ขอขอบคุณภาพประกอบจาก springnewstv
กรมสรรพากร เตรียมเก็บภาษีซื้อขายสินค้ามือสองผ่านระบบการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม นำร่องด้วยสินค้ารถยนต์
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2557 นายสุทธิชัย สังขมณี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมสรรพากรได้ตัดสินใจเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่อัตราร้อยละ 7 จากส่วนต่างของราคาการซื้อขายรถยนต์มือสอง ซึ่งถือเป็นโครงการนำร่องในการเก็บภาษี VAT จากการซื้อขายสินค้ามือสอง เพราะเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีผู้เกี่ยวข้องไม่กี่ราย อีกทั้งการซื้อขายหรือเปลี่ยนรถยนต์มือสองมีหน่วยงานกลาง คือ กรมขนส่งทางบก เป็นผู้รับจดทะเบียนรถยนต์ ทำให้ระบบการตรวจเช็กข้อมูลทำได้ง่าย โดยทางสำนักนโยบายภาษีของกรมสรรพากรกำลังศึกษารูปแบบและวิธีการจัดเก็บภาษี เพื่อปิดช่องโหว่ของธุรกิจรถยนต์มือสอง
นายสุทธิชัย ระบุว่า ปัจจุบันรถยนต์มือสองมีการซื้อขายหมุนเวียนประมาณปีละ 3 ล้านคัน หากกรมสรรพากรเก็บภาษีจากการซื้อขายรถยนต์มือสองได้เพียงคันละ 1,000 บาท ก็จะมีเงินไหลเข้าสู่ระบบภาษีถึง 30,000 ล้านบาท และถึงแม้ผู้ประกอบการรถยนต์จะไม่ขัดข้อง แต่ก็ขอให้ชะลอการจัดเก็บภาษีออกไปก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี กรมสรรพากรจึงเตรียมเชิญผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสองรายใหญ่มาหารือแนวทางนำผู้ประกอบการเข้าระบบภาษีเพื่อระดมความเห็น นอกจากนี้ ทางกรมสรรพากรยังเร่งหารือกับกระทรวงการคลัง เนื่องจากการจัดเก็บภาษี VAT สินค้ามือสองต้องแก้ไขกฎหมายและนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก