เชื่อว่าคนที่ฝากเงินกับสลากออมทรัพย์ นอกจากตั้งใจออมเงินในระยะยาว เพื่อรับผลตอบแทนที่มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากแล้ว ก็น่าจะอยากมีโมเมนต์ถูกรางวัลใหญ่กับเขาสักครั้งบ้าง ดังนั้น ถ้าเรามีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่ง คงต้องคิดพิจารณาให้ดีว่าจะเลือกซื้อสลากออมทรัพย์ของธนาคารไหนดี ถึงมีโอกาสลุ้นรางวัลใหญ่ได้ง่ายกว่า และได้ผลตอบแทนคุ้มค่าที่สุดด้วย
วันนี้เราจึงรวบรวมข้อมูลสลากออมทรัพย์ รุ่นอายุ 2-3 ปี ของแต่ละธนาคาร ที่ยังเปิดจำหน่าย ณ ปัจจุบัน (เดือนกรกฎาคม 2563) ได้แก่ สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ (รุ่นที่ 3), สลากออมสินพิเศษ 3 ปี และสลาก ธ.ก.ส. ชุดเกษตรยั่งยืน มาเปรียบเทียบผลตอบแทนและโอกาสถูกรางวัลใหญ่ให้เห็นกันชัด ๆ ไปเลยว่า สลากออมทรัพย์ค่ายไหนคุ้มค่าแก่การออมที่สุด... คำตอบอยู่ตรงนี้


นอกจากผลตอบแทนน่าสนใจแล้ว ยังมีโอกาสรับโชคสูงทีเดียว เพราะสลาก ธอส. ชุดพิมานมาศ จำหน่ายเพียง 10 หมวด หมวดละ 1 แสนหน่วย เท่านั้น โดยมีรางวัลเป็นเงิน 50,000 บาท เพียงประเภทเดียว แต่กระจายให้ทุกหมวด หมวดละ 10 รางวัล จับรางวัลทุกเดือน รวม 36 งวด
เท่ากับว่า หากเราซื้อสลาก ธอส. ชุดพิมานมาศ 1 หน่วย จะมีโอกาสถูกรางวัล 50,000 บาท ถึง 0.01% ต่องวด หรือถ้าซื้อ 10 หน่วย ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสถูกรางวัลเป็น 0.1% แถมยังได้ลุ้น 2 ต่อ เพราะมีรางวัลพิเศษ 500,000 บาท หมวดละ 2 รางวัล ให้ลุ้นเพิ่มอีกทุกไตรมาส รวม 12 งวด ด้วยนะ

และสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 3 ปี

ขณะที่ธนาคารออมสิน มีสลากออมทรัพย์ รุ่นอายุ 3 ปี จำหน่าย 2 ประเภท คือ สลากออมสินพิเศษ 3 ปี และสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 3 ปี ซึ่งจำหน่ายในราคาหน่วยละ 50 บาท และให้ผลตอบแทนขั้นต่ำเท่ากัน นั่นคือ
- ฝากไม่ถึง 500,000 บาท ครบกำหนดจะได้รับผลตอบแทน 0.20% ต่อปี
- ฝาก 500,000 บาท ครบกำหนดจะได้รับผลตอบแทน 0.68% ต่อปี
- ฝาก 5 ล้านบาทขึ้นไป ครบกำหนดจะได้รับผลตอบแทน 0.776% ต่อปี

ในส่วนของรางวัล สลากออมสินมีหลายรางวัลให้ได้ลุ้นกัน ตั้งแต่รางวัลที่ 1-5 ไล่เรียงไปจนถึงรางวัลเลขท้าย ซึ่งมูลค่าเงินรางวัลลดหลั่นกันไป โดยรางวัลใหญ่ที่สุดคือ เงินรางวัล 10 ล้านบาท จำนวน 3 รางวัลต่องวด แต่ต้องยอมรับว่าโอกาสถูกรางวัลไม่ง่ายนัก เพราะต้องเสี่ยงหมายเลขสลาก เลขงวด และหมวดอักษรให้ตรงกันทั้ง 3 ส่วน จากจำนวนสลากที่จำหน่ายหลายล้านหน่วย
เมื่อลองคำนวณความน่าจะเป็นดูเล่น ๆ เราจะมีโอกาสถูกรางวัลจากสลากออมสินพิเศษ 3 ปี และสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 3 ปี (ไม่รวมเลขท้าย) ประมาณ 0.0017% เท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม หากต้องการถูกรางวัลทุกงวด ต้องซื้อสลากขั้นต่ำ 500,000 บาท เพื่อถูกเลขท้าย 4 ตัว รับเงินรางวัลเดือนละ 200 บาท


