เคลียร์ 5 ข้อสงสัย Easy E-Receipt รู้ให้ชัวร์ก็ช้อปลดหย่อนภาษีได้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

           รวมเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับโครงการช้อปลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt มาดูกันว่ามีเรื่องไหนบ้างที่อาจทำให้เราพลาดสิทธิประโยชน์ดี ๆ ไปอย่างน่าเสียดาย
easy-e-reciept

          มนุษย์เงินเดือนและผู้มีรายได้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปี 2567 คงถูกอกถูกใจกับโครงการ Easy E-Receipt ซึ่งให้เรานำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการในช่วงระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 15 กุมภาพันธ์ 2567 มาใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 50,000 บาท แต่จะได้รับเงินคืนภาษีเท่าไรนั้นขึ้นอยู่กับฐานภาษี ดังนี้
ช้อปลดหย่อนภาษี 2567

          อย่างไรก็ตาม ด้วยเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงจากมาตรการช้อปดีมีคืนเมื่อปี 2566 ทำให้หลายคนเข้าใจผิดในบางเรื่อง และอาจใช้สิทธิประโยชน์จากการใช้จ่ายครั้งนี้ได้ไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร ดังนั้น ถ้าไม่อยากพลาดสิทธิประโยชน์ที่ได้มากกว่าการลดหย่อนภาษี ขอชวนทุกคนมาทำความเข้าใจเรื่องต่อไปนี้ให้ชัดเจนก่อนช้อปปิ้งค่ะ

5 ความเข้าใจผิด
เรื่อง Easy E-Receipt

1. เข้าใจผิดว่าซื้อสินค้าจากร้านไหนก็ได้ที่ออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปได้

ใบกำกับภาษี e-tax

          เราคงคุ้นเคยกับมาตรการช้อปดีมีคืนเมื่อปี 2566 ที่ซื้อสินค้าจากร้านใดก็ได้ที่สามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปได้ แต่สำหรับโครงการ Easy E-Receipt ในปีนี้ จะใช้ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบกระดาษไม่ได้อีกแล้ว เพราะเงื่อนไขกำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องเป็นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากรเท่านั้น ยกเว้นการซื้อหนังสือ อีบุ๊ก หรือซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีนี้ให้ใช้ใบรับอิเล็กทรอนิกส์แทนได้ค่ะ

2. เข้าใจผิดว่าซื้อสินค้าอะไรก็ได้ ถ้าไม่ใช่สินค้าที่ได้รับการยกเว้น

          จริง ๆ แล้วสินค้าและบริการที่นำไปลดหย่อนภาษีในโครงการ Easy E-Receipt ต้องเป็นสินค้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% แต่หากซื้อสินค้าหรือใช้บริการที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น ข้าวสาร เนื้อสัตว์ ผัก-ผลไม้สด นมรสจืด อาหารสัตว์เลี้ยง จ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าทันตกรรม ค่าขนส่งพัสดุ จะนำมาลดหย่อนภาษีไม่ได้ ยกเว้นการซื้อหนังสือ สินค้าโอทอป ที่สามารถใช้สิทธิในโครงการ Easy E-Receipt ได้ แม้ไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม 

          ส่วนสินค้าที่ไม่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีในโครงการ Easy E-Receipt ได้ ประกอบด้วย

  • สุรา เบียร์ ไวน์ 

  • ยาสูบ

  • รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ

  • ค่าน้ำมัน ค่าก๊าซเติมพาหนะ

  • ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า

  • ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต

  • ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว ซึ่งซื้อสินค้าหรือบริการก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 แม้ว่าจะจ่ายค่าบริการระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 15 กุมภาพันธ์ 2567 ก็ตาม เช่น การซื้อบัตร-คูปองเพื่อแลกรับบริการต่าง ๆ หรือการสมัครสมาชิกรายปี เป็นต้น

  • ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย

3. เข้าใจผิดว่า Easy E-Receipt ไม่สามารถซื้อของออนไลน์ได้

ช้อปปิ้งออนไลน์

          การใช้จ่ายของโครงการนี้ไม่ได้จำกัดว่าต้องซื้อของที่หน้าร้านเพียงอย่างเดียว ดังนั้น การช้อปออนไลน์ก็ใช้สิทธิได้เช่นกัน แต่ต้องเลือกร้านค้าที่ออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ได้เท่านั้น โดยตรวจสอบได้จากหน้าเพจเฟซบุ๊กของร้านค้า หรือแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ที่มีข้อความ Easy E-Receipt ระบุไว้

