10 สิ่งที่ควรทำก่อนอายุ 40 ไม่อยากถังแตกตอนแก่ ต้องรีบจัดการซะ !

          สิ่งที่ควรทำก่อนอายุ 40 เพื่อความมั่นคงทางการเงินในอนาคต เตรียมให้พร้อมได้ด้วยตัวคุณเอง           ยิ่งอายุมากขึ้น ความรับผิดชอบก็ยิ่งมากขึ้น โดยเฉพาะยิ่งเมื่ออายุย่างเข้าเลข 4 คุณก็จะพบว่านอกจากเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ต้องรับผิดชอบแล้ว ก็ยังมีเรื่องของอนาคตในวัยหลังเกษียณที่ต้องให้ขบคิดอีก ฉะนั้นได้เวลาเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่วัยกลางคนอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วย 10 สิ่งที่ควรทำก่อนอายุ 40 รีบทำเสียตั้งแต่ตอนนี้ก่อนที่จะสายเกินไป


1. มีเงินเก็บสำหรับกรณีฉุกเฉิน

2. เขียนพินัยกรรม

          แม้ว่าเพิ่งจะเริ่มก้าวย่างเข้าสู่วัย 40 แต่ก็ไม่ควรประมาท การเขียนพินัยกรรมเป็นสิ่งที่จะช่วยให้คนที่อยู่เบื้องหลังไม่ว่าจะเป็นบุพการี หรือครอบครัว ไม่ประสบปัญหาวุ่นวายทางด้านการเงินและช่วยลดข้อถกเถียงทางกฎหมายบางอย่างลงได้ อาทิ การชดใช้หนี้สิน หรือการแบ่งทรัพย์สินต่าง ๆ ในกรณีที่คุณด่วนจากไปก่อนวัยอันควร


3. เริ่มต้นลงทุน

          คนเราไม่สามารถทำงานหาเงินไปได้ตลอดชีวิต ดังนั้นเราจึงควรจะเรียนรู้และเริ่มต้นการใช้เงินทำงานกันตั้งแต่ก่อนที่เราจะไม่สามารถทำงานไหว ในช่วงก่อนอายุ 40 นี่ล่ะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพราะในช่วงนี้คุณยังสามารถทำงานหาเงินได้ และยังมีไฟพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่อย่างเต็มเปี่ยม โดยอาจจะเริ่มจากการลงทุนในกองทุนเล็ก ๆ ที่ความเสี่ยงต่ำก่อนก็ได้ และค่อยศึกษาต่อไปเพื่อหาการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวคุณ

4. เคลียร์หนี้สิน

          ถ้าไม่อยากจะต้องจ่ายหนี้ไปตลอดจนแก่ละก็ เริ่มต้นเคลียร์หนี้สินกันตั้งแต่ตอนนี้เลยจะดีกว่า อย่างน้อยก็ควรจะให้หนี้สินเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างหนี้บัตรเครดิต หรือเงินกู้ที่คุณกู้มาเพื่อจุดประสงค์เล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นหมดไปเสียก่อน เพราะหนี้สินเหล่านี้มีดอกเบี้ยสูง หากคุณสามารถเคลียร์ได้หมดก่อนอายุ 40 ก็จะช่วยทำให้คุณมีเงินเหลือเก็บไว้ใช้หลังเกษียณมากขึ้น

 
5. ทำประกันสุขภาพ

          สำหรับใครที่หลีกเลี่ยงการทำประกันมาตลอด พอใกล้ถึงช่วงอายุ 40 คุณจะพบว่าสิ่งเหล่านี้มีความสำคัญมากกว่าที่คุณเคยคิด เพราะยิ่งเวลาผ่านไปเราก็ยิ่งแก่ตัวลง ค่าใช้จ่ายที่หมดไปกับการดูแลสุขภาพก็มีมากขึ้น การที่มีประกันสุขภาพติดไว้บ้างจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก อีกทั้งประกันสุขภาพบางชนิดก็ยังมีเงินชดเชยให้ด้วยในกรณีที่ไม่สามารถทำงานได้เป็นการป้องกันความเสี่ยงที่จะสูญเสียรายได้ในช่วงที่เจ็บป่วยได้ดี

