สำรวจสุขภาพการเงิน ออมเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน ประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ กระจายความเสี่ยง และลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เป็นหลักการลงทุนเพื่อช่วยให้สุขภาพการเงินแข็งแรง
![การลงทุน การลงทุน]()
หลาย ๆ คน มักจะคิดว่าการลงทุนเป็นเรื่องไกลตัวและยุ่งยาก แต่จริง ๆ แล้ว การลงทุนเป็นเรื่องใกล้ตัว ถ้าจะให้เปรียบเทียบ การลงทุนก็เหมือนกับการออกกำลังกาย ซึ่งทุกคนอยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เช่นเดียวกับสุขภาพการลงทุน ที่เราอยากมีความมั่นคงและมั่งคั่ง เพื่อช่วยให้เห็นภาพได้ชัดเจนและง่ายขึ้น วันนี้ กระปุกดอทคอม จึงนำเคล็ดลับจาก K-Expert ธนาคารกสิกรไทย ที่อธิบายการลงทุนง่าย ๆ โดยเปรียบเทียบกับการออกกำลังกาย มาฝากกัน
การดูแลสุขภาพกาย มีลักษณะคล้ายกับการลงทุน นั่นคือ ในยามที่เป็นหนุ่มสาว เรามักจะยังมีสุขภาพที่ดี หรือมีเงินใช้เพียงพอจากการทำงาน เราจึงไม่เห็นความจำเป็นมากนักที่จะต้องออกกำลังกายหรือต้องเก็บเงินเพื่อลงทุน แต่จริงๆ แล้ว ถ้าเราดูแลสุขภาพทางกายและการเงินตั้งแต่อายุยังน้อย โอกาสที่เราจะเจ็บป่วยหรือขัดสนในยามที่มีอายุมากขึ้นจะน้อยลง
![การลงทุน การลงทุน]()
1. เริ่มแรกเราควรตรวจสุขภาพเก็บข้อมูลตัวเองไว้ อีกทั้งมีการปรึกษาแพทย์หรือหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับตัวเอง นอกจากนี้ เรายังสามารถจ้างโค้ชมาช่วยให้คำปรึกษาในการออกกำลังกายได้อีกด้วย
2. ควรมีการวอร์มอัพร่างกายก่อนเริ่มออกกำลังกาย เพื่อสร้างความยืดหยุ่นให้แก่กล้ามเนื้อ ช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย จากนั้นต้อง
3. วิเคราะห์ตัวเองว่า ควรเลือกออกกำลังแบบไหนที่เหมาะกับตัวเอง ให้เหมาะกับสภาพร่างกายปัจจุบัน เช่น หากยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ก็สามารถเลือกออกกำลังกายแบบหนัก ๆ แรง ๆ เช่น ไตรกีฬา วิ่งมาราธอน หากอยู่ในวัยกลางคน อาจเลือกออกกำลังกายแบบแรงกระแทกต่ำ เช่น วิ่งจ๊อกกิ้งเบา ๆ หรือขี่จักรยาน แต่ถ้าอายุมาก คงต้องออกกำลังแบบเน้นความยืดหยุ่นและเน้นการหายใจ เช่น โยคะ ว่ายน้ำ แต่การเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะกับตัวเอง ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งและสุขภาพของร่างกายมากกว่าอายุ หากเราได้มีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สุขภาพแข็งแรง ทำให้แม้จะอายุมาก เราก็อาจจะยังสามารถออกกำลังกายแบบหนัก ๆ ได้เหมือนในวัยหนุ่มสาว
4. ออกกำลังกายหลายรูปแบบ การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องยึดติดกับการออกกำลังกายประเภทเดียว ทั้งนี้เพื่อลดความเบื่อหน่ายและช่วยป้องกันการบาดเจ็บซ้ำ ๆ โดยอาจจะกำหนดการออกกำลังกายกระจายไปหลายรูปแบบ เช่น จันทร์-วิ่ง อังคาร-ว่ายน้ำ พุธ-ขี่จักรยาน พฤหัสบดี-เข้าฟิตเนสยกน้ำหนัก ศุกร์-ตีเทนนิส เสาร์-โยคะ อาทิตย์-หยุด
5. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความแข็งแรงของร่างกาย ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 3-5 วันต่อสัปดาห์
![การลงทุน การลงทุน]()
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุน ต้องบอกว่าหลักการลงทุนไม่แตกต่างกับหลักการออกกำลังกาย
หลักการลงทุนให้สำเร็จ เพื่อความมั่นคงและความมั่งคั่ง มีดังนี้
1. เริ่มจากการสำรวจสุขภาพการเงินของตนเอง เพื่อให้รู้ว่ามีจุดใดต้องแก้ไข และต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เช่น การอ่านหนังสือ การเข้าคอร์สสัมมนา หรือการพูดคุยกับที่ปรึกษาทางการเงิน
