เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ปตท. เล็งแยกธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน พร้อมเปลี่ยนแบรนด์ใหม่ คาดได้ข้อสรุปภายในเดือนกรกฎาคม 2557
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2557 นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท ปตท. ว่า ทาง ปตท. กำลังเตรียมการนัดหารือร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในกลุ่ม ปตท. ทั้งหมดในเร็ว ๆ นี้ เพื่อสรุปแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท ปตท. โดยเรื่องที่จะมีการหารือ มีดังนี้
1. การแยกธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน
2. การเปลี่ยนแบรนด์ใหม่แทนแบรนด์ ปตท.
นายไพรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การหารือทั้ง 2 ประเด็น เป็นผลมาจากที่มีผู้โจมตี ปตท. ว่า เป็นหน่วยงานที่ผูกขาดตลาดน้ำมันภายในประเทศ ทั้ง ๆ ที่จริงแล้ว ราคาน้ำมันภายในประเทศนั้น ปตท. ทำการอ้างอิงจากตลาดสิงคโปร์ ดังนั้น จึงขอยืนยันว่า ปตท. ไม่ได้ผูกขาดธุรกิจค้าปลีกน้ำมันในประเทศไทยอย่างที่มีผู้กล่าวโจมตีอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ปตท. ยังมีแนวคิดที่จะแยกธุรกิจก๊าซ รวมทั้งท่อส่งก๊าซออกมา เพื่อรองรับการบริการในด้านอื่น ๆ เพราะหากในอนาคตก๊าซในอ่าวไทยหมด ท่อก๊าซก็จะสามารถให้บริการด้านอื่นได้ ซึ่งหากมีทยอยแยกธุรกิจต่าง ๆ ออกมาจัดตั้งบริษัทใหม่แยกจาก ปตท. เมื่อนั้น ปตท. จะกลายเป็นบริษัทโฮลดิ้งเต็มรูปแบบ
สำหรับเรื่องการยกเลิกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น นายไพรินทร์ เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว เนื่องจากมองว่า กองทุนน้ำมันเป็นกองทุนที่มีบทบาทสำคัญในประเทศไทย เพราะเป็นกองทุนที่ช่วยรองรับความผันผวนราคาน้ำมัน รวมถึงช่วยลดการขาดแคลนน้ำมันภายในประเทศอีกด้วย แต่ถ้าสุดท้าย จำเป็นต้องยกเลิกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจริง ก็ขอให้มีการจัดตั้งกองทุนสำรองทางยุทธศาสตร์ตามที่ IEA เสนอ ซึ่งต้องมีทั้งคลังสำรองน้ำมัน และระยะเวลาสำรองนาน 90-200 วัน สำหรับทิศทางของราคาน้ำมันในตลาดโลกหลังจากนี้ ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับลดลงมาที่ 104 เหรียญต่อบาร์เรล จากก่อนหน้าอยู่ที่ 107 เหรียญต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ดี มีการคาดการณ์ว่า ภายในเดือนกรกฎาคม 2557 ทาง ปตท. และผู้ที่เกี่ยวข้องในกลุ่ม ปตท. จะได้ข้อสรุปเรื่องการแยกธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน รวมถึงการเปลี่ยนแบรนด์ ปตท. ใหม่
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
