บริษัท NaRaYa ประกาศปิดโรงงานที่ จ.บุรีรัมย์ หลังเจอสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 จนไม่มียอดสั่งซื้อ-ส่งออกไม่ได้-ร้านปิดช่วงล็อกดาวน์
วันที่ 4 สิงหาคม 2563 บริษัท นารายณ์อินเตอร์เทรด จำกัด ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีแรงงานประท้วงที่ จ.บุรีรัมย์ โดยระบุว่า ประการที่หนึ่ง บริษัทได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ทำให้ไม่มีออร์เดอร์กระเป๋าเข้ามา จึงได้มีการส่งตัวแทนไปเจรจากับพนักงานบริษัททั้งสองโรงงาน เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และได้มีข้อสรุปในการยื่นปิดกิจการชั่วคราว เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม - 31 กรกฎาคม 2563 เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานได้เข้าสู่กระบวนการเยียวยาของรัฐบาล และได้รับเงินชดเชยจากประกันสังคม 62% ของรายได้ ซึ่งเป็นค่าจ้างที่พนักงานได้รับจากโครงการเยียวยาของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะยังคงไม่มีออร์เดอร์กระเป๋าเข้ามา แต่บริษัทก็คิดโปรเจกต์พิเศษในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในการผลิตผ้าปิดจมูก เพื่อให้เกิดการจ้างงานต่อเนื่อง เพราะบริษัทเห็นว่าพนักงานทุกคนเป็นเสมือนครอบครัวนารายา ที่ร่วมทำงานกันมาเป็นเวลานาน หลายคนเป็นที่ไว้เนื้อเชื้อใจในฝีมือ จึงพยายามขยายโปรเจกต์การผลิตผ้าปิดจมูก จนมีการจำหน่ายทางออนไลน์และมีการส่งออกไปยังต่างประเทศ แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับต้นทุนที่เกิดขึ้น
ประการที่สอง กรณีที่พนักงานบางส่วนเรียกร้องให้บริษัทจ่ายค่าจ้าง 100% หากไม่มีออร์เดอร์จริง ขอให้จ่ายตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน เป็นจำนวนเงิน 240 บาท หรือ 75% นั้น ตัวแทนบริษัทได้มีการพูดคุยกับพนักงานเกี่ยวกับทิศทางการทำงานต่อไป และพนักงานบางส่วนได้มีข้อเสนอด้วยความสมัครใจกลับมายังบริษัทว่า จะขอรับค่าจ้าง 62% ต่อมาเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2563 ในวันเปิดทำงานของบริษัท ได้มีพนักงานบางส่วนออกมาเรียกร้องข้างต้น บริษัทได้พิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นว่า COVID-19 ยังไม่คลี่คลาย และยังส่งผลกระทบกับบริษัท ทำให้ไม่สามารถจ่ายค่าจ้างตามข้อเรียกร้องของพนักงานที่ให้จ่ายค่าจ้าง 100%
ประการสุดท้าย จากสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น บริษัทได้พยายามแก้ปัญหาที่เกิดจากผลกระทบมาโดยตลอด และบริษัทมีความเสียใจอย่างมากต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น ทางบริษัทได้เรียกประชุมผู้บริหารเป็นการด่วนเพื่อหาทางออก แต่ท้ายที่สุดเนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ไม่ส่งผลให้เศรษฐกิจดีขึ้น ส่งผลให้ผู้ใช้บริการน้อยลง นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา รวมถึงการล็อกดาวน์ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ร้านค้าปิด ไม่มีนักท่องเที่ยว ขายของไม่ได้ ซึ่งจนถึงปัจจุบัน ทางบริษัทยังไม่มีออร์เดอร์กระเป๋าผ้าซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักเข้ามา จึงมีมติในที่ประชุมที่จะปิดโรงงานที่ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป
วันที่ 4 สิงหาคม 2563 บริษัท นารายณ์อินเตอร์เทรด จำกัด ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีแรงงานประท้วงที่ จ.บุรีรัมย์ โดยระบุว่า ประการที่หนึ่ง บริษัทได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ทำให้ไม่มีออร์เดอร์กระเป๋าเข้ามา จึงได้มีการส่งตัวแทนไปเจรจากับพนักงานบริษัททั้งสองโรงงาน เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และได้มีข้อสรุปในการยื่นปิดกิจการชั่วคราว เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม - 31 กรกฎาคม 2563 เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานได้เข้าสู่กระบวนการเยียวยาของรัฐบาล และได้รับเงินชดเชยจากประกันสังคม 62% ของรายได้ ซึ่งเป็นค่าจ้างที่พนักงานได้รับจากโครงการเยียวยาของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะยังคงไม่มีออร์เดอร์กระเป๋าเข้ามา แต่บริษัทก็คิดโปรเจกต์พิเศษในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในการผลิตผ้าปิดจมูก เพื่อให้เกิดการจ้างงานต่อเนื่อง เพราะบริษัทเห็นว่าพนักงานทุกคนเป็นเสมือนครอบครัวนารายา ที่ร่วมทำงานกันมาเป็นเวลานาน หลายคนเป็นที่ไว้เนื้อเชื้อใจในฝีมือ จึงพยายามขยายโปรเจกต์การผลิตผ้าปิดจมูก จนมีการจำหน่ายทางออนไลน์และมีการส่งออกไปยังต่างประเทศ แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับต้นทุนที่เกิดขึ้น
ประการที่สอง กรณีที่พนักงานบางส่วนเรียกร้องให้บริษัทจ่ายค่าจ้าง 100% หากไม่มีออร์เดอร์จริง ขอให้จ่ายตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน เป็นจำนวนเงิน 240 บาท หรือ 75% นั้น ตัวแทนบริษัทได้มีการพูดคุยกับพนักงานเกี่ยวกับทิศทางการทำงานต่อไป และพนักงานบางส่วนได้มีข้อเสนอด้วยความสมัครใจกลับมายังบริษัทว่า จะขอรับค่าจ้าง 62% ต่อมาเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2563 ในวันเปิดทำงานของบริษัท ได้มีพนักงานบางส่วนออกมาเรียกร้องข้างต้น บริษัทได้พิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นว่า COVID-19 ยังไม่คลี่คลาย และยังส่งผลกระทบกับบริษัท ทำให้ไม่สามารถจ่ายค่าจ้างตามข้อเรียกร้องของพนักงานที่ให้จ่ายค่าจ้าง 100%
ประการสุดท้าย จากสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น บริษัทได้พยายามแก้ปัญหาที่เกิดจากผลกระทบมาโดยตลอด และบริษัทมีความเสียใจอย่างมากต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น ทางบริษัทได้เรียกประชุมผู้บริหารเป็นการด่วนเพื่อหาทางออก แต่ท้ายที่สุดเนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ไม่ส่งผลให้เศรษฐกิจดีขึ้น ส่งผลให้ผู้ใช้บริการน้อยลง นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา รวมถึงการล็อกดาวน์ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ร้านค้าปิด ไม่มีนักท่องเที่ยว ขายของไม่ได้ ซึ่งจนถึงปัจจุบัน ทางบริษัทยังไม่มีออร์เดอร์กระเป๋าผ้าซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักเข้ามา จึงมีมติในที่ประชุมที่จะปิดโรงงานที่ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID 19 << ได้ที่นี่
