สรรพากรได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการซื้อกองทุน LTF และ RMF ใหม่ ซึ่งจะเริ่มใช้ในปี 2558 นี้ สงสัยไหมว่าเงื่อนไขใหม่จะกระทบกับการซื้อกองทุนทั้งสองตัวของเราหรือไม่ อย่างไร มีคำตอบมาบอก
"ตั้งแต่ปี 2558 รายได้ที่ใช้คำนวณเป็นฐานเพื่อซื้อกองทุน LTF/RMF จะใช้เฉพาะรายได้ที่เสียภาษีคำนวณเท่านั้น" – K-Expert
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2558 กรมสรรพากรได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ใหม่ โดยให้มีผลในปีภาษี 2558 เป็นต้นไป ทำให้หลายคนสงสัยว่า จะกระทบกับการลงทุนในกองทุน LTF หรือ RMF ของเราหรือไม่ สำหรับเรื่องนี้ ทาง K-Expert ของธนาคารกสิกรไทยก็มีคำตอบมาฝากค่ะ
หลักเกณฑ์การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่กรมสรรพากรกำหนดขึ้นมาใหม่เกี่ยวข้องกับเงินได้ที่จะถูกนำมาคำนวณเพื่อเป็นฐานในการซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีค่ะ โดยกำหนดว่าเป็น "เงินได้พึงประเมินที่ได้รับซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้ในปีนั้น" เปลี่ยนแปลงจากเดิมซึ่งกำหนดว่าเป็น "เงินได้พึงประเมิน"
หลายคนอ่านดูแล้ว อาจรู้สึกว่าไม่เห็นต่างไปจากเดิมเลย ซึ่งจริง ๆ แล้วมีความต่างไปจากเดิมคือ เงินได้ที่จะนำมารวมคำนวณเพื่อซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีนั้น ต้องเป็นรายได้ที่เสียภาษี โดยต่างจากเดิมซึ่งสามารถนำรายได้ที่แสดงในแบบ ภ.ง.ด.ทั้งหมด ทั้งรายได้ที่เสียภาษีและไม่เสียภาษี มาเป็นฐานเพื่อซื้อกองทุน LTF/RMF ได้
สำหรับเงินได้ที่ต้องเสียภาษีก็เป็นรายได้ที่เราคุ้นเคยกันดี เช่น เงินเดือน ค่าล่วงเวลา โบนัส รวมทั้งเงินได้จากวิชาชีพอิสระ เช่น หมอ นักบัญชี นักกฎหมาย สถาปนิก วิศวกร เป็นต้น ส่วนรายได้ที่ไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งตามหลักเกณฑ์ใหม่ไม่สามารถนำมารวมเป็นฐานในการคำนวณเพื่อซื้อกองทุน LTF/RMF มีหลายประเภท เช่น เงินรางวัลจากการถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล กำไรจากการขายกองทุน LTF ที่ขายคืนแบบถูกเงื่อนไข เงินที่ได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเมื่ออายุ 55 ปีขึ้นไป และเป็นสมาชิกกองทุนฯ มาแล้วอย่างน้อย 5 ปีต่อเนื่องกัน เป็นต้น
ขอยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากหลักเกณฑ์ใหม่ดังนี้ค่ะ
ในปี 2558 นาย ก มีรายได้ทั้งปี 1,000,000 บาท ขายกองทุน LTF แบบถูกเงื่อนไขได้กำไร 100,000 บาท ถ้าอิงตามเกณฑ์เดิมที่สามารถนำกำไรจากการขายกองทุน LTF มารวมเป็นฐานเพื่อซื้อกองทุน LTF ในปีที่ขายได้ นาย ก จะซื้อกองทุน LTF ได้สูงสุด 1,100,000 x 15% = 165,000 บาท แต่ถ้าใช้เกณฑ์ใหม่ นาย ก จะซื้อกองทุน LTF ได้เพียง 1,000,000 x 15% = 150,000 บาทค่ะ
จะเห็นได้ว่า การเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี จะกระทบกับผู้ลงทุนที่นำรายได้ซึ่งไม่ต้องเสียภาษีมารวมคำนวณเป็นฐานเพื่อซื้อกองทุน LTF/RMF แต่ถ้าปกติแล้ว เรานำเฉพาะรายได้ที่เสียภาษีมาคิดเป็นฐาน ก็จะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ครั้งนี้ค่ะ อย่างไรก็ตาม กรมสรรพากรเตรียมจะออกประกาศเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นนี้ ซึ่งถ้ามีประเด็นใหม่ที่น่าสนใจ K-Expert จะนำมาอัพเดทให้รับทราบโดยทั่วกันอีกครั้งค่ะ
K-Expert Action
คำนวณยอดเงินลงทุนกองทุน LTF/RMF แต่เนิ่นๆ เพื่อกระจายการลงทุนได้ตลอดทั้งปี ศึกษานโยบายของกองทุน LTF/RMF ก่อนตัดสินใจลงทุนขอขอบคุณข้อมูลจาก
