ชี้เป้า 12 แฟรนไชส์ผู้มีรายได้น้อย ราคาประหยัด มีงบต่ำกว่า 20,000 บาท ก็ลงทุนเปิดร้านเป็นของตัวเองได้สบาย ๆ
เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกันแล้วกับ "แฟรนไชส์สร้างอาชีพเพื่อผู้มีรายได้น้อย" ที่เน้นปั้นอาชีพผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนกันโดยเฉพาะ โดยกระทรวงพาณิชย์ก็ได้นำแฟรนไชส์ราคาถูกกว่า 60 แห่ง มาเข้าโครงการให้ผู้มีรายได้น้อยเลือกลงทุนกัน ซึ่งก็มีหลายธุรกิจเลยที่น่าสนใจไม่น้อย วันนี้กระปุกดอทคอม จึงได้คัดแฟรนไชส์ผู้มีรายได้น้อย น่าลงทุน ที่ใช้งบต่ำกว่า 20,000 บาทจากร้านที่เข้าร่วมโครงการกับกระทรวงพาณิชย์ มาแนะนำกัน สำหรับคนที่มีทุนไม่มาก แต่อยากสร้างอาชีพ สร้างรายได้
1. ลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า
งบลงทุนเริ่มต้นตั้งแต่ 4,500-19,000 บาท
ลูกชิ้นทอดเป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนไม่สูงมากอยู่แล้ว แถมยังเป็นของกินเล่นที่ขายง่าย เจาะกลุ่มลูกค้าได้หลากลาย จึงเป็นแฟรนไชส์ที่เหมาะกับคนที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจ โดยแฟรนไชส์ "ลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า" น่าสนใจตรงที่มีอุปกรณ์ให้ครบครัน เคลื่อนย้ายได้สะดวก จึงเหมาะกับการขายในตลาดนัด งานเทศกาลต่าง ๆ หรือใครจะตั้งขายหน้าร้านของตัวเองก็ได้เช่นกัน ซึ่งเจ้าของแฟรนไชส์เคลมด้วยตัวเองเลยว่าคืนทุนภายใน 30 วันแน่นอน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Ramball.net
2. ไจแอ้นลูกชิ้นปลาระเบิดเถิดเทิง
งบลงทุนเริ่มต้นอยู่ที่ 2,900 บาท
เป็นแฟรนไชส์ลูกชิ้นปลา ที่มีแพ็กเกจให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่ราคาหลักพัน ไปจนถึงชุดใหญ่จัดเต็มหลักแสน เรียกได้ว่ามีหมดไม่ว่าจะขายในตลาดนัด ปั๊มน้ำมัน มอเตอร์ไซค์พ่วง หรือห้างสรรพสินค้า ใครอยากลงทุนแบบต้นทุนต่ำ กำไรงาม ขายง่ายแน่นอน ก็ลองเอา "ไจแอ้นลูกชิ้นปลาระเบิดเถิดเทิง" ไปพิจารณากันดูได้ เพราะเจ้าของแฟรนไชส์เขาการันตีกำไรมากกว่า 100% เลยทีเดียว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Giantfishbomb.com
3. อู้ฟู่ ลูกชิ้นปลา 2 หม้อ
งบลงทุนเริ่มต้น 2,900 บาท
แฟรนไชส์ลูกชิ้นปลาแนวใหม่ ที่มี 2 หม้อในเคาน์เตอร์เดียว รวมระหว่างลูกชิ้นปลาทอดกับลูกชิ้นปลานึ่งมาไว้ด้วยกัน ทำให้จับกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายขึ้น และมีข้อดีตรงที่ไม่มีค่าแฟรนไชส์รายเดือน รายปีใด ๆ ทั้งสิ้น โดยมีการคิดกำไรให้เห็นกันชัด ๆ หากขายได้วันละ 10 กิโลกรัม จะมีกำไรอยู่ที่ 18,000 บาท/เดือน แต่หากขายได้มากกว่านั้น เป็นวันละ 20 กิโลกรัม จะมีกำไรเน้น ๆ สูงถึง 36,000 บาท/เดือน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/ufofishball
ภาพจาก เฟสบุ๊ก ราชาลูกชิ้นหมูระเบิด
งบลงทุนเริ่มต้น 2,900 บาท
