ลดความเสี่ยงให้นักลงทุนมือใหม่ ด้วยบัญชีออมหุ้น

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

            บัญชีออมหุ้น อีกหนึ่งแนวทางการลงทุนที่มือใหม่หัดเล่นหุ้นน่าศึกษา เพราะช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุน แถมไม่ต้องจับจังหวะซื้อขายเองด้วย

          มีเงินน้อยอยากเล่นหุ้น แต่ก็ไม่รู้จะเลือกหุ้นตัวไหนดี ข้อมูลก็ไม่ค่อยรู้ แถมยังไม่มีเวลาติดตามอีก กลัวหุ้นตกแล้วจะขาดทุนยับ กลับตัวไม่ทัน ทำไงดีล่ะ? ปัญหาเบสิกของนักเล่นหุ้นมือใหม่อาจแก้ไขได้ด้วยการเปิดบัญชีออมหุ้น อีกทางเลือกที่ช่วยให้ออมเงินระยะยาวได้ แถมยังได้ลงทุนในตลาดหุ้นด้วย ว่าแต่บัญชีออมหุ้นคืออะไร ไปทำความเข้าใจกันหน่อยค่ะ 

บัญชีออมหุ้น คืออะไร

          อย่างที่รู้กันว่าเมื่อเราจะเล่นหุ้นเราต้องเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัทหลักทรัพย์ หรือที่เรียกว่า "โบรกเกอร์" (Broker) แล้วเราถึงสามารถซื้อขายหุ้นที่ต้องการได้เองผ่านอินเทอร์เน็ต จะซื้อจะขายกี่หุ้น วันไหนเมื่อไร ราคาเท่าไรก็ตามแต่เราต้องการ

          แต่ถ้าเป็นบัญชีออมหุ้น หลักการก็คือ เราต้องลงทุนทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอ โดยโบรกเกอร์จะหักเงินจากบัญชีเราทุกเดือนตามที่เราระบุไว้ว่าจะลงทุนเดือนละเท่าไร เพื่อนำไปซื้อหุ้นตัวที่เราเลือก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นของบริษัทใหญ่ ๆ ที่เชื่อใจได้ในผลประกอบการ

          การลงทุนเฉลี่ยทุกเดือน ๆ ละเท่ากันนี้ มีชื่อเรียกว่า DCA หรือ Dollar Cost Averaging เป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ใช้การเฉลี่ยต้นทุน ซึ่งช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนได้ เพราะไม่ต้องคำนึงถึงภาวะตลาดและจังหวะในการเข้าซื้อ แนวคิดนี้จะทำให้เราซื้อหุ้นได้จำนวนมากขึ้นเมื่อราคาลดลง และซื้อหุ้นได้จำนวนน้อยลงเมื่อราคาสูงขึ้น ซึ่งทำให้ต้นทุนเฉลี่ยของพอร์ตลดลง

ตัวอย่างการลงทุนแบบ DCA


          จะเห็นได้ว่าในบางเดือนเราซื้อหุ้นได้ในราคาถูก แต่บางเดือนก็ซื้อได้ในราคาแพง ซึ่งเมื่อลงทุนในระยะยาว ราคาของหุ้นที่เราลงทุนไว้จะเป็นค่าเฉลี่ย ซึ่งให้ผลตอบแทนน่าพอใจพอสมควร

บัญชีออมหุ้นเหมาะกับใคร

           เช็กหน่อยซิว่าคุณเข้าข่ายลักษณะต่อไปนี้ที่ควรจะเปิดบัญชีออมหุ้นหรือเปล่า

          1. คนที่มีเงินลงทุนน้อย แต่อยากซื้อหุ้นหลายตัว หรืออยากซื้อหุ้นของบริษัทใหญ่ที่มีราคาสูง

          2. คนที่ไม่รู้ว่าจะเลือกหุ้นตัวไหน เลือกอย่างไรดี

          3. คนที่ไม่รู้จังหวะซื้อ-ขาย ไม่กล้าซื้อ เพราะกลัวขาดทุน การเปิดบัญชีออมหุ้นจะช่วยให้เราซื้อหุ้นได้ทุกเดือนโดยไม่สนใจราคาที่เราซื้อในวันนั้นว่าจะถูกหรือแพง เพราะอย่างไรเสียต้นทุนจะถูกเฉลี่ยออกมา

          4. คนที่ไม่มีเวลาศึกษาข้อมูล ติดตามข่าวสารของบริษัทหรือธุรกิจที่สนใจ

มาเริ่มต้นเปิดบัญชีออมหุ้น

          หากตรวจสอบแล้วเราเป็นคนหนึ่งที่เหมาะจะออมหุ้น และสนใจจะเปิดบัญชีออมหุ้นแล้วล่ะก็ ทำตามนี้ได้เลย

          1. เปิดบัญชีที่โบรกเกอร์

          โดยบริการออมหุ้นนี้จะมีเพียงแค่ 2 โบรกเกอร์เท่านั้น คือ บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) และบริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)

          - บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) สามารถเปิดบัญชีได้ 3 วิธี คือ สมัครโดยตรงกับเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานใหญ่, ดาวน์โหลดเอกสารจาก poems.in.th กรอกให้ครบแล้วส่งทางไปรษณีย์ และสมัครผ่านทางอินเทอร์เน็ต (ข้อมูลเพิ่มเติม poems.in.th )

          - บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่ cimbsecurities.co.th

          2. กำหนดจำนวนเงินที่จะลงทุน

          เราสามารถกำหนดได้ว่าจะลงทุนเดือนละเท่าไร ซึ่งโบรกเกอร์จะหักเงินจากบัญชีของเราตามจำนวนที่เรากำหนด

          3. กำหนดช่วงเวลาซื้อหุ้น และตัดเงินจากบัญชี

          เราสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อหุ้นในวันที่เท่าไร โดยหากเป็นบริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป จะให้เลือกลงทุนได้ในวันที่ 5 หรือ 20 ของเดือน แต่หากเป็นบริษัทหลักทรัพย์ซีไอเอ็มบี จะเลือกลงทุนได้ในวันที่ 5, 15 หรือ 25 ของเดือน ดังนั้น ต้องตรวจสอบกระแสเงินสดของตัวเองด้วยว่าสามารถจ่ายเงินได้ในช่วงนี้ เช่น เงินเดือนออกปลายเดือน เราอาจเลือกลงทุนทุกวันที่ 5 ของเดือน เพื่อจะได้กันเงินส่วนหนึ่งไว้ลงทุนก็ได้ เพราะหากมีภาระค่าใช้จ่ายช่วงต้นเดือน แล้วเราเลือกลงทุนทุกวันที่ 25 ของเดือน เราอาจไม่มีเงินจ่ายให้โบรกเกอร์ซื้อหุ้น

          4. เลือกตัวหุ้น

          ข้อจำกัดของคนที่เปิดบัญชีออมหุ้นก็คือไม่สามารถเลือกหุ้นทุกตัวที่เราต้องการได้ เพราะแต่ละโบรกเกอร์จะมีรายชื่อหุ้นมาให้เราเลือกแค่บางส่วนเท่านั้น

บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป และบริษัทหลักทรัพย์ซีไอเอ็มบี ต่างกันตรงไหน