ซื้อรถยนต์คันใหม่แบบประหยัดเงินในกระเป๋าไม่ใช่แค่ฝันอีกต่อไป เพราะวิธีเหล่านี้จะช่วยให้คุณซื้อรถยนต์ใหม่อย่างคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์สุด ๆ
มีใครหลายคนเคยพูดไว้ว่าการซื้อรถยนต์ก็ลดสมชื่อ เพราะราคารถมีแต่ลดลงไม่มีเพิ่ม แต่ถึงอย่างนั้นการมีพาหนะส่วนตัวพาไปไหนมาไหนก็มอบความสะดวกสบายให้ชีวิตเราได้มาก ทว่าการซื้อรถยนต์สักคันก็เป็นภาระที่ยิ่งใหญ่ และไม่ว่าใครก็คงอยากซื้อรถยนต์ที่คุ้มค่ากับเงินที่ต้องเสียไปมากที่สุดแน่ ๆ ฉะนั้นวันนี้เราเลยมี 8 ทริคซื้อรถยนต์คันใหม่อย่างคุ้มค่า ประหยัดค่าใช้จ่ายบางส่วนอย่างง่าย ๆ มาให้ลองนำไปปรับใช้กัน
1. ซื้อรถช่วงโปรโมชั่น
ถ้าคุณมีแผนอยากซื้อรถใหม่สักคัน นับตั้งแต่วินาทีที่คิดจะซื้อรถคันใหม่ให้หมั่นติดตามข่าวสารของรถทุกยี่ห้อ หรือรอจังหวะที่มีงานมอเตอร์โชว์ประจำปีก็ได้ และแม้ว่าราคารถในช่วงโปรโมชั่นจะไม่ได้ถูกกว่าปกติมากนัก ทว่าอย่างน้อยที่สุดทางบริษัทก็อาจจัดของแถมอย่างประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปี หรือดอกเบี้ยผ่อนรถที่ถูกลง รวมทั้งของแต่งรถและอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ให้คุณแน่นอน แค่นี้ก็ช่วยประหยัดไปได้เยอะพอสมควรแล้ว
ถ้าคุณมีแผนอยากซื้อรถใหม่สักคัน นับตั้งแต่วินาทีที่คิดจะซื้อรถคันใหม่ให้หมั่นติดตามข่าวสารของรถทุกยี่ห้อ หรือรอจังหวะที่มีงานมอเตอร์โชว์ประจำปีก็ได้ และแม้ว่าราคารถในช่วงโปรโมชั่นจะไม่ได้ถูกกว่าปกติมากนัก ทว่าอย่างน้อยที่สุดทางบริษัทก็อาจจัดของแถมอย่างประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปี หรือดอกเบี้ยผ่อนรถที่ถูกลง รวมทั้งของแต่งรถและอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ให้คุณแน่นอน แค่นี้ก็ช่วยประหยัดไปได้เยอะพอสมควรแล้ว
2. เลือกรถรุ่นเก่า
อย่าเพิ่งคิดว่ารถรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวออกมาได้ไม่นานจะเป็นรถที่ทรงประสิทธิภาพและเจ๋งมากที่สุดในบรรดารถทุกรุ่นของแบรนด์นั้น ๆ เพราะความจริงแล้วรถรุ่นเก่าที่เปิดตัวตั้งแต่ 1-2 ปีที่แล้วก็อาจจะมีสมรรถภาพที่ครอบคลุมการใช้งานของคุณมากกว่า เผลอ ๆ ยังอาจมีดีไซน์สวยคลาสสิกมากกว่ารถรุ่นใหม่ก็ได้ แต่ที่สำคัญรถรุ่นเก่าที่ออกมานานแล้ว ก็มักจะมีราคาต่ำกว่าช่วงเปิดตัวแรก ๆ นั่นก็หมายความว่า คุณอาจได้รถเปี่ยมสมรรถภาพในราคาสมเหตุสมผลที่สุด
อย่าเพิ่งคิดว่ารถรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวออกมาได้ไม่นานจะเป็นรถที่ทรงประสิทธิภาพและเจ๋งมากที่สุดในบรรดารถทุกรุ่นของแบรนด์นั้น ๆ เพราะความจริงแล้วรถรุ่นเก่าที่เปิดตัวตั้งแต่ 1-2 ปีที่แล้วก็อาจจะมีสมรรถภาพที่ครอบคลุมการใช้งานของคุณมากกว่า เผลอ ๆ ยังอาจมีดีไซน์สวยคลาสสิกมากกว่ารถรุ่นใหม่ก็ได้ แต่ที่สำคัญรถรุ่นเก่าที่ออกมานานแล้ว ก็มักจะมีราคาต่ำกว่าช่วงเปิดตัวแรก ๆ นั่นก็หมายความว่า คุณอาจได้รถเปี่ยมสมรรถภาพในราคาสมเหตุสมผลที่สุด
3. ใช้ประโยชน์จากโลกออนไลน์ให้เป็น
