การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจหลายประเภท ทั้งด้านบวกและด้านลบ โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่าแม้จะมีสถานการณ์โควิด 19 แต่เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยในปีหน้ายังมีโอกาสขยายตัวได้ เพราะเริ่มมีการนำวัคซีน COVID-19 มาใช้ ขณะที่กำลังซื้อของประชาชนเพิ่มขึ้นตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการสวัสดิการของรัฐอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยังได้จัดอันดับ 10 ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19 มากที่สุด พร้อมประเมิน 10 ธุรกิจดาวรุ่ง และธุรกิจดาวร่วง ในปี 2564 โดยพิจารณาจาก 5 ปัจจัยคือ ยอดขาย ต้นทุน กำไรสุทธิ ผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงและภาวะแข่งขัน รวมทั้งความต้องการของผู้บริโภคและความสอดคล้องกับกระแสนิยม ซึ่งได้ผลลัพธ์ดังนี้
1. ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม และธุรกิจที่ทำการซื้อขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-คอมเมิร์ซ
ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ทำให้คนหันมาดูแลรักษาสุขภาพกันมากขึ้น
เช่นเดียวกับธุรกิจ E-Commerce ที่คนใช้บริการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้นในสถานการณ์ COVID-19 ผู้ประกอบการหลายประเภทจึงหันมาทำธุรกิจ E-Commerce ทดแทน
2. ธุรกิจแพลตฟอร์ม ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ ธุรกิจยูทูบเบอร์ และการรีวิวสินค้า
3. ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต
4. ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ ยา และขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์
5. ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีวิเคราะห์และจัดการข้อมูล
6. ธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่ม ธุรกิจอาหารเสริม และธุรกิจด้านสุขภาพ
จากสถานการณ์โควิด 19 ทำให้ความต้องการอาหารปรุงสำเร็จมีมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันสามารถสั่งอาหารผ่านอินเทอร์เน็ต หรือแอปพลิเคชันได้ พร้อมกับมีบริการส่งถึงที่
ขณะที่โควิด 19 ยังทำให้ผู้คนวิตกเรื่องสุขภาพ จึงหันมาใส่ใจดูแลตัวเองและป้องกันโรคด้วยการรับประทานวิตามิน เครื่องดื่มผสมวิตามิน อาหารเสริมต่าง ๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฟื้นฟูบำรุงร่างกายมากขึ้น
7. ธุรกิจ Street food
8. ธุรกิจ Delivery ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ ธุรกิจ Fintech และการชำระเงินฝากระบบเทคโนโลยี
ได้รับแรงสนับสนุนจากการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ ทำให้มีความต้องการใช้บริการขนส่งสินค้าเพิ่มสูงขึ้น พร้อมกับมีธุรกิจแพลตฟอร์มมากขึ้น ทั้งแพลตฟอร์มรับส่งเอกสาร เดินทาง สั่งอาหาร ส่งสินค้า เป็นต้น
ส่วนธุรกิจ Fintech และการชำระเงินฝากระบบเทคโนโลยี มาแรงจากพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่และสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ชำระเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องการความสะดวกสบาย
9. ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจตู้หยอดเหรียญ
ธุรกิจพลังงานติดอันดับธุรกิจเด่นของปี 2564 ด้วย เนื่องจากพลังงานเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นของประเทศ และความต้องการพลังงานยังคงมีต่อเนื่อง
ขณะที่ธุรกิจตู้หยอดเหรียญ เช่น ร้านสะดวกซัก เครื่องเติมเงิน เครื่องเติมน้ำ เป็นต้น เป็นธุรกิจของหนุ่มสาวยุคใหม่ที่อยากหารายได้เพิ่มจากงานประจำหรือธุรกิจเดิม เพราะไม่ต้องดูแลมาก สามารถทำกำไรให้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำเป็นต้องจ้างแรงงานเป็นจำนวนมากในการดำเนินธุรกิจ ถือเป็นธุรกิจที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบันที่ต้องการความสะดวก ประหยัดเวลา
10. ธุรกิจที่ปรึกษาด้านกฎหมาย และบัญชี ธุรกิจออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ แพ็กเกจจิ้ง
1. ธุรกิจเช่าหนังสือ
2. ธุรกิจผลิตโทรศัพท์พื้นฐาน และเครื่องโทรสาร ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ความจำ เช่น ผลิตซีดี วีซีดี ดีวีดี ฮาร์ดดิสก์ เมมโมรีการ์ด
3. ธุรกิจสิ่งพิมพ์และวารสาร
4. ธุรกิจร้านอินเทอร์เน็ต ธุรกิจคนกลาง
5. ธุรกิจดั้งเดิมไม่มีดีไซน์ และใช้แรงงานเยอะ (เช่น เฟอร์นิเจอร์ ของเล่น)
6. ธุรกิจผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ใช้แรงงานจำนวนมากและขายในประเทศ ธุรกิจหัตถกรรมและเฟอร์นิเจอร์ไม้ (ดั้งเดิมที่ไม่ได้มีการปรับตัว)
7. ธุรกิจซ่อมรองเท้า
8. ธุรกิจการค้าแบบดั้งเดิม ธุรกิจเครื่องปั้นดินเผาและเซรามิก
9. ธุรกิจผลิตผักและผลไม้อบแห้ง
10. ธุรกิจร้านถ่ายรูป
2. ธุรกิจนำเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ
3. โรงแรม
4. ธุรกิจของที่ระลึก
5. ธุรกิจจัดประชุมและแสดงสินค้า
6. ผับ บาร์ สถานที่ท่องเที่ยวกลางคืน
7. ธุรกิจสปา
8. อสังหาริมทรัพย์แนวดิ่ง
9. ธุรกิจโรงภาพยนตร์
10. ร้านอาหารและภัตตาคาร
ขอบคุณข้อมูลจาก
หอการค้าไทย