
บอลโลกเงินสะพัดเฉียด7หมื่นล. หวั่นพนันพุ่ง43,000ล้าน หนี้ภาคครัวเรือนกระฉูด (ไทยโพสต์)
หอการค้าคาดบอลโลก 2014 มีเงินสะพัดเฉียด 7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% ระบุปัจจัยหลักมาจากการเมืองนิ่ง พร้อมแจงมูลค่าพนันบอลพุ่งถึง 4.3 หมื่นล้านบาท หวั่นผู้มีรายได้น้อย ลูกค้า นักศึกษา นิยมแทงบอล จนทำให้เกิดหนี้ภาคครัวเรือนกระฉูด
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผย (6 มิถุนายน 2557) ว่า จากการผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงมหกรรมฟุตบอลโลก 2014 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 12 มิถุนายน-13 กรกฎาคม 2557 ที่ประเทศบราซิล ประชาชนจะมีการใช้จ่ายมูลค่า 69,245.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งก่อน เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มมีความมั่นใจในการใช้จ่ายมากขึ้น หลังจากสถานการณ์ทางการเมืองของไทยมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงห้างร้านต่าง ๆ ได้จัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม และจัดกิจกรรมลุ้นรางวัลการทายผลบอลโลก
ทั้งนี้ ยอดการใช้จ่ายมูลค่า 69,245.6 ล้านบาท แบ่งเป็นการใช้จ่ายด้านการพนันบอล 43,530.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% การซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคและสังสรรค์ 21,917.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.2% การซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์รับสัญญาณ 2,496.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.2% และอื่น ๆ เช่น ซื้อหวย สลากกินแบ่งรัฐบาล และของที่ระลึก 1,301.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4%
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ เรื่องของการพนัน เนื่องจากที่ผ่านมามักจะมีประชาชนเข้ามาเล่นพนันจำนวนมาก ซึ่งจากการสำรวจการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งก่อน พบว่ามีประชาชนที่เล่นพนันบอล เพื่อหวังเงินรางวัลมีเพียงจำนวน 1 ใน 3 ของผู้ที่เล่นพนันทั้งหมด ซึ่งจะเป็นสัดส่วนที่เท่ากับการเล่นเพื่อตามกระแส และเล่นเพื่อความสนุกสนาน แต่การแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ กลับมีสัดส่วนผู้ที่เล่นพนัน และหวังเงินรางวัลจากการพนันเพิ่มขึ้นเป็น 51.3% โดยวงเงินพนันเฉลี่ย 5,072 บาทต่อนัด ส่วนการเล่นเพื่อความสนุกสนานลดลงเหลือเพียง 18.1% และตามแฟชั่น 9.5%
ทั้งนี้ การพนันนอกระบบนั้น เป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดหนี้ภาคครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือลูกจ้างรายวัน และกลุ่มนักศึกษา เนื่องจากจะมีการผิดนัดชำระหนี้มีอัตราสูงกว่ากลุ่มอื่น ๆ ที่มีรายได้ประจำ
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า จากการจัดทำแบบสำรวจกับกลุ่มตัวอย่างพบว่า เมื่อถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกกฎหมายพนันฟุตบอล กลุ่มตัวอย่าง 54.4% เห็นว่าไม่ควรเปิดให้มีการพนันฟุตบอลอย่างถูกกฎหมาย เพราะจะยิ่งทำให้การพนันขยายตัวมากขึ้น ขณะที่ 35% มองว่าควรเปิดให้มีการพนันโดยรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ และ 10.6% เห็นว่าเอกชนควรเป็นผู้ดำเนินการ
นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า เงินที่นำมาใช้จ่ายช่วงบอลโลกนั้นเป็นเงินเดือน 53.8% รองลงมาเป็นเงินออม 21.9% เงินโบนัสหรือรายได้อื่น ๆ 11.5% เงินจากผู้ปกครอง 9.9% เงินกู้ยืม 2.9% และอื่น ๆ อีก 0.1% โดยค่าใช้จ่ายที่จะจ่ายมากที่สุดคือการจ่ายพนันบอล รองลงมาเป็นการซื้อทีวี วิทยุ คอมพิวเตอร์ ค่าไฟฟ้า ค่าติดตั้งกล่องรับสัญญาณของอาร์เอส ไปทานข้าวในร้านอาหาร การซื้อของที่ระลึก ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่งเอสเอ็มเอสชิงรางวัล ซื้อไปรษณียบัตร ขนมขบเคี้ยว และหนังสือพิมพ์ เป็นต้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