เดี๋ยวนี้เพียงแค่คลิกเดียวจากปลายนิ้วก็สามารค้นหาข้อมูลข่าวสารได้อย่างฉับไว ฉะนั้นเราก็ควรนำประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตมาใช้ให้คุ้มค่า โดยก่อนตัดสินใจซื้อรถลองเสิร์ชดูข้อมูลของรถรุ่นต่าง ๆ ก่อน ดูจากรีวิวของผู้ใช้รถจริงด้วยก็ยิ่งดี แล้วนำข้อมูลที่ได้มาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียอย่างละเอียดอีกครั้ง
4. ตีสนิทกับเซลล์ขายรถ
หลังจากตัดสินใจได้แน่นอนแล้วว่าต้องการซื้อรถรุ่นไหน ยี่ห้ออะไร คราวนี้เราลองไปชมตัวอย่างรถและคุยกับพนักงานขายรถได้เลย และหากเป็นไปได้ก็จะดีมากถ้าคุณจะตีสนิทกับพนักงานขายเบา ๆ เพื่อที่เขาจะได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับรถเราได้อย่างเจาะลึกมากที่สุด ดีไม่ดียังอาจได้สิทธิพิเศษเพิ่มเติมจากข้อกำหนดเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วย
5. พิจารณาสินเชื่อที่คุ้มค่าที่สุด
สำหรับคนที่ต้องการซื้อรถแบบผ่อนจ่าย สินเชื่อรถก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งขั้นตอนการเลือกสินเชื่อก็ต้องเช็กข้อมูลให้ดี แล้วนำมาเปรียบเทียบเงื่อนไขของแต่ละไฟแนนซ์ แต่หากทางโชว์รูมกำหนดธนาคารผู้ให้สินเชื่อมาแล้ว กรณีนี้คงทำได้แค่ศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขสินเชื่อให้ถี่ถ้วนที่สุด
6. ประกันภัยรถยนต์ก็ไม่ควรมองข้าม
ส่วนมากประกันภัยรถยนต์ในปีแรกจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ติดมากับรถตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แต่ในปีต่อไปคุณมีสิทธิ์จะเลือกต่อประกันภัยกับบริษัทเดิม หรือทำประกันภัยรถยนต์กับบริษัทใหม่ก็ได้ ซึ่งก็ควรเปรียบเทียบเงื่อนไขประกันภัยโดยละเอียดเช่นเคย โดยดูสัญญาประกันเป็นอันดับแรก เงื่อนไขคืนภาษี ความมั่นคงของบริษัท เงื่อนไขความคุ้มครองและการเคลมประกัน รวมทั้งมาตราฐานการบริการของบริษัทประกันนั้น ๆ ด้วย
7. สอบถามรายละเอียดของบริการหลังการขาย
การซื้อรถยนต์สักคันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ดูจากจำนวนเงินที่เราต้องควักกระเป๋าจ่ายออกไปสิ ดังนั้นทางที่ดีเราควรเก็บเกี่ยวประโยชน์จากบริการหลังการขายเอาไว้ให้ได้มากที่สุด หรือต่อรองเงื่อนไขบางอย่างที่เป็นประโยชน์กับตัวเองจากพนักงานขายด้วยก็ได้
8. อย่าหลงกลคำโฆษณา
พนักงานขายส่วนมากมักจะโน้มน้าวให้เราซื้อของแต่งรถและอุปกรณ์เสริมอีกมากมาย เพื่อทำยอดขายให้ตัวเอง โดยเขาจะพยายามยกประโยชน์และข้อดีสารพัดอย่างมาทำให้คุณคล้อยตามและตัดสินใจซื้อบริการเสริมนั้นจนได้ ฉะนั้นคุณควรมีสติอยู่ทุกขณะ พิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนว่าสิ่งที่พนักงานขายเสนอมาคุ้มค่าพอกับเงินที่ต้องเสียไปหรือไม่ ส่วนอุปกรณ์ที่นอกเหนือความต้องการของคุณก็เมินเฉยไปเลยดีกว่า
ด้วยความที่รถยนต์เป็นของชิ้นใหญ่ที่ต้องใช้เงินมาก ฉะนั้นหากเราสามารถลดทอนค่าใช้จ่ายบางอย่างลงได้บ้าง หรือแค่เลือกข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็น่าจะเวิร์กกับกระเป๋าสตางค์ไม่เบาเลย
