กทม. เร่งตรวจสอบคอนโด 50 เขต ที่มีการปล่อยเช่าแบบรายวัน ชี้เป็นการใช้งานผิดประเภท มีโทษตามกฎหมาย ทั้งจำทั้งปรับ
ในช่วงที่ผ่านมานั้นการนำคอนโดมิเนียมมาปล่อยให้เช่าแบบรายวัน กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ผุดขึ้นจำนวนมากจนเกินความต้องการเช่า ดังนั้นผู้เป็นเจ้าของห้องจึงปรับตัวโดยการเจาะลูกค้าที่มีการเช่าค้างคืน และถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ จากเมื่อก่อนที่คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่จะมีการปล่อยเช่าเป็นรายเดือนเพื่ออยู่อาศัยระยะยาว อย่างไรก็ตามในเรื่องของการปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมแบบรายวันนั้นกำลังเป็นปัญหาใหม่ที่เกิดขึ้น เพราะประเทศไทยยังไม่เคยมีกฎหมายควบคุมโดยตรงมาก่อน
โดยวันที่ 15 กันยายน 2558 เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ รายงานว่า นายวิวัธน์ ศรีเจริญวงศ์ นายกสมาคมบริหารสินทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การนำห้องชุดมาเปิดให้เช่ารายวันถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2478 เพราะไม่ได้จดทะเบียนเป็นโรงแรม ทำให้ไม่ได้รับการคุ้มครองตามข้อบังคับของโรงแรม เช่น กรณีทรัพย์สินผู้เข้าพักสูญหายในพื้นที่ส่วนกลาง จะไม่มีผู้รับผิดตามกฎหมาย
สำหรับนิติบุคคล ตาม พ.ร.บ.อาคารชุด พ.ศ. 2522 นั้น ดูแลได้เพียงส่วนกลาง ไม่สามารถยุ่งเกี่ยวได้หากเจ้าของห้องนำห้องมาปล่อยเช่าแบบรายวัน และผู้เช่าสามารถใช้พื้นทีส่วนกลางได้ตามโควตาของเจ้าของห้องตัวจริง เช่น ใช้คีย์การ์ด 2 ใบ สำหรับผู้เช่า 2 คน หากเกินนี้นิติบุคคลสามารถเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มได้ และหากทรัพย์สินมีความเสียหายนิติบุคคลก็จะเรียกเก็บค่าเสียหายกับเจ้าของห้องตัวจริง และหากพบว่ามีการโฆษณาห้องชุดในลักษณะของโรงแรมก็สามารถฟ้องหมิ่นประมาทได้ เพราะถือว่าเป็นการทำให้คอนโดมิเนียมเสียชื่อเสียง
ทางด้านผู้ซื้อห้องในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ได้เปิดเผยผ่านผู้สื่อข่าวว่า ได้ทราบประเด็นการที่เจ้าของห้องอื่นมีการปล่อยเช่าเป็นรายวัน จึงทำให้เจ้าของห้องชุดในโครงการเดียวกันนั้นเกิดความไม่พอใจ เนื่องจากทราบข่าวว่ามีการโฆษณาในเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยชูจุดขาย อาทิ วิวแม่น้ำเจ้าพระยา สระว่ายน้ำ และฟิตเนสส่วนกลางลอยฟ้า รวมไปถึงระบบความปลอดภัย และอัตราเช่าที่มีการเสนอแพ็กเกจรวมกับอาหารเช้า
สำหรับกรณีที่ไม่เห็นด้วยนั้น ผู้ซื้อห้องในคอนโดมิเนียมดังกล่าวระบุว่า เป็นการใช้อาคารผิดประเภท ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในโครงการ ดังนั้นจึงได้มีการรวมตัวลงชื่อคัดค้านการนำห้องชุดไปปล่อยเช่าแบบรายวัน และร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ศูนย์ดำรงธรรม กรมสรรพากร และแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวัน
ด้านแหล่งข่าวจากกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สคบ. กล่าวว่า การปล่อยเช่าห้องชุดแบบรายวันนั้นน่าจะเข่าข่ายผิดกฎหมาย 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และ พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2478 ซึ่งหากเป็นกรณีที่ผู้พัฒนาโครงการมีการนำอาคารชุดที่ไม่ได้จดทะเบียนปล่อยเช่าแบบรายวันนั้นน่าจะมีความผิดแน่นอน แต่หากเป็นเพียงเจ้าของห้องที่รับโอนกรรมสิทธิ์อาจต้องตีความก่อนว่าผิดกฎหมายหรือไม่
ด้าน นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ทาง กทม. มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น งานด้านรายได้ งานด้านโยธา เข้าตรวจสอบว่าการปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมแบบรายวันนั้นเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งหากมีการร้องเรียนก็จะเข้าไปตรวจสอบทันที ซึ่งโทษทางกฎหมายก็มีทั้งโทษจำคุก ปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทางด้าน นางสมรรัตน์ อรรถนิตย์ ผู้อำนวยการกองรายได้ สำนักการคลัง กทม. กล่าวว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 50 เขตตรวจสอบการจัดเก็บภาษีตาม พ.ร.บ.โรงเรือนและที่ดิน พบว่า มีการลักลอบให้เช่าคอนโดมิเนียมที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ และก็จะมีการจัดเก็บตามอัตราสัญญาเช่า เช่น มีการปล่อยเช่าเดือนละ 10,000 บาท ก็จะจัดเก็บภาษี 15,000 บาท/ปี
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มีการกำหนดโทษเกี่ยวกับเจ้าของหรือผู้ดำเนินการ กับอาคารที่ผิดกฎหมาย โดยมีการกำหนดไว้ในมาตรา 65 ว่า ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติเรื่องการก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคาร ต้องได้รับใบอนุญาต หรือแจ้งให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นทราบและปฏิบัติตามแบบที่เจ้าพนักงานท้องถิ่น กำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
