อธิบดีกรมการข้าว เผยสาเหตุราคาข้าวเหนียวขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ เพราะชาวนาส่วนหนึ่งหันไปปลูกข้าวหอมมะลิแทน จนผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยกว่าความต้องการของผู้บริโภค ซ้ำยังได้รับผลกระทบจากภาวะอีสานแล้ง
ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกเหนียวปรับตัวสูงตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 เป็นตันละ 10,268 บาท จนถึงเดือนสิงหาคม 2562 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9,697 บาท เป็นราคาตันละ 15,179 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 56.53
นอกจากนี้ราคาข้าวเหนียวยังปรับตัวสูงขึ้นมาก ในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม
2562 เนื่องจากเป็นช่วงรอยต่อของฤดูกาล โดยข้าวเก่ามีปริมาณเหลือน้อย
ส่วนข้าวใหม่ยังไม่ถึงช่วงเวลาเก็บเกี่ยว
อีกทั้งภาครัฐได้ระบายข้าวในสต็อกออกหมด
ส่วนชาวนาในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เก็บที่เหลือไว้บริโภค
ส่งผลให้ราคาข้าวเหนียวในตลาดสูงขึ้น
อธิบดีกรมการข้าว ระบุอีกว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการโรงสีพยายามหาซื้อข้าวเหนียวเพื่อเก็บไว้ในสต็อกและแปรสภาพเป็นข้าวถุงเพื่อจำหน่าย เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคในประเทศยังคงมีมาก สำหรับพื้นที่นาปรัง ข้าวเหนียวปี 2562 มี 1,006,199 ไร่ เก็บเกี่ยวผลผลิตได้รวม 595,963 ตัน ส่วนพื้นที่เป้าหมายปลูกข้าวเหนียว รอบที่ 1 หรือนาปี ปี 2562/63 จำนวน 16.172 ล้านไร่ คาดการณ์ว่าจะได้ผลผลิต 6.142 ล้านตัน
ขณะนี้กรมส่งเสริมการเกษตรได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเหนียวแล้ว พื้นที่รวม 12,716,114 ไร่ แต่จากภาวะฝนทิ้งช่วงในปีนี้ ทำให้พื้นที่เพาะปลูกข้าวเหนียวในหลายจังหวัดได้รับผลกระทบ ได้แก่ ชัยภูมิ ขอนแก่น และเพชรบูรณ์ รวม 793,885 ไร่ ซึ่งชาวนาจะเก็บเกี่ยวผลผลิตตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2562 ซึ่งคาดว่าปริมาณผลผลิตข้าวเหนียวจะลดลงจากเป้าหมายที่กำหนดไว้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก