ครบกำหนดชำระวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 ถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2564 8% ต่อรอบบัญชี ในรอบบัญชีที่ครบกำหนดชำระวันที่ 2 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2565 10% ต่อรอบบัญชี ในรอบบัญชีที่ครบกำหนดชำระวันที่ 2 มกราคม 2566 เป็นต้นไป หมายเหตุ 1. ยกเว้นบัตรเครดิต AEON CORPORATE CARD ทุกประเภท 2. ยกเว้นรายการผ่อนชำระสินค้าและ/หรือบริการรายเดือน (AEON Happy Plan) ลดอัตราชำระคืนขั้นต่ำ (เดิม 3%) เป็นดังนี้ 1% แต่ไม่น้อยกว่า 300 บาท* ต่อรอบบัญชี ในรอบบัญชีที่ครบกำหนดชำระวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 ถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2563 หมายเหตุ 1. ยกเว้นรายการผ่อนชำระสินค้าและ/หรือบริการรายเดือนของบัตร (AEON Happy Pay) 2. *ยอดชำระขั้นต่ำต้องไม่ต่ำกว่าดอกเบี้ยที่เรียกเก็บในรอบบัญชีนั้น พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาตั้งแต่ 3 เดือน แต่สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ (ไม่ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 90 วัน หรือ 3 เดือน นับแต่วันครบกำหนดชำระ ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563) ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งส่งผลให้รายได้ลดลง ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียน ที่นี่ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 บริษัทจะพิจารณาอนุมัติเป็นรายกรณี หมายเหตุ : การขอพักชำระหนี้ หมายความว่าลูกค้าสามารถหยุดการชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่พักชำระหนี้ แต่ทั้งนี้บริษัทมีการคิดดอกเบี้ยในระหว่างที่หยุดพักชำระ สินเชื่อบัตรเครดิตและบัตรสมาชิกอิออน (สินเชื่อยัวร์แคช) ลูกค้าที่เป็นผู้ถือบัตรเครดิตและบัตรสมาชิกอิออน (สินเชื่อยัวร์แคช) สามารถขอเปลี่ยนประเภทสินเชื่อเป็นสินเชื่อระยะยาว โดยได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 12% ต่อปี อัตราชำระคืนขั้นต่ำ 3% ต่อเดือน เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ (ไม่ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 90 วัน หรือ 3 เดือน นับแต่วันครบกำหนดชำระ ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563) ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งส่งผลให้รายได้ลดลง ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียน ที่นี่ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 บริษัทจะพิจารณาอนุมัติเป็นรายกรณี หมายเหตุ : ลูกค้าต้องขอโอนหนี้เดิมไปเป็นสินเชื่อสินเชื่อระยะยาวใหม่ โดยบริษัทจะระงับการใช้งานบัตรเครดิตและ/หรือบัตรสมาชิกอิออนเป็นการชั่วคราว ภายหลังลูกค้าชำระหนี้ปิดบัญชีสินเชื่อระยะยาวครบถ้วนแล้ว ลูกค้าจะสามารถใช้งานบัตรเครดิตและ/หรือบัตรสมาชิกอิออนได้ดังเดิม ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประวัติการชำระเงินของลูกค้าข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ aeon.co.th โทร. 0-2665-0123 ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอัตโนมัติ จาก 28% เป็นไม่เกิน 25% ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 ปรับอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำ 3% แต่ไม่น้อยกว่า 200 บาท และต้องไม่น้อยกว่าอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินในรอบบัญชีนั้น ซึ่งเป็นอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำที่น้อยกว่าตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ ลูกค้าปกติที่ไม่ค้างชำระ หรือค้างชำระไม่เกิน 90 วัน ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทุกคน สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ โดยไม่มีเกณฑ์ขั้นต่ำของระยะเวลาการเป็นลูกค้ากับบริษัท สมัครได้ทั้งลูกค้าที่ได้รับความช่วยเหลือภายใต้มาตรการเดิม และลูกค้าที่ยังไม่เคยเข้าร่วมมาตรการมาก่อน ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียนและกรอกข้อมูลส่วนตัว ที่นี่ แนบเอกสารประกอบการพิจารณา ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน เอกสารแสดงผลกระทบ สมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงจากทางบริษัท ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ umayplus.com โทร. 0 2695 0000 ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอัตโนมัติ จาก 28% เป็นไม่เกิน 25% ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 ลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำโดยอัตโนมัติ จาก 3% เป็น 2.5% ต่อรอบบัญชี ตั้งแต่วันที่สรุปยอดบัญชี วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2564 ขยายวงเงินอนุมัติเป็น 2 เท่า ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 สำหรับลูกค้าที่มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาท ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และมีความจำเป็นต้องใช้วงเงินเท่ากับ 2 เท่าของรายได้ (การพิจารณาเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของบริษัท) ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ amoney โทร. 0 2004 5000 ปรับสัญญาโดยการยึดระยะเวลาผ่อนชำระ เพื่อให้ค่างวดที่ต้องชำระต่อเดือนลดลงอย่างน้อย 30% ของค่างวดเดิม พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นเวลา 3 เดือน ปรับสัญญาโดยการยึดระยะเวลาผ่อนชำระ เพื่อให้ค่างวดที่ต้องชำระต่อเดือนลดลงอย่างน้อย 30% ของค่างวดเดิม และลดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 22% ต่อปี เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ ลูกค้าที่ทำสัญญาก่อนวันที่ 1 เมษายน 2563 และประวัติการชำระปกติ มีหลักฐานยืนยันว่ายังได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ช่องทางลงทะเบียน สามารถลงทะเบียนของเข้ามาตรการได้ที่สำนักงานสาขา ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2563 ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์เมืองไทย แคปปิตอล โทร. 02-880-1033 ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นไม่เกิน 25% ต่อปี จากสูงสุด 28% ขยายวงเงินเป็น 2 เท่าของรายได้ต่อเดือน สำหรับผู้มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 30,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 จนถึง 31 ธันวาคม 2564 ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์ promise Call Center 1751 ลดค่างวด 30% ของค่างวดเดิม โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี ลดค่างวดโดยขยายระยะเวลาการชำระหนี้ เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ เฉพาะลูกค้าที่สถานะผ่อนชำระปกติ ไม่มีสถานะเป็น NPL ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 หรือลูกหนี้ที่ไม่ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน นับตั้งแต่วันครบกำหนดชำระ ช่องทางลงทะเบียน ลงทะเบียนออนไลน์ ที่นี่ หรือ ติดต่อสาขาที่ทำธุรกรรม หรือ Call Center 1361 ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2563 ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์เฮงลิสซิ่ง Call Center 1361 ลูกหนี้สินเชื่อรถยนต์, รถจักรยานยนต์ใหม่, รถจักรยานยนต์เก่า สามารถยื่นเรื่องขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้/พักชำระหนี้ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2563 เงื่อนไขเข้าร่วมมาตรการ เฉพาะลูกหนี้ที่มีสถานะผ่อนชำระปกติ หรือค้างชำระไม่เกิน 3 งวด ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 เป็นกลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบและสามารถเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจการขนส่งและธุรกิจการให้บริการ กรณีกลุ่มอาชีพอื่นนอกเหนือจากข้อ 2 ต้องสามารถแสดงหลักฐานที่ยืนยันชัดเจนได้ว่ามีรายได้ลดลงจากเดิมอย่างน้อย 30% หรือเป็นลูกหนี้ที่ถูกเลิกจ้าง หรือปิดกิจการ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ต้องไม่เป็นลูกหนี้ที่อยู่ในสถานะ กระบวนการทางกฎหมาย หรืออยู่ระหว่างดำเนินคดีทางอาญา-แพ่ง หรือการบังคับคดี และต้องไม่เป็นลูกหนี้ที่ถูกจำหน่ายเป็นหนี้สูญ กรณีที่สัญญาเดิมมีผู้ค้ำประกัน ต้องใช้ผู้ค้ำประกันคนเดิม (ถ้ามี) ลูกหนี้ที่ทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ หลักเกณฑ์การอนุมัติขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและนโยบายของบริษัท ช่องทางลงทะเบียน ติดต่อได้ที่ บริษัท สตาร์ มันนี่ จำกัด ณ สำนักงานสาขาใกล้บ้าน ข้อมูลเพิ่มเติม เว็บไซต์สตาร์ มันนี่ โทร. 061-393-9988 หากใครเคยลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการใดของธนาคารไหนไว้แล้ว และต้องการขยายเวลามาตรการ สามารถติดต่อลงทะเบียนได้เลย ทั้งนี้ เงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด แนะนำให้สอบถามจากธนาคารอีกครั้ง โดยในบางมาตรการนั้น การพิจารณาของธนาคารอาจขึ้นอยู่กับลูกค้าแต่ละราย
แสดงความคิดเห็น