ครม. อนุมัติเงินกู้ 3,404 ล้าน สร้างถนนภาคอีสาน

ครม. มีมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลัง ดำเนินการกู้เงินจากธนาคารพัฒนาเอเชีย วงเงินรวม 3,404 ล้านบาท ลงทุนก่อสร้างถนนสายหลักในภาคอีสาน

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างสัญญาเงินกู้ของกระทรวงการคลัง จำนวน 99.40 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,404 ล้านบาท จากธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางสายหลัก 4 ช่องทางจราจร ระยะที่ 2 ทางหลวงหมายเลข 22 ช่วงอำเภอหนองหาน-อำเภอพังโคน ทางหลวงหมายเลข 22 ช่วงสกลนคร-นครพนม และทางหลวงหมายเลข 23 ช่วงร้อยเอ็ด-ยโสธร ระยะทาง 124.9 กิโลเมตร วงเงินลงทุนรวม 6,808 ล้านบาท ซึ่งเงินลงทุนจะมาจากเงินงบประมาณ 50% และเงินกู้อีก 50%

          ทั้งนี้ กระทรวงการคลังคาดว่าจะมีการลงนามสัญญาเงินกู้กับ ABD ประมาณช่วงเดือนพฤษภาคม 2561 โดยจะเสนอขอกู้เงินจำนวน 3,404 ล้านบาทเพียงครั้งเดียว เพื่อความสะดวกในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งได้บรรจุแผนกู้เงินดังกล่าวไว้ในแผนการบริการหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 2561 แล้ว ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

          - กรอบวงเงินกู้ 99.40 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3,404 ล้านบาท

          - อายุเงินกู้ 13 ปี รวมระยะเวลาปลอดหนี้ (Grace Period) 3 ปี

          - อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6 MLIBOR + Spread – Rebate ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 6 MLIBOR เท่ากับ 1.63% ต่อปี Spread เท่ากับ 0.50% ต่อปี และ Rebate เท่ากับ 0.05% ต่อปี)

          - ค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้ (Commitment Charge) 0.15% ต่อปี

          - กำหนดเบิกจ่ายเงินกู้ในคราวเดียวทั้งจำนวน โดยจะดำเนินการแลกเปลี่ยนเงินกู้จากสกุลเงินเหรียญสหรัฐเป็นเงินบาท และดำเนินการบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย

สำหรับแผนดำเนินโครงการก่อสร้างทางสายหลัก 4 ช่องทางจราจร ระยะที่ 2 มีกำหนดเริ่มก่อสร้างในเดือนกรกฎาคม 2561 ระยะเวลาก่อสร้าง 4.5 ปี ซึ่งหากดำเนินการเสร็จ จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงอาเซียน (AH) ในส่วนที่ผ่านประเทศไทย เพื่อให้สามารถเดินทางขนส่งสินค้าเชื่อมโยงไปยังลาวและเวียดนามได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ครม. ไฟเขียว ! คลังกู้เงิน 3,404 ล้านบาท สร้างถนนสายหลักภาคอีสาน