6. วางแผนชีวิตหลังเกษียณ

          เมื่อคุณอายุใกล้เข้าสู่เลข 4 นั่นก็แปลว่าคุณเหลือเวลาไม่เกิน 20 ปีในการเตรียมพร้อมสำหรับชีวิตในวัยเกษียณ ถึงบางคนอาจจะมีลูกและหวังว่าจะให้ลูกหลานดูแลเมื่อยามแก่ชรา แต่คุณก็ควรจะวางแผนชีวิตเผื่อไว้เช่นกัน เพราะเมื่อคุณเลิกทำงานแล้วคุณก็อาจจะอยากไปท่องเที่ยว หรือใช้ชีวิตในบั้นปลายตามอย่างที่ตนเองต้องการ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดในการวางแผนหลังเกษียณนี้ก็คือการออมเงิน หากไม่เริ่มตั้งแต่ตอนนี้จะทำให้คุณลำบากได้ในอนาคต


7. วางแผนเรื่องภาษี

          ภาษีเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นการเริ่มต้นวางแผนการเสียภาษีตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในเรื่องการเสียภาษีลงได้ คุณควรศึกษาเรื่องเกี่ยวกับภาษีไม่ว่าจะเป็นฐานภาษีที่ต้องเสีย รายการลดหย่อนต่าง ๆ จะเป็นผลดีกับคุณในอนาคตอย่างแน่นอน และเมื่อคุณเสียภาษีน้อยลงแล้ว คุณก็จะสามารถมีเงินเก็บได้มากขึ้นนั่นเอง


8. ซื้ออสังหาริมทรัพย์

          ในกรณีที่คุณมีความพร้อมทางด้านการเงิน การซื้ออสังหาริมทรัพย์ อย่างเช่น บ้าน หรือที่ดิน ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะเมื่อเราแก่ตัวลงแล้ว การมีที่พักอาศัยเป็นของตัวเองก็ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว นอกจากนี้การซื้อที่ดินเปล่าเก็บไว้เพื่อเก็งกำไรก็เป็นวิธีลงทุนอย่างหนึ่งด้วย แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าหากคุณคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมก็อย่าทำโดยเด็ดขาดไม่อย่างนั้นสิ่งที่ตามมาอาจจะเป็นหนี้สินระยะยาวที่ทำให้คุณปวดหัวได้


9. ออมเงินสำหรับอนาคตของลูกหลาน

          สำหรับคนที่มีครอบครัวแล้ว การวางแผนอนาคตให้กับลูกหลานถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นการออมเงินเพื่อบุตรหลานควรเริ่มต้นตั้งแต่เนิ่น ๆ แม้ว่าคุณอาจจะยังไม่มีลูกแต่ถ้าหากเตรียมพร้อมไว้ก่อนก็ย่อมจะดีกว่า แถมยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะพบกับปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายของบุตรหลานไปได้

10. มองหาที่ปรึกษาทางด้านการเงิน

          หากคุณไม่เชี่ยวชาญในเรื่องการวางแผนทางการเงินของตัวเอง ลองหาตัวช่วยที่ไว้ใจได้ อย่างเช่น ผู้ให้คำปรึกษาทางด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเก็บออมหลังเกษียณ หรือการลงทุน หากมีผู้ที่มีความรู้โดยตรงให้คำปรึกษา ความเสี่ยงก็ย่อมจะน้อยกว่าการที่เราวางแผนเองตามลำพังโดยขาดความรู้ที่ถูกต้อง

          สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ควรเริ่มต้นทำตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่จำเป็นต้องรอให้ใกล้อายุ 40 ก็ทำได้ ยิ่งเราเริ่มต้นเร็ว ชีวิตหลังเกษียณของเราก็ยิ่งจะมีความมั่นคงมากขึ้น จะได้ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับปัญหาทางการเงินเมื่อแก่ตัวลง


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
blenkhorn.com.au 
bankrate.com
usnews.com