Binance ศูนย์คริปโทเคอร์เรนซี ยกเลิกภาษาไทย เริ่ม 19 พฤศจิกายน พบก่อนหน้าเคยถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษ เหตุไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจในไทย
ภาพจาก dennizn / Shutterstock.com
จากกรณี Binance แพลตฟอร์มซื้อ-ขายคริปโทเคอร์เรนซี ส่งหนังสือถึงนักลงทุนในประเทศไทย เรื่องการยกเลิกซัพพอร์ตภาษาไทย โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 เวลา 13.00 น. ใจความว่า จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานกำกับดูแลในท้องถิ่นเพื่อจัดการกับข้อกังวลที่มีเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนี้ ยืนยันว่ากำลังร่วมมือกับสถาบันที่เหมาะสมทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก เพื่อพัฒนากรอบการกำกับดูแลที่คล่องตัวยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เป็นแค่การยกเลิกใช้ภาษาไทย ไม่ได้แต่ไม่ได้มีผลอะไรกับบัญชีหรือการให้บริการกับคนไทย ซึ่งยังคงใช้งานทุกอย่างได้ตามปกติ ขณะเดียวกัน Binance ยืนยันว่า ไม่ได้ดูแลบัญชีทางการ Telegram หรือช่องทางการสื่อสารออนไลน์อื่น ๆ ในประเทศไทย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เป็นแค่การยกเลิกใช้ภาษาไทย ไม่ได้แต่ไม่ได้มีผลอะไรกับบัญชีหรือการให้บริการกับคนไทย ซึ่งยังคงใช้งานทุกอย่างได้ตามปกติ ขณะเดียวกัน Binance ยืนยันว่า ไม่ได้ดูแลบัญชีทางการ Telegram หรือช่องทางการสื่อสารออนไลน์อื่น ๆ ในประเทศไทย
โดย ก.ล.ต. ได้ออกแถลงการณ์ อ้างอิงจาก เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2564 ฉบับที่ 70/2564 ใจความสำคัญว่า ก.ล.ต. เปิดเผย Binance ยังไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย พร้อมเตือนประชาชนและผู้ลงทุนควรระมัดระวังหากถูกชักชวนให้ใช้บริการ เนื่องจากจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
ภาพจาก กลต
การกระทำของ Binance ข้างต้นเข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับใบอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 26 ซึ่งเป็นความผิดและมีโทษตามมาตรา 66 แห่ง พ.ร.ก. ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปีถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาทถึง 500,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษ Binance ต่อ บก.ปอศ. เพื่อให้สอบสวนและดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ย้ำว่า ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ผู้ที่ให้บริการซื้อขาย แลกเปลี่ยน รับฝาก โอน ถอนเงิน หรือทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องเป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายดังกล่าว ผู้ที่ฝ่าฝืนอาจต้องรับโทษตามกฎหมาย