2. ก่อนการลงทุน ควรมีการออมเงินเพื่อสำรองฉุกเฉินให้ได้ 6 เท่าของรายจ่ายต่อเดือน เพื่อเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน หรือยามเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
3. ประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพื่อให้ลงทุนได้ตรงกับระดับความเสี่ยง โดยในวัยหนุ่มสาว ยังมีระยะเวลาและแรงในการทำงานหาเงิน สามารถที่จะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงได้ เช่น ลงทุนในหุ้น แต่พอเข้าในวัยกลางคน อาจจะลดความเสี่ยงลงมา เป็นการลงทุนในกองทุนผสม และเมื่อเข้าสู่ช่วงสูงวัย อาจจะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น กองทุนตราสารหนี้ แต่ความเสี่ยงในการลงทุน ไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับอายุ อาทิเช่น หากเรามีประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญในการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แม้อายุสูงขึ้น เราก็ยังสามารถที่จะกระจายการลงทุนไปในหุ้นได้ เป็นต้น
4. ต้องมีการกระจายความเสี่ยง การลดความเสี่ยงในการลงทุน สามารถทำได้โดยการกระจายความเสี่ยงไปยังการลงทุนหลาย ๆ ประเภท เช่น ถ้ารับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างสูง ก็อาจจะลงทุนในตราสารหนี้ 60% ลงทุนในหุ้น 30% ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 5% และลงทุนทองคำ 5% เป็นต้น
![การลงทุน การลงทุน]()
สรุป ถ้าอยากให้สุขภาพการเงินมั่นคงและมั่งคั่ง ควรมีการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุน ต้องมีการวอร์มอัพ ด้วยการมีเงินออมเพื่อสำรองฉุกเฉินก่อน แล้วจึงเลือกการลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงของตัวเอง การลงทุนต้องมีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน และต้องมีวินัยในการลงทุน
จะเห็นได้ว่า การออกกำลังกายและการลงทุนมีลักษณะสำคัญที่เหมือนกันคือ เราจำเป็นต้องดูศักยภาพของตัวเราด้วย อย่าออกกำลังมากเกินไปโดยไม่ดูสภาพร่างกายตัวเอง ก่อนที่จะฟิตอาจหัวใจวายไปซะก่อน การลงทุนก็เช่นกัน ไม่ควรลงทุนมากเกินไป เพราะก่อนที่จะรวย เราอาจจะไม่มีเงินกินข้าวก็เป็นได้
K-Expert Action
- ศึกษารายละเอียดเงื่อนไขของสินทรัพย์ที่สนใจก่อนตัดสินใจลงทุน

การดูแลสุขภาพกาย มีลักษณะคล้ายกับการลงทุน นั่นคือ ในยามที่เป็นหนุ่มสาว เรามักจะยังมีสุขภาพที่ดี หรือมีเงินใช้เพียงพอจากการทำงาน เราจึงไม่เห็นความจำเป็นมากนักที่จะต้องออกกำลังกายหรือต้องเก็บเงินเพื่อลงทุน แต่จริงๆ แล้ว ถ้าเราดูแลสุขภาพทางกายและการเงินตั้งแต่อายุยังน้อย โอกาสที่เราจะเจ็บป่วยหรือขัดสนในยามที่มีอายุมากขึ้นจะน้อยลง
หลักการง่าย ๆ ที่จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในการออกกำลังกาย มีดังนี้

2. ควรมีการวอร์มอัพร่างกายก่อนเริ่มออกกำลังกาย เพื่อสร้างความยืดหยุ่นให้แก่กล้ามเนื้อ ช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย จากนั้นต้อง
3. วิเคราะห์ตัวเองว่า ควรเลือกออกกำลังแบบไหนที่เหมาะกับตัวเอง ให้เหมาะกับสภาพร่างกายปัจจุบัน เช่น หากยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ก็สามารถเลือกออกกำลังกายแบบหนัก ๆ แรง ๆ เช่น ไตรกีฬา วิ่งมาราธอน หากอยู่ในวัยกลางคน อาจเลือกออกกำลังกายแบบแรงกระแทกต่ำ เช่น วิ่งจ๊อกกิ้งเบา ๆ หรือขี่จักรยาน แต่ถ้าอายุมาก คงต้องออกกำลังแบบเน้นความยืดหยุ่นและเน้นการหายใจ เช่น โยคะ ว่ายน้ำ แต่การเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะกับตัวเอง ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งและสุขภาพของร่างกายมากกว่าอายุ หากเราได้มีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สุขภาพแข็งแรง ทำให้แม้จะอายุมาก เราก็อาจจะยังสามารถออกกำลังกายแบบหนัก ๆ ได้เหมือนในวัยหนุ่มสาว
