x close

CPTPP มีข้อเสียอะไรบ้าง องค์การเภสัชฯ แจงยิบ หากเข้าร่วม ไทยจะพึ่งพาตัวเองไม่ได้ !

 

          องค์การเภสัชกรรม แจงละเอียดยิบ หากไทยเข้าร่วม CPTTP เสียประโยชน์ 3 ด้าน กระทบสิทธิบัตรและยา อุตสาหกรรมยาถูกทำลาย กระทบการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ และการจัดซื้อ-จัดจ้างโดยรัฐ

CPTPP ข้อเสียคืออะไร

          วันที่ 13 มิถุนายน 2563 กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า องค์การเภสัชกรรม ได้จัดทำข้อโต้แย้งที่เป็นข้อกังวลเกี่ยวกับ "CPTPP" หรือความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้า สำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการ จัดทำความเห็นข้อดี-ข้อเสียของการเข้าร่วม CPTPP ในครั้งนี้

          โดยองค์การเภสัชกรรม ได้จัดทำข้อโต้แย้งต่าง ๆ ที่เป็นข้อกังวล โดยชี้ให้เห็นถึงข้อเสีย 3 ด้าน รวม 8 ข้อ ดังนี้

ประการแรก กระทบด้านสิทธิบัตรและยา ได้แก่

          1. การใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร (CL) โดยรัฐ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงยา มีขอบเขตของการใช้ลดลง ไม่สามารถใช้กรณี Public non-commercial use (การใช้งานสาธารณะที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์) เหมือนที่ผ่านมา เพราะจะสุ่มเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องโดยกระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ กระทบต่อการเข้าถึงยาของประชาชน

          2. การจำหน่ายยา Generic ช้าลงและยากขึ้น เนื่องจากต้องมีกระบวนการเชื่อมโยงการทะเบียนยา และกระบวนการสิทธิบัตร รวมถึงกระบวนการอุทธรณ์ ทำให้ยา Generic เข้าสู่ตลาดได้ช้าลง

          3. ไทยไม่ได้ประโยชน์ในด้านราคายาจากการลดภาษีศุลกากร เนื่องจากแหล่งวัตถุดิบยาของไทยอยู่นอกประเทศสมาชิก CPTPP

          4. ต้องเปิดตลาดของการจัดซื้อ-จัดจ้างภาครัฐ ให้กับอุตสาหกรรมจากต่างประเทศ ให้เข้ามาแข่งขันอย่างเท่าเทียม รัฐจึงไม่สามารถใช้นโยบายบัญชีนวัตกรรมไทย หรือระเบียบพัสดุ ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมยาในประเทศได้ ผู้ผลิตยาอาจต้องปรับเปลี่ยนสถานะจาก "ผู้ผลิต" เป็น "ผู้นำเข้ายาจากต่างประเทศ" อุตสาหกรรมยาในประเทศจะถูกทำลาย และไทยจะไม่สามารถพึ่งพาตนเองด้านยาได้ โดยเฉพาะเมื่อเกิดวิกฤตด้านสาธารณสุข

CPTPP ข้อเสียคืออะไร
ภาพจาก Denis Costille / Shutterstock.com

ประการที่ 2 กระทบต่อการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ (UPOV1991) ได้แก่

          1. การเข้าร่วม CPTPP จะทำให้ไทยต้องเข้าเป็นภาคีในสนธิสัญญาคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ (UPOV1991) ซึ่งเพิ่มอำนาจการผูกขาดสายพันธุ์พืชใหม่เป็น 20-25 ปี ห้ามเกษตรกรเก็บพันธุ์พืชไปปลูกต่อ รวมทั้งขยายอำนาจการผูกขาดจากเดิมเฉพาะสายพันธุ์พืชไปยังผลผลิตหรือผลิตภัณฑ์ ส่งผลกระทบต่อการผูกขาดยา ผ่านการผูกขาดสายพันธุ์พืชด้วย และกระทบต่อการพัฒนาขีดความสามารถของนักปรับปรุงพันธุ์รายย่อยและเกษตรกร ซึ่งรวมถึงเกษตรกรผู้ปลูกสมุนไพร ส่งผลต่อต้นทุนการเพาะปลูกและราคาสมุนไพร การแข่งขันและการต่อยอด การค้นคว้าวิจัยต่าง ๆ

          2. การเข้าร่วม CPTPP ยังทำให้ไทยต้องเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาบูดาเปสต์ (Budapest Treaty) ว่าด้วยการยอมรับระหว่างประเทศในการฝากเก็บจุลชีพเพื่อการจดสิทธิบัตร และต้องแก้กฎหมายคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกลไกการแบ่งปันผลประโยชน์ ทั้งในเรื่องทรัพยากรจุลชีพ และการคุ้มครองพืชท้องถิ่นในประเทศไทย

ประการที่ 3 คือ กระทบต่อการจัดซื้อ-จัดจ้างโดยรัฐ ได้แก่

          1. ในการกำหนดมูลค่าขั้นต่ำ และการขอเวลาปรับตัวในการเปิดตลาดจัดซื้อ-จัดจ้างโดยรัฐ ตามที่กรมเจรจาฯ แจ้งนั้น เรายังไม่ทราบว่าจะสามารถกำหนดได้ที่มูลค่าเท่าใด และจะได้รับการผ่อนผันหรือไม่ เนื่องจากไทยตามเข้าร่วมภายหลัง ดังนั้น หากการเจรจาขอผ่อนผันในประเด็นอ่อนไหวต่าง ๆ ไม่ได้ ไทยไม่ควรเข้าร่วมภาคี

          2. การยกเลิกสิทธิพิเศษของรัฐวิสาหกิจ ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจขององค์การเภสัชกรรม ทำให้ไม่สามารถดำเนินภารกิจเชิงสังคมในการรองรับนโยบายด้านยา เวชภัณฑ์ และวัคซีนที่จำเป็นต่อระบบสาธารณสุขของประเทศได้ เช่น การเกิดโรคระบาดโควิด-19

CPTPP ข้อเสียคืออะไร
ภาพจาก Burnsten / Shutterstock.com


ขอบคุณข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ


 
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
CPTPP มีข้อเสียอะไรบ้าง องค์การเภสัชฯ แจงยิบ หากเข้าร่วม ไทยจะพึ่งพาตัวเองไม่ได้ ! อัปเดตล่าสุด 16 มิถุนายน 2563 เวลา 11:28:04 19,941 อ่าน
TOP