- รางวัลที่ 1 (เลข 4 ตัว เสี่ยงหมวด) มูลค่า 2 ล้านบาท มีสิทธิ์ตรวจรางวัลเฉพาะงวดที่ออม
- รางวัลเลข 4 ตัว ไม่เสี่ยงหมวด มูลค่า 2,000 บาท มีสิทธิ์ตรวจรางวัลเฉพาะงวดที่ออม
- รางวัลเลข 4 ตัว ไม่เสี่ยงหมวด มูลค่า 20 บาท
เมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นว่าเงินรางวัลอาจไม่ค่อยจูงใจเท่าไรนัก เนื่องจากการซื้อสลาก ธ.ก.ส. 1 งวด จะมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลที่ 1 มูลค่า 2 ล้านบาท และเลข 4 ตัว มูลค่า 2,000 บาท เพียง 1 ครั้ง เฉพาะในงวดที่ซื้อสลากเท่านั้น ส่วนอีก 23 งวดที่เหลือ จะได้ลุ้นเพียงรางวัลเลข 4 ตัว มูลค่า 20 บาท
หมายความว่า หากอยากมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลที่ 1 ทุกเดือน เหมือนสลากออมทรัพย์ค่ายอื่น เราจะต้องซื้อสลาก ธ.ก.ส. อย่างน้อย 20 บาท ทุกงวด โดยมีโอกาสถูกรางวัลราว ๆ 0.00002% ต่องวด หรือถ้าหวังเพียงแค่ถูกรางวัล 20 บาท ทุกเดือน ก็ต้องซื้อสลากจำนวน 200,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดที่ซื้อได้ในแต่ละครั้ง


เปรียบเทียบผลตอบแทนขั้นต่ำ
จะเห็นว่า สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ ให้ผลตอบแทนตามหน้าสลากสูงที่สุด เพราะฝากเริ่มต้นแค่ 50,000 บาท ก็ได้รับดอกเบี้ยแน่นอน 0.90% ต่อปี หรือคิดเป็นเงิน 1,350 บาท เฉลี่ยได้ผลตอบแทนขั้นต่ำปีละ 450 บาท
สำหรับ สลาก ธ.ก.ส. กรณีฝาก 50,000 บาท เท่ากัน จะได้ผลตอบแทนเพียง 0.5% ต่อปี รวม 500 บาท ส่วนสลากออมสินพิเศษ 3 ปี ให้ผลตอบแทนตามหน้าสลากน้อยที่สุด คือ 0.20% ต่อปี คิดเป็นเงินรวม 300 บาท อย่างไรก็ตาม หากต้องการผลตอบแทนมากกว่านี้ ต้องซื้อสลาก ธ.ก.ส. และสลากออมสิน เป็นจำนวนหลักแสนบาทขึ้นไป
เปรียบเทียบโอกาสถูกรางวัล (ไม่รวมเลขท้าย)
คนที่อยากถูกรางวัลใหญ่สักครั้ง ถ้าซื้อสลาก ธอส. จะได้ลุ้นสนุกแน่นอน เพราะฝาก 1 หน่วย มีโอกาสถูกรางวัล 50,000 บาท ถึง 0.01% ต่องวด หรือหากฝากเพิ่มขึ้นก็ยิ่งมีโอกาสมากขึ้นไปอีก โดยมีสิทธิ์ลุ้นรางวัล 50,000 บาท ได้ถึง 36 งวด ตลอดระยะเวลาฝาก ในขณะที่สลากออมสิน และสลาก ธ.ก.ส. ความน่าจะเป็นในการถูกรางวัล (ไม่รวมเลขท้าย) อยู่ที่ 0.0017% และ 0.00002% ตามลำดับ ซึ่งน้อยกว่าสลาก ธอส. อยู่หลายเท่าเลย
ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร. 0-2645-9000
www.ghbank.co.th