สมาคมธนาคารไทย ขยายมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย ครอบคลุมพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ต้องติดต่อช่องทางไหน มีธนาคารอะไรบ้าง ตรวจสอบได้ที่นี่
วันที่ 3 สิงหาคม 2564 สถานีข่าวกระทรวงการคลัง รายงานว่า จากมติของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) ปรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม จากเดิม 13 จังหวัด เพิ่มขึ้น 16 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด ประกอบด้วย
- กาญจนบุรี
- ตาก
- นครนายก
- นครราชสีมา
- ประจวบคีรีขันธ์
- ปราจีนบุรี เพชรบูรณ์
- ระยอง
- ราชบุรี
- ลพบุรี
- สิงห์บุรี
- สมุทรสงคราม
- สระบุรี
- สุพรรณบุรี
- เพชรบุรี
- อ่างทอง
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า เพื่อชะลอและลดการแพร่การระบาดของโควิด 19 ที่เกิดขึ้น ธนาคารมีความจำเป็นต้องปิดการให้บริการของสาขาในบางพื้นที่เสี่ยงซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด เป็นการชั่วคราว โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ธนาคารจะปิดสาขาที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า สาขาในศูนย์การค้า และสาขาในคอมมูนิตี้มอลล์ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด มีผลตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป
2. ลูกค้าสามารถใช้บริการที่สาขาทั่วไปที่เป็นสาขา Stand Alone ซึ่งเปิดให้บริการตามปกติ 5 วัน หรือ 7 วันทำการ ขึ้นกับการพิจารณาของแต่ละธนาคาร แต่จะเปิดให้บริการไม่เกินเวลา 15.30 น.
3. สาขาใน 3 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เปิดให้บริการไม่เกินเวลา 15.00 น.
ตรวจสอบรายชื่อสาขาที่เปิดให้บริการได้ที่ไหน ?
ตรวจสอบรายชื่อสาขาใกล้เคียงที่เปิดให้บริการได้ทางเว็บไซต์ของแต่ละธนาคาร ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำในการทำธุรกรรมผ่านช่องทาง Mobile Banking เช่น พร้อมเพย์ หรือการชำระเงินด้วย QR Code ที่ธนาคารสมาชิกเปิดให้บริการ เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และลดความแออัดที่สาขา
สามารถพักชำระหนี้ได้หรือไม่ ต้องทำอย่างไร ?
สำหรับมาตรการพักชำระหนี้ 2 เดือน เพื่อให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนแก่ลูกค้าผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากคำสั่งของ ศบค. สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิกจะดำเนินมาตรการดังกล่าวให้ครอบคลุม 29 จังหวัดที่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม โดยลูกค้าผู้ประกอบการสามารถแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือกับธนาคารเจ้าหนี้ ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ทางคอลเซ็นเตอร์, Line@, Facebook, เว็บไซต์ และ Mobile Application ตั้งแต่วันนี้ (3 ส.ค.) ถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2564
อย่างไรก็ตาม การพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยภายใต้มาตรการพักชำระหนี้ 2 เดือนนี้ เป็นเพียงการเลื่อนการชำระออกไป ลูกหนี้ที่ยังมีศักยภาพและสามารถชำระหนี้ได้ควรจะชำระหนี้ต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ภาระหนี้ในอนาคตเพิ่มขึ้นสูงเกินจำเป็น
สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบให้มากที่สุด ซึ่งธนาคารแต่ละแห่งยังมีมาตรการอื่น ๆ ในการช่วยเหลือลูกค้าแต่ละกลุ่มตามความเหมาะสม เพื่อลดภาระทางการเงินให้กับลูกค้าผู้ประกอบการในช่วงที่ยังไม่มีรายได้หรือรายได้ลดน้อยลง และช่วยหล่อเลี้ยงสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการด้วย