4. เข้าใจผิดว่า Easy E-Receipt ซื้อของแบบเงินผ่อนไม่ได้

          โครงการ Easy E-Receipt สามารถใช้สิทธิได้ทั้งการจ่ายเต็มจำนวนและการผ่อนชำระสินค้าเลยค่ะ เพราะการผ่อนก็เท่ากับว่าเราได้ชำระค่าสินค้า-บริการนั้นเต็มจำนวนแล้ว เพียงแค่มาทยอยจ่ายคืนให้กับสถาบันการเงินในภายหลัง แต่ก็ควรเลือกผ่อนแบบ 0% และชำระคืนให้ครบตามกำหนดเวลา จะได้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย

5. เข้าใจผิดว่าใช้บัตรเครดิตจ่ายไม่ได้ ทั้งที่จริง ๆ แล้วสามารถใช้บัตรเครดิตผ่อนชำระได้เหมือนซื้อสินค้าปกติ

บัตรเครดิต

         หลายคนเข้าใจว่า โครงการนี้ใช้บัตรกดเงินสดหรือบัตรเครดิตจ่ายเงินไม่ได้ เพราะกว่าจะถึงวันสรุปยอดบัญชีและวันครบกำหนดชำระเงินก็อาจสิ้นสุดมาตรการไปแล้ว แต่ความจริงก็คือ เราสามารถใช้บัตรกดเงินหรือบัตรเครดิตจ่ายเงินได้เหมือนซื้อสินค้าตามปกติเลย เนื่องจากร้านค้าจะออกใบกำกับภาษีในวันที่มีการรูดบัตร

          ดังนั้น หากใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ก็นำไปลดหย่อนภาษีได้ไม่ต่างจากการจ่ายเงินสด และเป็นการใช้สิทธิ Easy E-Receipt ได้อย่างคุ้มค่ากว่าเดิมด้วยนะ นอกจากได้เงินคืนภาษีก็ยังมีสิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตอีกหลายประการ เช่น

  • ซื้อของหน้าร้านและช้อปปิ้งออนไลน์ได้สะดวก : โดยเฉพาะการซื้อสินค้าที่มีราคาสูง ผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องพกเงินสดก้อนใหญ่ติดตัว หรือเตรียมเงินก้อนไว้ในบัญชีเพื่อโอนเงิน
     

  • ยืดเวลาการชำระเงินออกไป ไม่ต้องจ่ายเงินทันที : การใช้บัตรเครดิตจะมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยสูงสุด 45-50 วัน (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร) จึงสามารถซื้อของก่อนแล้วมาจ่ายทีหลังได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดโดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ยใด ๆ เป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับตัวเองและวางแผนการเงินล่วงหน้าได้
     

  • ผ่อนชำระได้ : สำหรับคนที่ตั้งใจจะซื้อสินค้าอยู่แล้ว หรือมีฐานภาษีสูง ๆ จำเป็นต้องซื้อของลดหย่อนภาษี แต่ไม่พร้อมจ่ายเงินก้อนใหญ่ในช่วงระยะเวลา 45 วันของโครงการ Easy E-Receipt การผ่อนชำระด้วยบัตรเครดิตก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้เราใช้สิทธิได้อย่างเต็มที่ เพราะแบ่งจ่ายก้อนเล็ก ๆ ได้ ไม่ต้องจ่ายเงินก้อนทันที และที่สำคัญก็คือ บัตรเครดิตหลายใบมีโปรโมชั่นผ่อน 0% ด้วย
     

  • สิทธิพิเศษจากร้านค้าและสินค้าที่ร่วมรายการ : ร้านค้าต่าง ๆ มักจัดโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิตในช่วงแคมเปญ ผู้ใช้บัตรเครดิตจึงอาจได้รับส่วนลดเพิ่มเติม หรือให้ผ่อนชำระ 0% ได้ในระยะเวลาที่นานขึ้น และยังมีสิทธิพิเศษอื่น ๆ ที่คุ้มค่ากว่าการใช้จ่ายด้วยเงินสด
     

  • ได้คะแนนสะสมหรือแคชแบ็ก : หากบัตรเครดิตที่ใช้อยู่เป็นบัตรเครดิตสะสมคะแนน เราก็จะได้รับคะแนนจากการใช้จ่ายในโครงการ Easy E-Receipt ไว้ใช้แลกของรางวัลหรือรับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เช่นเดียวกับผู้ถือบัตรเครดิตแคชแบ็กที่จะได้รับเครดิตเงินคืนเมื่อรูดบัตร เปรียบเสมือนซื้อของแล้วได้ส่วนลดอย่างไรอย่างนั้นเลย 