ใครอยากขายลูกชิ้นหมู ที่ขายได้แบบ 2in1 จะทอดหรือปิ้ง ก็ทำได้บนเคาน์เตอร์เดียว ต้องนี่เลย "ราชาลูกชิ้นหมูระเบิด" คือลงทุนครั้งเดียว เหมือนมีรายได้ 2 ต่อ ซึ่งมีเงินแค่ 2,900 บาท ก็เริ่มลงทุนได้แล้ว เพราะทางร้านมีแพ็กเกจที่เป็นแบบทดลองขาย ให้กับคนที่ไม่อยากเสี่ยงมากนัก ได้มาลองขายกันก่อน จึงเหมาะสุด ๆ กับใครที่อยากเริ่มทำธุรกิจเป็นของตัวเอง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Rajaporkball.com
5. Box bog หมาล่า
งบลงทุนเริ่มต้น 9,900 บาท
ร้านปิ้งย่างแนวใหม่ที่กำลังมาแรงเลยในตอนนี้ คงหนีไม่พ้น "หมาล่า" ที่เป็นการปิ้งย่างสไตล์จีน รสชาติเผ็ดร้อน ถูกปากคนไทยเป็นที่สุด สำหรับใครที่อยากจับกระแสความฮิตของหมาล่า เราก็มีแฟรนไชส์ราคาไม่แพงมาแนะนำ อย่าง "Box bog หมาล่า" ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นประมาณ 9,000 บาท พร้อมการันตีคืนทุนเร็วภายใน 1 เดือน นอกจากนี้ ทางร้านยังมีการทำตลาด สำรวจพื้นที่ให้ฟรี โดยไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีอีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/malahboxbog
6. ลูกชิ้นทิพย์
งบลงทุนประมาณ 1,990-29,900
เป็นแฟรนไชส์ลูกชิ้นเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 12 ปี ทำให้มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ จึงไม่ต้องกลัวว่าถ้าเราเปิดร้านใหม่ขึ้นมา ลูกค้าจะไม่รู้จัก ขายไม่ได้ เพราะแบรนด์ติดตลาดไปแล้ว ที่สำคัญคือลูกชิ้นทิพย์ มีชุดแฟรนไชส์เริ่มต้นในราคาแค่ 1,990 บาท เอาไว้ให้คนที่อยากลองทำธุรกิจ หรือใครที่เคยขายอาหารมาก่อน มีอุปกรณ์ เคาน์เตอร์หน้าร้านเดิมอยู่แล้ว ก็สามารถซื้อชุดแฟรนไชส์นี้มาขายได้เลย โดยไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์เครื่องมือใหม่
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Lookchinthip.com
7. แฮปปี้ไอติมทอด
งบลงทุนประมาณ 2,999-17,500 บาท
อากาศร้อน ๆ แบบนี้ ไอศกรีมน่าจะเป็นเมนูที่ขายดิบขายดีได้ไม่ยาก แต่ถ้าจะขายไอศกรีมแบบธรรมดาทั่วไป ก็ดูจะซ้ำคนอื่นไปหน่อย งั้นลองดูแฟรนไชส์ของ "แฮปปี้ไอติมทอด" ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะทางร้านจะมีไอศกรีมทอดแบบสำเร็จรูป มาให้เราทอดขายได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลาทำเองให้ยุ่งยาก แถมค่าแฟรนไชส์ก็ถือว่าถูกเลยล่ะ มีงบอยู่ 2 หมื่นบาท สามารถลงทุนได้สบาย ๆ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/happyfriedice
8. ซูโม่ลูกชิ้นปลาระเบิด
งบลงทุนประมาณ 1,990-19,990 บาท
หลายคนน่าจะคุ้นหูกันดีกับร้านซูโม่ลูกชิ้นปลาระเบิด ที่พบเห็นได้มากมายตามตลาดนัดต่าง ๆ และบอกเลยว่าใครคิดอยากจะลงทุนธุรกิจนี้ เพียงมีเงิน 1,990 บาทก็สามารถเริ่มต้นได้แล้ว เรียกได้ว่าถูกมาก ๆ หรือใครอยากจะอัปเกรดเป็นร้านที่ใหญ่ขึ้น ทางแฟรนไชส์ก็มีแพ็กเกจให้เลือกมากมาย ทั้งเคาน์เตอร์ รถเข็น และมอเตอร์ไซค์พ่วง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Sumofishball.com
