พรรคเพื่อไทย พร้อมออกนโยบายพักหนี้ ช่วยลูกหนี้รายย่อย - SME ที่เคยรับวิกฤตจากโควิด 19 ใครมีโอกาสได้บ้าง ต้องดู
วันที่ 30 สิงหาคม 2566 กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า พรรคเพื่อไทย เตรียมหารือกับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ และธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อจัดทำนโยบายพักหนี้ให้ลูกหนี้รหัส 21 ที่มีจำนวนกว่า 5 ล้านราย คิดเป็นลูกหนี้ SME ประมาณ 23,086 บัญชี และลูกหนี้รายย่อยกว่า 4.9 ล้านบัญชี วงเงินสินเชื่อกว่า 4.3 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่จะได้รับการช่วยเหลือจากเรื่องนี้นั้น คือลูกหนี้รหัส 21 (ลูกหนี้ที่ค้างชำระเกินกว่า 90 วันเนื่องจากลูกหนี้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไม่ปกติ) หรือหนี้เสีย ที่เป็นตั้งแต่โควิด 19 เนื่องจากกลุ่มนี้ก่อนหน้านี้เคยเป็นลูกหนี้ที่จ่ายเงินปกติ ไม่มีประวัติผิดนัดชำระ แต่จากเหตุการณ์โควิดส่งผลให้ไม่สามารถใช้หนี้ได้ พรรคเพื่อไทยจึงร่วมมือกับธนาคารรัฐและธนาคารแห่งประเทศไทย ผ่อนปรนการชำระหนี้และออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มนี้โดยเฉพาะ
ภาพจาก พรรคเพื่อไทย
ใครบ้างที่มีโอกาสได้รับการพักหนี้ รหัส 21 จากพรรคเพื่อไทย
ลูกหนี้บุคคลธรรมดา : กลุ่มนี้พบว่ามีทั้งสิ้น 4.9 ล้านบัญชี คิดเป็นสินเชื่อรวมที่ 3.7 แสนล้านบาท เป็นลูกหนี้ราว 3.4 ล้านคน และลูกหนี้กลุ่มนี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากเทียบกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา พบว่าที่เป็นหนี้เสียมีทั้งสิ้น 4.4 ล้านบัญชี วงเงินสินเชื่อ 3.1 แสนล้านบาท คิดเป็นจำนวนคนที่ติดหนี้เสียทั้งหมด 3.1 ล้านคน สะท้อนว่า ลูกหนี้รายย่อยยังไม่สามารถปรับตัวจากวิกฤตโควิด 19 ได้
ลูกหนี้ SME : มีทั้งสิ้น 23,086 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 6.1 หมื่นล้าน หรือจำนวนเอสเอ็มอีกว่า 12,898 ราย
นอกจากโครงการพักหนี้แล้ว อาจให้ลูกหนี้ผ่อนชำระหนี้ในอัตราต่ำ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ยังไม่ฟื้นตัวให้มีสภาพคล่อง โดยการหารือดังกล่าว จะเสนอให้หยุดส่งข้อมูลลูกหนี้รหัส 21 ตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 เพื่อให้ช่วยเหลือได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ป้องกันลูกหนี้ที่จงใจผิดนัด และได้กลุ่มลูกหนี้ที่ชัดเจน ซึ่งแปลว่า หากหลังจากเดือนมกราคม 2567 เป็นต้นไป ลูกหนี้มีหนี้ ลูกหนี้ก็จะเป็นหนี้เสียตามรหัส 20 ไม่อย่างนั้นจะมีลูกหนี้ใหม่ ๆ ที่จงใจเบี้ยวหนี้