          จะเห็นได้ว่าการใช้บัตรเครดิตจับจ่ายแทนการใช้เงินสดมีความคุ้มค่ามากกว่าที่คิดนะคะ เพียงแค่รูดใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นและจ่ายหนี้บัตรเครดิตหรือผ่อนบัตรเครดิตให้ตรงตามเวลา ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียดอกเบี้ย ส่วนใครที่ยังไม่เคยสมัครบัตรเครดิต และกำลังพิจารณาบัตรเครดิตใบแรก แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกบัตรเครดิตใบไหนดี ลองดูคำแนะนำต่อไปนี้

สมัครบัตรเครดิตใบแรกใบไหนดี

           บัตรเครดิตใบแรกของทุกคนควรเลือกให้ตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและเป้าหมายทางการเงินของตัวเอง และถ้าเป็นบัตรเครดิตฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีก็ยิ่งดี เพื่อจะได้ใช้บัตรได้แบบฟรี ๆ โดยไม่ต้องเสียค่าอะไรเลยถ้าชำระคืนเต็มจำนวนและตรงเวลา อย่าง “บัตรเครดิต ทีทีบี” จากธนาคารทหารไทยธนชาต ที่มีให้เลือกถึง 5 แบบ 5 สไตล์ มาดูกันว่าใบไหนเหมาะกับใครบ้าง
บัตรเครดิต ttb so fast

บัตรเครดิต ttb so fast เหมาะกับใคร : นักสะสมแต้มที่กำลังมองหาบัตรเครดิตสะสมคะแนน เพื่อไว้แลกของรางวัลและสิทธิพิเศษต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น

จุดเด่นบัตรเครดิต ttb so fast

  • รูดเท่ากันได้คะแนนมากกว่า เพราะทุก 10 บาท รับ 1 คะแนน ช่วยเพิ่มคะแนนสะสมได้เร็ว แลกของรางวัลได้ไวกว่า ต่างจากบัตรเครดิตใบอื่น ๆ ที่ต้องใช้จ่าย 20-50 บาท ถึงได้รับ 1 คะแนน
  • ใช้คะแนนเท่ายอดซื้อ แลกแคชแบ็กสูงสุด 12% ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ
  • ผ่อน 0% นาน 3 เดือน ทุกร้าน ทุกรายการ เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป/เซลสลิป
  • ฟรี ประกันอุบัติเหตุจากการเดินทาง วงเงินสูงสุด 6 ล้านบาท
  • ฟรี ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี

          ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

          อ่านรายละเอียดบัตรเครดิต ttb so fast เพิ่มเติม คลิก       (https://www.ttbbank.com/sebl/kpk/apply/credit-card/ttb-so-fast

บัตรเครดิต ttb so smart

บัตรเครดิต ttb so smart เหมาะกับใคร : สายออมที่ต้องการบัตรเครดิตแคชแบ็กไว้เปลี่ยนทุกการใช้จ่ายเป็นเงินคืน  

จุดเด่นบัตรเครดิต ttb so smart

  • รับเครดิตเงินคืน 1% ทุกการใช้จ่ายเข้าบัญชี ทีทีบี โน ฟิกซ์ โดยไม่ต้องรอโปรโมชั่น
  • ผ่อน 0% นาน 3 เดือน ทุกร้าน ทุกรายการ เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป/เซลสลิป
  • ฟรี ประกันอุบัติเหตุจากการเดินทาง วงเงินคุ้มครองสูงสุด 6 ล้านบาท
  • ฟรี ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี

          ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

          อ่านรายละเอียดบัตรเครดิต ttb so smart เพิ่มเติม คลิก    (https://www.ttbbank.com/sebl/kpk/apply/credit-card/ttb-so-smart)

บัตรเครดิต ttb absolute

บัตรเครดิต ttb absolute เหมาะกับใคร : นักเดินทางที่อยากมีบัตรเครดิตท่องเที่ยวต่างประเทศพกติดตัวเพื่อรับสิทธิพิเศษที่เหนือกว่า

จุดเด่นบัตรเครดิต ttb absolute

  • ลดค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินต่างประเทศ (FX Rate) เหลือเพียง 1% (จากปกติ 2.5%) จึงได้เรตถูกที่สุดเมื่อใช้จ่ายด้วยสกุลเงินต่างประเทศและการช้อปออนไลน์ทั่วโลก
  • บริการห้องรับรอง Airport Lounge (Lounge Key) ฟรี 2 ครั้ง/ปีปฏิทิน
  • ทุกการใช้จ่าย 20 บาท รับ 1 คะแนน
  • ใช้จ่ายออนไลน์ทั่วโลก รับคะแนน 2 เท่า
  • ผ่อน 0% นาน 3 เดือน ทุกร้าน ทุกรายการ เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป/เซลสลิป
  • ฟรี ประกันอุบัติเหตุจากการเดินทาง วงเงินคุ้มครองสูงสุด 16 ล้านบาท
  • ฟรี ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี

          ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

          อ่านรายละเอียดบัตรเครดิต ttb absolute เพิ่มเติม คลิก    (https://www.ttbbank.com/sebl/kpk/apply/credit-card/ttb-absolute)

บัตรเครดิต ttb so chill

บัตรเครดิต ttb so chill เหมาะกับใคร : ผู้ที่ต้องการความคล่องตัวทางการเงิน จำเป็นต้องเบิกเงินสดออกมาใช้จ่าย หรือใช้บัตรเครดิตเพื่อผ่อนสินค้า

จุดเด่นบัตรเครดิต ttb so chill

  • สามารถกดเงินสดได้ทุกตู้ ATM ทั่วประเทศเหมือนกับบัตรกดเงินสด และฟรีค่าธรรมเนียมการกดเงินสด 3%  
  • รับดอกเบี้ยพิเศษ อัตรา 9.5% ต่อปี ใน 3 รอบบัญชีแรก
  • รับเงินคืน 5% จากดอกเบี้ยที่เรียกเก็บเมื่อจ่ายตรงเวลา
  • ผ่อน 0% นาน 3 เดือน ทุกร้าน ทุกรายการ เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป/เซลสลิป
  • ฟรี ประกันอุบัติเหตุจากการเดินทาง วงเงินคุ้มครองสูงสุด 6 ล้านบาท
  • ฟรี ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี

          ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

          อ่านรายละเอียดบัตรเครดิต ttb so chill เพิ่มเติม คลิก    (https://www.ttbbank.com/sebl/kpk/apply/credit-card/ttb-so-chill)

บัตรเครดิต ttb Global House

บัตรเครดิต ttb Global House เหมาะกับใคร : คนรักบ้าน ชอบซื้อของตกแต่งบ้าน และต้องการสิทธิพิเศษจากการใช้จ่ายที่ร้านโกลบอลเฮ้าส์

จุดเด่นบัตรเครดิต ttb Global House

  • รับส่วนลดทันที 3% ตั้งแต่บาทแรก เมื่อใช้จ่ายที่โกลบอลเฮ้าส์ (ยกเว้นวัสดุก่อสร้าง)
  • รับส่วนลด 5% สำหรับค่าบริการที่โกลบอลเฮ้าส์ทุกสาขา
  • ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน ที่โกลบอลเฮ้าส์ เมื่อช้อปที่โกลบอลเฮ้าส์และร้านค้าที่ธนาคารกำหนด
  • ผ่อน 0% นาน 3 เดือน ทุกร้าน ทุกรายการ เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป/เซลสลิป
  • ทุกการใช้จ่าย 25 บาท รับ 1 คะแนน
  • ฟรี ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี

          ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

          อ่านรายละเอียดบัตรเครดิต ttb Global House เพิ่มเติม คลิก    (https://www.ttbbank.com/sebl/kpk/apply/credit-card/ttb-global-house)

          ไม่ว่าจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหนก็เหมาะกับ บัตรเครดิต ทีทีบี ที่ฟรีค่าธรรมเนียมทั้งแรกเข้าและรายปี อีกทั้งสามารถเปลี่ยนทุกการใช้จ่ายให้เบาลงได้ด้วย ttb so goood ผ่อน 0% นาน 3 เดือน มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ครบครันที่ถูกใจทั้งนักออม นักช้อป ขาเที่ยว คนรักบ้าน และโปรโมชั่นพิเศษอีกมากมาย คุ้มค่าทุกการใช้จ่าย ใครสนใจบัตรเครดิตใบไหน สมัครง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลยค่ะ

            ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ttb contact center โทร. 1428 และขอย้ำอีกครั้งว่าการใช้บัตรเครดิตที่เหมาะสมคือใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปีนะคะ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เคลียร์ 5 ข้อสงสัย Easy E-Receipt รู้ให้ชัวร์ก็ช้อปลดหย่อนภาษีได้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น อัปเดตล่าสุด 9 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09:05:50 4,974 อ่าน
TOP