อุตตม สาวนายน เผย ที่ประชุม ครม. เห็นชอบ โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล วงเงิน 3,755 ล้านบาท วาง 8 แผนงานขับเคลื่อน เตรียมออกกฎหมายรองรับ คาดแล้วเสร็จไตรมาสที่ 2 ปี 2559
วันนี้ (24 ธันวาคม 2558) นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2558 ได้มีมติเห็นชอบแผนงานและรายละเอียดโครงการภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล (Digital Thailand) ของกระทรวงไอซีที วงเงินประมาณ 3,755 ล้านบาท ทั้งนี้ แผนงานขับเคลื่อนฯ ประกอบด้วย
แผนงานที่ 1 การพัฒนาเครือข่ายศูนย์ดิจิทัลชุมชน ได้แก่ โครงการศูนย์ดิจิทัลชุมชน เป็นการปรับรูปแบบศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน โดยนำร่องดำเนินการจำนวน 600 แห่ง จาก 2,280 แห่งทั่วประเทศ และร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) โดยใช้ศูนย์ กศน. จำนวน 1,631 แห่ง เป็นศูนย์ให้บริการด้านดิจิทัลและข้อมูลข่าวสารเชิงเศรษฐกิจและสังคมแก่ชุมชน รวมทั้งสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างชุมชนและใช้ในการบริหารประเทศ
แผนงานที่ 2 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์และโครงข่าย ได้แก่ โครงการบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะสู่ชุมชน โดยร่วมกับ กศน. และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) นำอินเทอร์เน็ตสาธารณะสู่ชุมชน จำนวน 10,000 แห่งทั่วประเทศ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายเพื่อประโยชน์สาธารณะ (Free Wi-Fi) และโครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสาธารณะ (Smart City จังหวัดภูเก็ต)
แผนงานที่ 3 การสร้างสังคมคุณภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ได้แก่ โครงการพัฒนามหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทยเพื่อการจัดการเรียนการสอนในระบบเปิด (Thai-MOOC) โครงการพัฒนาคลังสื่อและสื่อดิจิทัลด้านอาชีพและวิชาชีพเพื่อยกระดับมาตรฐานวิชาชีพสู่สากลและการเรียนรู้ตลอดชีวิตรองรับเศรษฐกิจดิจิทัลและประชาคมอาเซียน โครงการคลังความรู้ดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต โครงการไอซีทีเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับชุมชนชายขอบ และโครงการส่งเสริมการใช้ดิจิทัลอย่างสร้างสรรค์และรับผิดชอบต่อสังคม
แผนงานที่ 4 การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในธุรกิจ SMEs เช่น โครงการพัฒนาผู้ประกอบการ SMEsในภาคอุตสาหกรรมให้เรียนรู้และสามารถทำธุรกรรม B2B สร้างโอกาสใหม่ ๆ ในการทำตลาดผ่านช่องทาง e-Business รวมทั้งจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมการค้าผ่านสื่อดิจิทัลเพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และแนะแนวทางสำหรับผู้ประกอบการ โครงการศึกษาแนวทางการเชื่อมโยงข้อมูลสินค้าและกระบวนการตรวจสอบย้อนกลับสินค้า โครงการ SMEs GO Online ซื้อขายมั่นใจ
แผนงานที่ 5 การพัฒนาบริการดิจิทัลในภาครัฐ ได้แก่ โครงการยกระดับคุณภาพงานบริการภาครัฐเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ซึ่งแบ่งการดำเนินงานเป็น 2 มิติ คือ การปรับกระบวนการดำเนินการภาครัฐ และการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการใช้บริการภาครัฐ
แผนงานที่ 6 การพัฒนาทุนมนุษย์สำหรับโลกยุคดิจิทัล ได้แก่ โครงการพัฒนากำลังคนด้านดิจิทัลเพื่อสร้างธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัล (Tech Startup) โครงการประเมินความพร้อมของหน่วยงานและพัฒนาบุคลากร
แผนงานที่ 7 การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ได้แก่ โครงการพัฒนา Smart City จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นการนำร่องเพื่อเป็นแนวทางสำหรับการดำเนินการในจังหวัดอื่นต่อไป โดยมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยการออกแบบร่วมกับคนในท้องถิ่น สามารถอยู่ได้ด้วยงบประมาณของจังหวัดเองด้วย Business Model ที่ดี
แผนงานที่ 8 การสนับสนุนการบริหารจัดการโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล เช่น การเตรียมความพร้อมในการปรับเปลี่ยนเป็นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล รวมทั้งสนับสนุนการขับเคลื่อนตามนโยบายเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล เป็นต้น
ขณะที่การดำเนินงานที่ผ่านมาในปี 2558 ในส่วนของงานภาครัฐ กระทรวงไอซีทีได้ปรับเปลี่ยนการทำงานและบริการภาครัฐ สู่ดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานด้าน ICT ภาครัฐเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกัน ลดความซ้ำซ้อน ประหยัดงบประมาณ โดยเฉพาะการพัฒนาช่องทางการเข้าถึงข้อมูลและบริการภาครัฐเพื่อประชาชนผ่าน GovChannel 3 ช่องทาง คือ
1) ผ่านเว็บไซต์ egov.go.th ให้บริการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์, data.go.th เผยแพร่ข้อมูลเปิดภาครัฐ และ info.go.th บริการคู่มือประชาชน
2) ผ่านอุปกรณ์สื่อสารด้วยโมบายแอพพลิเคชั่น GAC และ
3) ผ่านอุปกรณ์อื่น ๆ ได้แก่ Government Kiosk ให้บริการแบบ Self-Service นำร่องที่โรงพยาบาลราชวิถี ศูนย์ G-Point ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์และเซ็นทรัลศาลายา รวมถึง Government Smart Box ช่องทางเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในท้องถิ่น นำร่องที่ กศน. ตำบล จังหวัดเชียงราย และพะเยา
ด้านการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงไอซีที 3 หน่วยงาน ได้แก่ บมจ.ทีโอที (TOT) บมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT) และ บจ.ไปรษณีย์ไทย ได้ดำเนินการตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) โดยทำความเข้าใจกับ TOT และ CAT ด้านบริหารจัดการคลื่นความถี่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ ซึ่งทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันและได้คืนคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ของ CAT และย่าน 900 MHz ของ TOT ให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นำไปประมูล ซึ่งการประมูลคลื่น 4G จะทำให้ประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้สะดวกยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการนำรายได้เข้ารัฐ
นอกจากนี้ ในปี 2558 กระทรวงไอซีทีได้ยกร่างกฎหมายเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มกฎหมายส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล
2. กลุ่มกฎหมายที่สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล
3. กลุ่มกฎหมายด้านความมั่นคง
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ได้มีการดำเนินการจัดทำร่างกฎหมายเพื่อรองรับเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คาดว่าส่วนหนึ่งจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปี 2559
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก