จีนสั่งเลิกใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ ห้ามหยุดซื้อ-ขายชั่วคราว หลังหุ้นดิ่งหนัก

            จีนระงับการใช้มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์แล้ว ไม่ให้ปิดตลาดหุ้นชั่วคราว หลังก่อนหน้านี้หุ้นจีนร่วงหนักจนต้องปิดตลาด 2 ครั้งภายใน 4 วัน พร้อมสั่งห้ามผู้ถือหุ้นรายใหญ่ขายหุ้นเกิน 1% ในรอบ 3 เดือน

            สืบเนื่องจากตลาดหุ้นจีน ทั้งดัชนี CSI300, ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิต, และดัชนีเสิ่นเจิ้น คอมโพสิต ร่วงลงหนักเกิน 7% ตั้งแต่เปิดตลาดปี 2559 จนต้องนำมาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์ (Circuit Breaker) ออกมาระงับการซื้อ-ขายหุ้นชั่วคราว ไปเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 4 มกราคม และอีกครั้งในช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคม โดยเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงไปตาม ๆ กันนั้น

            ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 7 มกราคม 2559 (ตามเวลาท้องถิ่น) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของประเทศจีน ได้ประกาศระงับการใช้มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์แล้ว โดยมีผลทันทีในวันศุกร์ที่ 8 มกราคมนี้ เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด พร้อมออกกฎเกณฑ์ ห้ามผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่มีหุ้นในบริษัทใดบริษัทหนึ่งตั้งแต่ 5% ขึ้นไป ขายหุ้นของบริษัทนั้นเกิน 1% ในรอบ 3 เดือน และหากผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะลดการถือครองหุ้นในมือ จะต้องแจ้งตลาดหลักทรัพย์ล่วงหน้าก่อน 15 วันทำการ 

            ทั้งนี้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2558 ตลาดหลักทรัพย์จีนเคยออกกฎห้ามผู้ถือหุ้นรายใหญ่ขายหุ้นทิ้งเป็นเวลา 6 เดือน หลังตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันนี้ และหลังจากนี้จะใช้กฎห้ามผู้ถือหุ้นรายใหญ่ขายหุ้นเกิน 1% ในรอบ 3 เดือนต่อไป

            สำหรับตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดในเช้าวันนี้อยู่ในแดนบวก ขณะที่ตลาดหุ้นไทย หลังจากเมื่อวานนี้ (7 มกราคม) ปิดตลาดลดลง 35.21 จุด หรือ 2.79% ดัชนีแตะ 1,224.83 จุด มาช่วงเช้าวันนี้เปิดบวกมาอยู่ที่ 1,231.88 สอดคล้องกับตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นทั่วเอเชีย