มาดูวิธีรับมือปัญหาไม่มีเงินออมของคนประกอบอาชีพอิสระ ด้วยเทคนิควางแผนการเงินง่าย ๆ ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ แถมยังมีเงินออมด้วย

ปัญหาน่าปวดหัวของคนที่ประกอบอาชีพอิสระ มีรายได้ไม่แน่นอน
อย่างพ่อค้า แม่ค้า เกษตรกร คนขับแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
หรือคนหาเช้ากินค่ำ ฯลฯ ก็คือ บางวันขายดิบขายดี
หรือมีลูกค้าใช้บริการเยอะก็รับทรัพย์กันไปถ้วนหน้า แต่ถ้าวันไหน เดือนไหน
หาลูกค้าได้น้อย ยอดขายตก คนจ้างงานก็ไม่มี แบบนี้เลยหมุนเงินไม่ทัน
ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมา กลายเป็นดินพอกหางหมู
เกิดปัญหาเงินไม่พอใช้วนไปทุกเดือน
ใครเผชิญเหตุการณ์ทำนองนี้อยู่บ่อย ๆ ถึงเวลาต้องมาวางแผนการเงินกันแล้วล่ะ เพราะถ้าเรารู้จักบริหารจัดการรายรับ-รายจ่ายให้ดี ๆ ต่อให้มีรายได้ไม่แน่นอน ก็สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ ไม่ต้องไปก่อหนี้ แถมยังมีเงินออมด้วย

อย่างแรกที่ต้องทำก็คือ เขียนรายการค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เราต้องจ่ายทุกเดือนออกมาเห็นชัด ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายคงที่ ซึ่งต้องจ่ายเท่ากันทุกเดือน เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าประกัน ฯลฯ หรือค่าใช้จ่ายผันแปร อย่างค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ฯลฯ ที่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานของเรา การลิสต์รายจ่ายต่าง ๆ จะทำให้เราทราบว่าในแต่ละเดือนเราต้องเตรียมเงินไว้ประมาณเท่าไร ซึ่งเมื่อทำงานหาเงินมาได้ ก็ต้องแบ่งเงินไว้สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ในทุก ๆ เดือน
2. จดบันทึกรายรับ-รายจ่าย
ข้อนี้ก็สำคัญมากอีกเหมือนกัน เพราะในเมื่อเรามีรายได้ไม่แน่นอน เราก็จำเป็นต้องรู้ว่าในแต่ละเดือนเรามีรายรับเข้ามาแค่ไหน เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนที่เราลิสต์ไว้หรือไม่ ถ้าเดือนไหนมีรายรับเข้ามามาก ก็สมควรเก็บออมไว้เผื่อใช้จ่ายในเดือนที่รายรับเข้ามาน้อย จะทำให้เราบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในบ้านได้อย่างไม่ลำบาก และเมื่อจ่ายเงินไปแล้วทุกครั้งก็ต้องจดบันทึกไว้ เพื่อสำรวจว่าเดือนนี้เราเสียเงินไปกับค่าใช้จ่ายประเภทไหนมากกว่ากัน ใช้เงินฟุ่มเฟือยไปหรือไม่ เมื่อทราบแล้วจะได้ปรับพฤติกรรมให้ประหยัดขึ้น ลดภาระค่าใช้จ่ายลงได้อีก
3. กันเงินสำรองไว้ฉุกเฉิน

หลังจากจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายแล้ว ถ้าเดือนไหนมีเงินเหลือมาก อย่าลืมแบ่งส่วนหนึ่งไว้เพื่อเป็นเงินสำรองยามฉุกเฉิน ซึ่งโดยปกติเราควรมีเงินสำรองฉุกเฉินประมาณ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายประจำเดือน เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าจะมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินก้อนขึ้นมาเมื่อไร หรือถ้าจะให้ดีที่สุด พอมีรายได้เข้ามาปุ๊บก็ให้แบ่งมาออมเป็นเงินสำรองฉุกเฉินไว้ก่อนเลยอย่างน้อย 10-20% เป็นการสร้างวินัยให้ตัวเองสามารถเก็บเงินได้จริง ๆ
4. ไม่สร้างหนี้ผูกพัน
สมัยนี้มีของล่อตาล่อใจให้คนอยากจับจ่ายใช้สอยกันเยอะ แต่สำหรับคนที่มีรายได้ไม่แน่นอน ขอให้พิจารณาความสามารถในการจ่ายหนี้ของตัวเองก่อน และถ้าเป็นไปได้ไม่ควรสร้างหนี้ระยะยาว เช่น ผ่อนบ้านราคาหลายล้าน นาน 20-30 ปี แม้บางคนจะบอกว่าตัวเองมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ หางานได้เยอะในช่วงนี้ แต่อย่าลืมว่าอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน และอาชีพของเราก็มีรายได้ไม่คงที่ หากผ่อนไปแล้ว 10 ปี เกิดปัญหาติดขัด เจ็บป่วยจนทำงานไม่ได้ ลูกค้าหด กำไรหาย หนี้บ้านก้อนนี้จะกลายเป็นภาระก้อนใหญ่ที่ทำให้เราปวดขมับแน่นอน
5. อย่าลืมออมเงินเพื่อเกษียณ

แต่ก็ต้องแนะนำว่าการเก็บเพื่อวัยเกษียณใช้เวลานานหลายสิบปี ดังนั้นไม่ควรเก็บเงินไว้กับตัวเองเฉย ๆ เพราะผลตอบแทนไม่เพิ่มขึ้น แถมค่าของเงินยังน้อยลงไปตามอัตราเงินเฟ้ออีกต่างหาก จึงควรนำเงินไปฝากประจำกับธนาคารเพื่อรับดอกเบี้ย หรือจะออมกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ก็ได้ เพราะได้รับเงินสมทบเพิ่มจากรัฐบาลสูงสุดถึง 100% และได้ผลตอบแทนไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนอีก แบบนี้แหละถึงจะเห็นเงินออมของเรางอกเงยขึ้นอย่างชัดเจน
ไม่ว่าจะทำงานประจำหรือประกอบอาชีพอิสระ มีรายได้มากน้อยแค่ไหน ก็ไม่ใช่ข้อจำกัดของการออมเงินแต่อย่างใด ขอแค่รู้จักบริหารจัดการให้ดี ก็มีชีวิตที่สุขสบายในวัยเกษียณได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กองทุนการออมแห่งชาติ