4. ออกกำลังกายหลายรูปแบบ การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องยึดติดกับการออกกำลังกายประเภทเดียว ทั้งนี้เพื่อลดความเบื่อหน่ายและช่วยป้องกันการบาดเจ็บซ้ำ ๆ โดยอาจจะกำหนดการออกกำลังกายกระจายไปหลายรูปแบบ เช่น จันทร์-วิ่ง อังคาร-ว่ายน้ำ พุธ-ขี่จักรยาน พฤหัสบดี-เข้าฟิตเนสยกน้ำหนัก ศุกร์-ตีเทนนิส เสาร์-โยคะ อาทิตย์-หยุด
5. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความแข็งแรงของร่างกาย ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 3-5 วันต่อสัปดาห์
สรุป ถ้าอยากให้ร่างกายฟิต สุขภาพแข็งแรง ต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกาย ต้องมีการวอร์มอัพก่อนออกกำลังกาย เลือกประเภทการออกกำลังกายหลายรูปแบบที่เหมาะสมกับตนเอง และต้องทำอย่างสม่ำเสมอด้วย

หลักการลงทุนให้สำเร็จ เพื่อความมั่นคงและความมั่งคั่ง มีดังนี้
1. เริ่มจากการสำรวจสุขภาพการเงินของตนเอง เพื่อให้รู้ว่ามีจุดใดต้องแก้ไข และต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เช่น การอ่านหนังสือ การเข้าคอร์สสัมมนา หรือการพูดคุยกับที่ปรึกษาทางการเงิน
2. ก่อนการลงทุน ควรมีการออมเงินเพื่อสำรองฉุกเฉินให้ได้ 6 เท่าของรายจ่ายต่อเดือน เพื่อเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน หรือยามเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
3. ประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพื่อให้ลงทุนได้ตรงกับระดับความเสี่ยง โดยในวัยหนุ่มสาว ยังมีระยะเวลาและแรงในการทำงานหาเงิน สามารถที่จะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงได้ เช่น ลงทุนในหุ้น แต่พอเข้าในวัยกลางคน อาจจะลดความเสี่ยงลงมา เป็นการลงทุนในกองทุนผสม และเมื่อเข้าสู่ช่วงสูงวัย อาจจะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น กองทุนตราสารหนี้ แต่ความเสี่ยงในการลงทุน ไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับอายุ อาทิเช่น หากเรามีประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญในการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แม้อายุสูงขึ้น เราก็ยังสามารถที่จะกระจายการลงทุนไปในหุ้นได้ เป็นต้น
4. ต้องมีการกระจายความเสี่ยง การลดความเสี่ยงในการลงทุน สามารถทำได้โดยการกระจายความเสี่ยงไปยังการลงทุนหลาย ๆ ประเภท เช่น ถ้ารับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างสูง ก็อาจจะลงทุนในตราสารหนี้ 60% ลงทุนในหุ้น 30% ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 5% และลงทุนทองคำ 5% เป็นต้น
5. ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ วิธีนี้จะช่วยฝึกนิสัยและวินัยการลงทุน พอร์ตการลงทุนของคุณจะเติบโตเร็วขึ้น ถ้าคุณเพิ่มเงินลงทุนอย่างต่อเนื่อง และทำให้มันเป็นเรื่องง่าย ๆ ได้ด้วยการลงทุนแบบตัดบัญชีรายเดือน

จะเห็นได้ว่า การออกกำลังกายและการลงทุนมีลักษณะสำคัญที่เหมือนกันคือ เราจำเป็นต้องดูศักยภาพของตัวเราด้วย อย่าออกกำลังมากเกินไปโดยไม่ดูสภาพร่างกายตัวเอง ก่อนที่จะฟิตอาจหัวใจวายไปซะก่อน การลงทุนก็เช่นกัน ไม่ควรลงทุนมากเกินไป เพราะก่อนที่จะรวย เราอาจจะไม่มีเงินกินข้าวก็เป็นได้
K-Expert Action
- ศึกษารายละเอียดเงื่อนไขของสินทรัพย์ที่สนใจก่อนตัดสินใจลงทุน
- เลือกลงทุนให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก