คลังสั่งถกด่วนแก้ปัญหาเรียกคืนเบี้ยผู้สูงอายุ เปิดทางรับ 2 สิทธิ์ ชี้ทั้งเบี้ยผู้สูงอายุ และเงินบำนาญพิเศษ เป็นสิทธิ์ที่ควรได้ ไม่ควรไปตัดสิทธิ์ ถ้าต้องแก้กฎหมาย ให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเสนอมา
![เบี้ยผู้สูงอายุ เบี้ยผู้สูงอายุ]()
จากกรณีข่าวการเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จากผู้ที่ได้รับเงินบำนาญพิเศษ ซึ่งกรณีนี้เกิดขึ้นหลายรายโดยเป็นการเรียกเก็บย้อนหลังพร้อมดอกเบี้ย เช่นกรณีของคุณยายวัย 89 ปี ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่ถูกทาง อบต. แจ้งว่าจะเรียกเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืน 16 ปี เป็นเงิน 121,800 บาท เนื่องจากเป็นผู้ได้รับบำนาญจากกรมบัญชีกลาง ถือเป็นการรับเงินจากรัฐซ้ำซ้อน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : เจอไม่หยุด แม่เฒ่า วัย 89 ถูกเรียกเบี้ยคนชราย้อนหลัง 16 ปี ต้องจ่ายคืน 1.2 แสน
อ่านข่าว : ยายแทบช็อก ! เจอเรียกเก็บเบี้ยคนชราคืนเกือบแสน โอด.. จะหาจากไหนไปคืน
อ่านข่าว : เรียกคืนเบี้ยสูงอายุ โผล่อีกราย ทั้งที่ตายไปแล้ว ลูกโอดไม่มีจ่าย ยอมติดคุกชดใช้ !
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (29 มกราคม 2564) ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เชิญผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าหารือกรณีดังกล่าว ซึ่งระเบียบกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุข้อหนึ่งกำหนดว่า ผู้ที่รับเบี้ยยังชีพ จะต้องไม่เป็นผู้รับเงินบำนาญ หรือเงินบำนาญพิเศษ
นายอาคม ระบุว่า ทางกรมบัญชีกลาง และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องหารือแก้ปัญหา และควรแยกสิทธิ์ส่วนบุคคลที่ผู้สูงอายุควรได้รับอยู่แล้ว อย่างเบี้ยผู้สูงอายุออกจากสิทธิพิเศษที่ได้รับตามกรณี เช่นกรณีที่ได้เงินบำนาญพิเศษจากการปฏิบัติหน้าที่ของสามีหรือลูก เพราะทั้ง 2 สิทธิ์ไม่เกี่ยวกัน
รายงานข่าวระบุว่า นายอาคม สั่งการให้กรมบัญชีกลางหยุดให้ความเห็นเรื่องดังกล่าว และให้ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าจะดำเนินการอย่างไรให้การได้รับสิทธิ์ทั้ง 2 สิทธิ์ ทำได้ถูกต้อง เพราะเป็นสิ่งที่ผู้มีสิทธิ์ควรได้รับ ไม่ควรตัดสิทธิ์ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขข้อกฎหมายก็ให้เสนอมา เพื่อพิจารณาให้คณะรัฐมนตรี เห็นชอบต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน

จากกรณีข่าวการเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จากผู้ที่ได้รับเงินบำนาญพิเศษ ซึ่งกรณีนี้เกิดขึ้นหลายรายโดยเป็นการเรียกเก็บย้อนหลังพร้อมดอกเบี้ย เช่นกรณีของคุณยายวัย 89 ปี ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่ถูกทาง อบต. แจ้งว่าจะเรียกเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืน 16 ปี เป็นเงิน 121,800 บาท เนื่องจากเป็นผู้ได้รับบำนาญจากกรมบัญชีกลาง ถือเป็นการรับเงินจากรัฐซ้ำซ้อน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : เจอไม่หยุด แม่เฒ่า วัย 89 ถูกเรียกเบี้ยคนชราย้อนหลัง 16 ปี ต้องจ่ายคืน 1.2 แสน
อ่านข่าว : ยายแทบช็อก ! เจอเรียกเก็บเบี้ยคนชราคืนเกือบแสน โอด.. จะหาจากไหนไปคืน
อ่านข่าว : เรียกคืนเบี้ยสูงอายุ โผล่อีกราย ทั้งที่ตายไปแล้ว ลูกโอดไม่มีจ่าย ยอมติดคุกชดใช้ !
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (29 มกราคม 2564) ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เชิญผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าหารือกรณีดังกล่าว ซึ่งระเบียบกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุข้อหนึ่งกำหนดว่า ผู้ที่รับเบี้ยยังชีพ จะต้องไม่เป็นผู้รับเงินบำนาญ หรือเงินบำนาญพิเศษ
นายอาคม ระบุว่า ทางกรมบัญชีกลาง และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องหารือแก้ปัญหา และควรแยกสิทธิ์ส่วนบุคคลที่ผู้สูงอายุควรได้รับอยู่แล้ว อย่างเบี้ยผู้สูงอายุออกจากสิทธิพิเศษที่ได้รับตามกรณี เช่นกรณีที่ได้เงินบำนาญพิเศษจากการปฏิบัติหน้าที่ของสามีหรือลูก เพราะทั้ง 2 สิทธิ์ไม่เกี่ยวกัน
รายงานข่าวระบุว่า นายอาคม สั่งการให้กรมบัญชีกลางหยุดให้ความเห็นเรื่องดังกล่าว และให้ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าจะดำเนินการอย่างไรให้การได้รับสิทธิ์ทั้ง 2 สิทธิ์ ทำได้ถูกต้อง เพราะเป็นสิ่งที่ผู้มีสิทธิ์ควรได้รับ ไม่ควรตัดสิทธิ์ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขข้อกฎหมายก็ให้เสนอมา เพื่อพิจารณาให้คณะรัฐมนตรี เห็นชอบต่อไป