กลุ่มซีพีจัดหนัก ! เตรียมทุ่มเงินหลายแสนล้านบาท เนรมิตเมืองใหม่แปดริ้ว ด้วยคอนเซ็ปต์ "Smart City" ครบทั้งที่พักอาศัย โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย และศูนย์การค้า พร้อมสร้างถนน 3 ชั้น รถจะต้องไม่ติด
![ซีพี]( "ซีพี")
ภาพจาก TORU YAMANAKA/AFP
![ซีพี]( "ซีพี")
ขณะเดียวกันเว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจ ระบุว่า แหล่งข่าววงการอสังหาริมทรัพย์ภาคตะวันออก เปิดเผยว่า กลุ่มซีพีได้ร่วมทุนกับ "กวางสี" นักลงทุนจากประเทศจีน กว้านซื้อที่ดินใน 3 จังหวัดอีอีซี มากถึง 20,000 ไร่ โดยที่ดินที่กว้านซื้อส่วนใหญ่เป็นที่นาไม่อยู่ในตัวเมือง ราคาไร่ละ 1-3 ล้านบาท แต่หากมีการนำมาพัฒนาราคาน่าจะขยับเป็นไร่ละ 10-20 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าทำเลที่เหมาะทำเมืองใหม่ จะอยู่นอกเมืองแถว อ.บางคล้า แม่น้ำบางปะกง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก TORU YAMANAKA/AFP
วันที่ 27 สิงหาคม 2561 เว็บไซต์เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวถึงแผนการลงทุนครั้งใหญ่ของกลุ่มซีพี ด้วยงบประมาณหลายแสนล้านบาท เพื่อเตรียมสร้างโครงการเมืองใหม่แปดริ้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา บนพื้นที่ 10,000 ไร่ โดยวางผังเมืองให้เป็น "Smart City" มีระบบสาธารณูปโภคครบถ้วน พร้อมบริการอื่น ๆ ทั้งที่พักอาศัย, โรงพยาบาล, มหาวิทยาลัย และศูนย์การค้า
โดยสาเหตุที่เลือกฉะเชิงเทราเป็นที่แรก ก็เพื่อเป็นโครงการทดลองเชื่อมกับเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ พร้อมทั้งจะมีการสร้างรถไฟฟ้าระบบรางเชื่อมต่อเข้ามายังสถานีมักกะสัน ให้เดินทางเข้ามาถึงกรุงเทพฯ ภายใน 20 นาที ซึ่งรถไฟจะออกทุก 1 หรือ 2 นาที ทั้งนี้ ในเมืองใหม่จะใช้ระบบ "zero waste" หรือรีไซเคิลขยะให้เป็นศูนย์ เช่น นำขยะมารีไซเคิล ใช้ผลิตไฟฟ้า และนำไปแปรรูป
นอกจากนี้ ถนนในเมืองจะทำเป็น 3 ชั้น ชั้นบนเป็นสวนสาธารณะ ชั้นกลางเป็นถนนและทางรถไฟ และชั้นล่างสุดเป็นส่วนของการบริการ เช่น ขยะ ท่อน้ำเสีย ระบบไฟฟ้า-ประปา เป็นต้น โดยใจกลางเมืองจะมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่รวมทุกอย่างเอาไว้ที่เดียวเลย ที่สำคัญคือรถจะต้องไม่ติด คนสามารถเดินไปทำงานได้ และมีจำนวนประชากรไม่ต่ำกว่า 300,000 คน เพื่อให้ธุรกิจต่าง ๆ คุ้มทุน เมืองยิ่งใหญ่ก็จะยิ่งดี เพราะคุ้มค่าในการลงทุนสาธารณูปโภค โดยขณะนี้อยู่ระหว่างให้สถาปนิกและที่ปรึกษาจากสหรัฐฯ และอังกฤษออกแบบและวางแผนอยู่
สำหรับเมืองใหม่ในเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ควรจะมี 3 แห่ง คือ แปดริ้ว พัทยา และระยอง (ตามลำดับ) และควรจะมีเมืองใหม่เช่นนี้ประมาณ 20 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับประชากรให้ได้ 6 ล้านคน แต่ซีพีจะไม่ลงทุนคนเดียว จะชวนนักธุรกิจไทยและต่างประเทศมาร่วมลงทุนด้วย และหากภาครัฐเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี จะนำไปเป็นโมเดลเพื่อทำที่อื่น ๆ เพิ่มเติมก็ได้
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ทั้งนี้ ยังมีความเป็นไปได้สูงที่กลุ่มซีพีจะคว้าสัมปทานรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 200,000 ล้านบาท ซึ่งจะได้สิทธิพัฒนาพื้นที่มักกะสันอีกด้วย โดยในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มซีพีได้ดึงตัววิศวกรจากบริษัทยักษ์ใหญ่กว่า 10 คน เข้ามาทำงานกับซีพี โดยแต่ละคนได้รับเงินเดือนหลักล้านบาท รวมถึงยังดึงวิศวกรจากประเทศจีนและสถาปนิกชื่อดังจากฝรั่งเศส เพื่อเข้ามาออกแบบเมืองใหม่ที่มักกะสันและฉะเชิงเทรา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
