เผย 19 มาตรการเยียวยาผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ทั้งปล่อยเงินกู้เพิ่มสภาพคล่อง มาตรการพักเงินต้น - ลดดอกเบี้ย ควบคู่กับการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการ เพื่อเก็บไว้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ฝ่าวิกฤตโควิด 19 ไปต่อให้ได้
วันที่ 24 มีนาคม 2563 ศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคโควิด 19 แถลงข่าวถึงมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาประชาชน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 โดยได้ออกมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการซึ่งได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโคโรน่า โดยหลักการเพิ่มสภาพคล่องและการลดภาระผู้ประกอบการ ดังต่อไปนี้
มาตรการระยะที่ 1 ซึ่งออกไปแล้วโดยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 ได้แก่ 12 มาตรการดูแลและเยียวยาผู้ประกอบการ
หลักการเพิ่มสภาพคล่อง
1. มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 150,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2% สองปีสินเชื่อไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อราย
2. มาตรการพักต้น ลดดอกเบี้ย และขยายระยะเวลาชำระหนี้แก่ลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐบาล เช่น ธนาคารออมสิน, ธนาคารอาคารสงเคราะห์, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
3. มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้จากธนาคารแห่งประเทศไทย ช่วยผ่อนคลายและปรับหลักเกณฑ์โครงสร้างหนี้
4. สินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงานของประกันสังคม วงเงินสินเชื่อ 30,000 ล้านบาท โดยให้ดอกเบี้ยเริ่มต้น 3% ต่อปี ระยะเวลา 3 ปี ให้สถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนประกันสังคม
5. มาตรการคืนสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการในประเภท ลดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายจาก 3% เหลือ 1.5% เริ่มเดือนเมษายนถึงกันยายน 2563
6. เร่งคืนภาษีมูลราคาเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการส่งออก
- กรณียื่นแบบทางอินเทอร์เน็ตได้รับคืนภายใน 15 วัน- กรณียื่นแบบปกติได้รับคืนภายใน 45 วัน
7. เพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณปี 2563 โดยกรมบัญชีกลางได้ผ่อนปรนหลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้าง ปรับขั้นตอนและระยะเวลาการดำเนินการ
หลักการลดภาระ
8. หักเพิ่มภาษีดอกเบี้ยจ่าย จาก 1 เท่า เป็น 1.5 เท่า (Soft loan 150,000 ล้านบาท)
9. บรรเทาภาระการจ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟ และคืนค่าประกันการใช้ไฟ
10. ลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมของนายจ้างและลูกจ้างมาตรา 33 จาก 5% เหลือ 4% มาตรา 39 จาก 9% เหลือ 7%
11. ไม่ปลดแรงงาน หักรายจ่ายค่าจ้างงานได้ 3 เท่า
12. บรรเทาภาระค่าธรรมเนียม ค่าเช่า ค่าตอบแทนการให้บริการของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เรื่องการจ่ายค่าเช่าที่ราชพัสดุ สำหรับผู้เช่าประเภทผู้ประกอบการในธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Live NBT2HD
หลักการเพิ่มสภาพคล่อง
1. สินเชื่อรายย่อย ไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อราย
- วงเงินสินเชื่อรวม 10,000 ล้านบาท โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.)
- ให้สินเชื่อต่อรายไม่เกิน 3 ล้านบาท ดอกเบี้ย 3% ใน 2 ปีแรก
หลักการลดภาระ
2. ยืดการเสียภาษีเงินได้
- ภ.ง.ด.50 จากเดิมกำหนดเสียภาษีเดือนพฤษภาคม 2563 ยืดออกไปเป็นภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2563
- ภ.ง.ด.51 จากเดิมกำหนดเสียภาษีเดือนสิงหาคม 2563 ยืดออกไปเป็นภายในวันที่ 30 กันยายน 2563
3. ยืดการเสียภาษีสรรพากร เช่น VAT ภาษีธุจกิจเฉพาะ และอื่น ๆ ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ
- เลื่อนกำหนดเวลายื่นแบบและชำระภาษีทุกประเภท 1 เดือน
4. ยืดการเสียภาษีสรรพสามิตให้กิจการสถานบริการ
- เลื่อนการยื่นแบบและชำระภาษีสถานบริการออกไป 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม - 31 พฤษภาคม 2563 ให้เสียภาษีวันที่ 15 กรกฎาคม 2563
5. ยืดการเสียภาษีสรรพสามิตให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน
- เลื่อนการยื่นแบบและชำระภาษีภายใน 10 วัน เป็นภายใน 15 วันของเดือนถัดไป
- กรอบระยะเวลา 3 เดือน
6. ยกเว้นอากรขาเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและรักษา COVID-19
- ยกเว้นอากรขาเข้าสินค้าที่ใช้รักษาและป้องกันโรคโควิด 19 เป็นเวลา 6 เดือน ถึงช่วงเดือนกันยายน 2563
7. ยกเว้นภาษีและลดค่าธรรมเนียมจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (Non-Bank) ให้เจ้าหนี้ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล เช่าซื้อ Leasing ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 - 31 ธันวาคม 2564

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Live NBT2HD
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID 19 << ได้ที่นี่