
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก mama-ricenoodles.com
มาม่า เผยเริ่มมีแนวโน้มอิ่มตัว หลังปีที่แล้วเติบโตเพียง 1.4% เตรียมหารือต่างชาติ เปิดธุรกิจร้านอาหาร-เครื่องดื่ม
วันนี้ (5 มกราคม 2558) นายพิพัฒ พะเนียงเวทย์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ "มาม่า" เผยว่า ในปี 2558 ทางบริษัทมีแนวทางขยายธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเพื่อต่อยอดธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปภายใต้เครื่องหมายการค้า "มาม่า" ซึ่งตอนนี้เริ่มมีแนวโน้มที่จะอิ่มตัวแล้ว เห็นได้จากการเติบโตของตลาด ในปี 2557 ที่เติบโตเพียง 1.4% เท่านั้น
นายพิพัฒ กล่าวว่า ตอนนี้บริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับพันธมิตรจากต่างประเทศหลายราย เพื่อดึงมาร่วมทุน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการเครือข่ายร้านอาหารญี่ปุ่น ยุโรป เชื้อชาติแขก รวมถึงนักลงทุนในไทย ส่วนโมเดลธุรกิจร้านอาหาร อาจจะยกรูปแบบร้านอาหารญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาดในไทย และเมนูอาหารก็ต้องมาจากบะหมี่ เนื่องจากการสำรวจพบว่า "ฮะจิบัง" เป็นแบรนด์ที่ขายในไทยและมีสาขาอยู่ในศูนย์การค้ามากที่สุด ส่วนก่อนหน้านี้บริษัทเคยทดลองเปิดร้านอาหารโดยมีเมนูยำจากเส้นมาม่า ภายในงานสหกรุ๊ป แฟร์ แต่ก็ยังไม่ลงตัว

พิพัฒ พะเนียงเวทย์
นอกจากนี้ นายพิพัฒ ยังเผยถึงธุรกิจที่กำลังสนใจอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือธุรกิจเซ็กเตอร์เครื่องดื่ม ที่ตอนนี้มีสัดส่วนตลาดใหญ่กว่าบะหมี่ แต่ทั้งนี้คงไม่ไปแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างสิงห์และช้าง เพราะต้นทุนเราต่ำมาก รวมถึงเครื่องดื่มพวกชาเขียวด้วย ที่แต่ก่อนมีชาเขียวพร้อมดื่มในตลาดกว่า 30 แบรนด์ แต่ตอนนี้มีหลัก ๆ แค่ 2 แบรนด์เท่านั้น คือ โออิชิและอิชิตัน เลยเตรียมหารือกับพันธมิตรต่างชาติที่เป็นยุโรปในส่วนของธุรกิจเครื่องดื่มต่อไป ส่วนร้านอาหารญี่ปุ่นหากเปิดให้บริการสาขาแรก คงลงุทนไม่มากนักน่าจะอยู่ที่ระดับ 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ นายสุชัย รัตนเจียเจริญ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวยอมรับว่า การขยายธุรกิจใหม่ที่จะช่วยเพิ่มรายได้ของบริษัทนั้น เป็นความท้าทายมากที่สุดในปีนี้ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
