คุมวงเงินบัตรเครดิต มาแน่ ! เงินเดือนไม่ถึง 3 หมื่น รูดได้แค่ 1.5 เท่า

          สำหรับมาตรการควบคุมอาจจะมีการปรับเพดานการปล่อยเงินกู้ที่เดิมกำหนดไว้ไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ต่อเดือน เป็นการกำหนดตามเพดานของเงินเดือน เช่น มีรายได้ต่อเดือน 15,000-30,000 บาท อาจจะได้รับบัตรเครดิตที่มีวงเงินสูงสุด 1.5 เท่าของรายได้ รายได้ต่อเดือนประมาณ 30,000-50,000 บาท จะได้รับบัตรเครดิตวงเงินไม่เกิน 3 เท่าของรายได้ และรายได้ต่อเดือนเกิน 50,000 บาทขึ้นไป จะได้รับบัตรเครดิตวงเงินประมาณ 5 เท่าของรายได้ 

          ขณะเดียวกันการดำเนินการให้เครดิตสินเชื่อจะเปลี่ยนแปลงไปตามรายได้แต่ละเดือนของภาคประชาชน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดการใช้จ่ายเงินจนเกินตัว เพราะมีการพิจารณาอนุมัติเครดิตสินเชื่อให้เป็นไปอย่างเหมาะสมกับรายได้หรือเงินเดือนของประชาชนแต่ละบุคคลที่มีอยู่

          จากการสำรวจข้อมูลเพิ่มเติมจากธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า ในช่วงเดือนเมษายน 2560 มีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตทั้งสิ้น 19.63 ล้านบัญชี แบ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ 9.56 ล้านบัญชี และบริษัทประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน 10.06 ล้านบัญชี โดยมียอดสินเชื่อคงค้างทั้งสิ้น 3.38 แสนล้านบาท มาจากธนาคารพาณิชย์ 2.06 แสนล้านบาท และบริษัทประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน 1.32 แสนล้านบาท

          ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคล มีจำนวนบัญชีทั้งสิ้น 12.28 ล้านบัญชี แบ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ 2.43 ล้านบัญชี และบริษัทประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน 9.84 ล้านบัญชี มียอดสินเชื่อคงค้างทั้งสิ้น 3.32 แสนล้านบาท แบ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ 1.53 แสนล้านบาท และบริษัทประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน 1.79 แสนล้านบาท

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, รัฐบาลไทย