เดี๋ยวนี้เพียงแค่คลิกเดียวจากปลายนิ้วก็สามารค้นหาข้อมูลข่าวสารได้อย่างฉับไว ฉะนั้นเราก็ควรนำประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตมาใช้ให้คุ้มค่า โดยก่อนตัดสินใจซื้อรถลองเสิร์ชดูข้อมูลของรถรุ่นต่าง ๆ ก่อน ดูจากรีวิวของผู้ใช้รถจริงด้วยก็ยิ่งดี แล้วนำข้อมูลที่ได้มาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียอย่างละเอียดอีกครั้ง
4. ตีสนิทกับเซลล์ขายรถ
หลังจากตัดสินใจได้แน่นอนแล้วว่าต้องการซื้อรถรุ่นไหน ยี่ห้ออะไร คราวนี้เราลองไปชมตัวอย่างรถและคุยกับพนักงานขายรถได้เลย และหากเป็นไปได้ก็จะดีมากถ้าคุณจะตีสนิทกับพนักงานขายเบา ๆ เพื่อที่เขาจะได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับรถเราได้อย่างเจาะลึกมากที่สุด ดีไม่ดียังอาจได้สิทธิพิเศษเพิ่มเติมจากข้อกำหนดเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วย
5. พิจารณาสินเชื่อที่คุ้มค่าที่สุด
สำหรับคนที่ต้องการซื้อรถแบบผ่อนจ่าย สินเชื่อรถก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งขั้นตอนการเลือกสินเชื่อก็ต้องเช็กข้อมูลให้ดี แล้วนำมาเปรียบเทียบเงื่อนไขของแต่ละไฟแนนซ์ แต่หากทางโชว์รูมกำหนดธนาคารผู้ให้สินเชื่อมาแล้ว กรณีนี้คงทำได้แค่ศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขสินเชื่อให้ถี่ถ้วนที่สุด
6. ประกันภัยรถยนต์ก็ไม่ควรมองข้าม
ส่วนมากประกันภัยรถยนต์ในปีแรกจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ติดมากับรถตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แต่ในปีต่อไปคุณมีสิทธิ์จะเลือกต่อประกันภัยกับบริษัทเดิม หรือทำประกันภัยรถยนต์กับบริษัทใหม่ก็ได้ ซึ่งก็ควรเปรียบเทียบเงื่อนไขประกันภัยโดยละเอียดเช่นเคย โดยดูสัญญาประกันเป็นอันดับแรก เงื่อนไขคืนภาษี ความมั่นคงของบริษัท เงื่อนไขความคุ้มครองและการเคลมประกัน รวมทั้งมาตราฐานการบริการของบริษัทประกันนั้น ๆ ด้วย
7. สอบถามรายละเอียดของบริการหลังการขาย
การซื้อรถยนต์สักคันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ดูจากจำนวนเงินที่เราต้องควักกระเป๋าจ่ายออกไปสิ ดังนั้นทางที่ดีเราควรเก็บเกี่ยวประโยชน์จากบริการหลังการขายเอาไว้ให้ได้มากที่สุด หรือต่อรองเงื่อนไขบางอย่างที่เป็นประโยชน์กับตัวเองจากพนักงานขายด้วยก็ได้
8. อย่าหลงกลคำโฆษณา
พนักงานขายส่วนมากมักจะโน้มน้าวให้เราซื้อของแต่งรถและอุปกรณ์เสริมอีกมากมาย เพื่อทำยอดขายให้ตัวเอง โดยเขาจะพยายามยกประโยชน์และข้อดีสารพัดอย่างมาทำให้คุณคล้อยตามและตัดสินใจซื้อบริการเสริมนั้นจนได้ ฉะนั้นคุณควรมีสติอยู่ทุกขณะ พิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนว่าสิ่งที่พนักงานขายเสนอมาคุ้มค่าพอกับเงินที่ต้องเสียไปหรือไม่ ส่วนอุปกรณ์ที่นอกเหนือความต้องการของคุณก็เมินเฉยไปเลยดีกว่า
ด้วยความที่รถยนต์เป็นของชิ้นใหญ่ที่ต้องใช้เงินมาก ฉะนั้นหากเราสามารถลดทอนค่าใช้จ่ายบางอย่างลงได้บ้าง หรือแค่เลือกข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็น่าจะเวิร์กกับกระเป๋าสตางค์ไม่เบาเลย