9. แม็กไซเคิล ตู้เติมลมรถ
งบลงทุนประมาณ 9,000
ตอนนี้ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็เห็นตู้หยอดเหรียญเต็มไปหมด ทั้งตู้เติมเงินโทรศัพท์ ตู้กดน้ำ ตู้เติมน้ำมัน แต่วันนี้เรามีตู้หยอดเหรียญแนวใหม่ที่กำลังมาแรง อย่างตู้เติมลมรถของแม็กไซเคิลมาแนะนำ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์คนใช้รถใช้ถนนได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ ใครที่กำลังมองหาธุรกิจใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้ำใครอยู่ “แม็กไซเคิล ตู้เติมลมรถ” ก็น่าสนใจเหมือนกันนะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ max-cycle.thailandpages.com
10. รักบิวตี้ Beauty Center Online
งบลงทุนประมาณ 9,900 บาท
ใครกำลังมองหาแฟรนไชส์ขายเครื่องสำอางที่ใช้เงินลงทุนไม่สูงอยู่ แฟรนไชส์รักบิวตี้ ร้านเครื่องสำอางออนไลน์ ก็เป็นตัวเลือกที่สนใจ ด้วยเป็นร้านที่รวมเอาเครื่องสำอางของหลาย ๆ แบรนด์มารวมกันเป็นจำนวนมาก มีหมดทั้งเครื่องสำอาง ครีมบำรุง, อาหารเสริม, คอนแทคเลนส์ และสินค้าเกี่ยวกับความงามทุกชนิด เหมาะเลยกับที่อยากเปิดร้านขายของเป็นรายได้หลัก หรือใครจะทำเป็นรายได้เสริมก็ได้เช่นกัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ bcocenter.com
11. น้ำผึ้งมะนาว ผึ้งยิ้ม
งบลงทุนประมาณ 10,000-20,000
เครื่องดื่มเป็นอีกธุรกิจที่สามารถสร้างกำไรได้มากกว่าเท่าตัว ซึ่งปัจจุบันแฟรนไชส์เครื่องดื่มนั้น มีให้เลือกมากมายหลายเมนู แต่ใครที่ยังเลือกไม่ถูก ตัดสินใจไม่ได้ เรามีแฟรนไชส์น้ำผึ้งมะนาว "ผึ้งยิ้ม" มาแนะนำ เพราะเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมายาวนาน แถมยังเหมาะกับการขายในหน้าร้อนแบบนี้สุด ๆ ได้ทั้งความสดชื่น แถมยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/PhungYim
12. สเต็กขั้นเทพ
งบลงทุนประมาณ 10,000
เป็นแฟรนไชส์ที่เหมาะเลยสำหรับใครที่อยากทำธุรกิจอาหาร แต่ไม่มั่นใจในฝีมือตัวเอง เพราะแฟรนไชส์สเต็กขั้นเทพ มีสูตรมาให้เราเสร็จสรรพ หมักเนื้อให้พร้อม เหลือเพียงให้เรานำไปทอดในกระทะ ก็ยกไปเสิร์ฟได้เลย ส่วนเงินทุนเริ่มต้นก็ไม่สูงมาก แค่ประมาณหมื่นต้น ๆ เท่านั้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/steakkanthep
ต้องบอกว่าแฟรนไชส์ที่เราแนะนำทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของโครงการสร้างอาชีพผู้มีรายได้น้อยเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายแฟรนไชส์เลยที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยสามารถเข้าไปดูรายชื่อแฟรนไชส์ที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมได้ที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
