ประกันสังคม ก้าวสู่ปีที่ 31 เน้นช่วยเหลือผู้ประกันตนมากขึ้น เพิ่มวันคลอดบุตร เป็น 98 วัน เพิ่มเงินชดเชยทำศพเป็น 5 หมื่น พร้อมชดเชยขาดรายกรณีทุพพลภาพเพิ่มเป็น 70% ของค่าจ้าง
วันที่ 3 กันยายน 2563 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยหลังมอบนโยบายเนื่องในวันครบรอบ 30 ปี สำนักงานประกันสังคม ระบุ ประกันสังคมจะให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนประเทศ โดยเฉพาะการเร่งฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์ โควิด 19 คลี่คลายลง โดยนำนโยบาย "รวมไทยสร้างชาติ" เข้ามาดำเนินการ รวมทั้งจัดตั้งศูนย์อำนวยการแรงงานแห่งชาติ ภายในกระทรวงแรงงาน เพื่อการทำงานเชิงรุกให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันในการแก้ปัญหาของประชาชนได้อย่างตรงจุด และทันท่วงที
- มอบนโยบายเร่งด่วน เพื่อเยียวยา โดยเฉพาะ SMEs และประชาชนตกงาน
- มีมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19
- ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ส่งเงินสมทบไม่ครบ 6 เดือน ใน 15 เดือน มีสิทธิรับเงินเยียวยา เป็นระยะเวลา 3 เดือน
- มาตรการลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคมให้นายจ้าง และผู้ประกันตน จากเดิมหักเงินฝ่ายละร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 2 ของค่าจ้างตั้งแต่ เดือนกันยายน - พฤศจิกายน 2563
- โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน เพื่อเสริมสร้างสภาพคล่องสถานประกอบการ ให้ผู้ประกอบการมีศักยภาพที่จะรักษาการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง
- การดำเนินงานในปี 2564 สำนักงานประกันสังคมได้มีการพัฒนาให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ สังคม และรองรับสังคมผู้สูงอายุ รวมทั้งเพิ่มสิทธิประโยชน์ในกรณีต่าง ๆ
- กรณีทุพพลภาพ โดยเพิ่มเงินทดแทนการขาดรายได้จากร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 70 ของค่าจ้าง
- กรณีคลอดบุตร เพิ่มระยะเวลาการจ่ายเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร จาก 90 วัน เป็น 98 วัน
- กรณีสงเคราะห์บุตร ให้ผู้ประกันตนที่สิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตรต่อไปอีก 6 เดือน
- กรณีค่าทำศพ กองทุนเงินทดแทน กรณีเสียชีวิตเนื่องจากการทำงานปรับจาก 40,000 บาท เป็น 50,000 บาท
- การยกระดับคุณภาพในการให้บริการแก่นายจ้าง ผู้ประกันตน และประชาชนทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้รองรับการเป็นรัฐบาลดิจิทัล ของสำนักงานประกันสังคม
- การเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ
![ภาพข่าว ประกันสังคม]( "ภาพข่าว ประกันสังคม")
ขอบคุณข้อมูลจาก Policemagazine
วันที่ 3 กันยายน 2563 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยหลังมอบนโยบายเนื่องในวันครบรอบ 30 ปี สำนักงานประกันสังคม ระบุ ประกันสังคมจะให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนประเทศ โดยเฉพาะการเร่งฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์ โควิด 19 คลี่คลายลง โดยนำนโยบาย "รวมไทยสร้างชาติ" เข้ามาดำเนินการ รวมทั้งจัดตั้งศูนย์อำนวยการแรงงานแห่งชาติ ภายในกระทรวงแรงงาน เพื่อการทำงานเชิงรุกให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันในการแก้ปัญหาของประชาชนได้อย่างตรงจุด และทันท่วงที
- มีมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19
- ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ส่งเงินสมทบไม่ครบ 6 เดือน ใน 15 เดือน มีสิทธิรับเงินเยียวยา เป็นระยะเวลา 3 เดือน
- มาตรการลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคมให้นายจ้าง และผู้ประกันตน จากเดิมหักเงินฝ่ายละร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 2 ของค่าจ้างตั้งแต่ เดือนกันยายน - พฤศจิกายน 2563
- โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน เพื่อเสริมสร้างสภาพคล่องสถานประกอบการ ให้ผู้ประกอบการมีศักยภาพที่จะรักษาการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง
- การดำเนินงานในปี 2564 สำนักงานประกันสังคมได้มีการพัฒนาให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ สังคม และรองรับสังคมผู้สูงอายุ รวมทั้งเพิ่มสิทธิประโยชน์ในกรณีต่าง ๆ
- กรณีทุพพลภาพ โดยเพิ่มเงินทดแทนการขาดรายได้จากร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 70 ของค่าจ้าง
- กรณีคลอดบุตร เพิ่มระยะเวลาการจ่ายเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร จาก 90 วัน เป็น 98 วัน
- กรณีสงเคราะห์บุตร ให้ผู้ประกันตนที่สิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตรต่อไปอีก 6 เดือน
- กรณีค่าทำศพ กองทุนเงินทดแทน กรณีเสียชีวิตเนื่องจากการทำงานปรับจาก 40,000 บาท เป็น 50,000 บาท
- การยกระดับคุณภาพในการให้บริการแก่นายจ้าง ผู้ประกันตน และประชาชนทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้รองรับการเป็นรัฐบาลดิจิทัล ของสำนักงานประกันสังคม
- การเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ
