5 วิธีวางแผนการเงินอย่างมั่นคง สำหรับคู่แต่งงาน

          วางแผนการเงินให้มั่นคงน่าจะเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากทำให้สำเร็จ โดยเฉพาะคู่แต่งงานที่ต้องวางแผนการเงินร่วมกันใหม่ เพื่ออนาคตการแต่งงานที่ราบรื่น ไม่ติดขัดปัญหาเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ให้ปวดหัวอีกต่อไป หากยังไม่รู้ว่าต้องเริ่มวางแผนยังไง มาศึกษากันค่ะ

 ตั้งงบกองกลาง
          แม้รายได้ของคุณทั้งสองคนอาจจะไม่เท่ากัน แต่ก็ควรมีเงินกองกลางเอาไว้ใช้จ่ายร่วมกันบ้าง อย่างค่าสาธารณูปโภค และอาหารการกินภายในบ้าน ก็ไม่จำเป็นเสมอไปที่ฝ่ายชายจะต้องเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดเพียงลำพัง อีกทั้งการไม่มีเงินกองกลางใช้ในครอบครัวเลย บางทีก็ทำให้เกิดปัญหาจุกจิก เช่น เวลาไปกินข้าวนอกบ้าน ก็ไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนจ่าย ทว่าจะแชร์กันก็ดูไม่งามกับฝ่ายชาย ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วภรรยาจะไม่คิดอะไรเลยและอยากจะร่วมแชร์ค่าอาหารด้วยความจริงใจก็ตาม

          ดังนั้นเพื่อความสบายใจในการใช้จ่ายเงินสำหรับเรื่องในครอบครัว ลองจัดตั้งกองกลาง หรือเปิดบัญชีร่วมกันเอาไว้สำหรับใช้จ่ายภายในครอบครัวโดยเฉพาะก็ได้ แต่ทั้งนี้คู่รักแต่ละคู่ก็มีพื้นฐานการใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งคุณเองก็อาจจะมีทางออกที่ดีกว่าในแบบของตัวเอง อย่างนี้ก็ไม่ว่ากันจ้า


รักษาอิสระในการใช้เงินของแต่ละฝ่ายด้วย

          เพราะนิสัยและความจำเป็นในการใช้เงินของผู้หญิง และผู้ชายมีความแตกต่างกันพอสมควร ซึ่งคงดีกว่าถ้าจะเว้นระยะห่างในเรื่องการเงินไว้บ้าง เพื่อให้ต่างฝ่ายต่างมีอิสระในการใช้เงินบางส่วนไปกับเรื่องส่วนตัวของตนเอง อีกทั้งจริง ๆ แล้วคู่สามีภรรยาก็ไม่จำเป็นต้องมีบัญชีร่วมกัน หรือต้องใช้เงินกระเป๋าเดียวกันตลอดเวลาจริงไหมคะ


          คู่แต่งงานส่วนใหญ่มักจะมีฝ่ายที่ใช้เงินเป็น เก็บเงินเก่ง และค่อนข้างดูแลเรื่องการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่อีกฝ่ายเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบยุ่งเรื่องตัวเลขมากนัก ซึ่งเมื่อเป็นอย่างนี้ก็คงไม่ต้องเดาแล้วล่ะเนอะว่า จะให้ใครเป็นฝ่ายกุมบังเหียนเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ในบ้านดี เพราะหากได้คนที่มีความสามารถในการจัดการมาดูแลเรื่องเงิน การเงินในครอบครัวคงไปได้สวยแน่ ๆ อยู่แล้ว คราวนี้ก็หมดปัญหาลืมจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกต่อไป


 เรื่องเงินในบ้าน ต้องเปิดเผย

          แม้ว่าจะยกหน้าที่ดูแลเรื่องเงินให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างเต็มตัว แต่ทั้งนี้อีกฝ่ายควรได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสถานกาณ์การเงินในครอบครัวทุกระยะด้วยนะคะ เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัญหาครอบครัวที่เกิดขึ้นกับหลาย ๆ เคส ก็เริ่มมาจากฝ่ายที่ไม่ได้ดูแลเรื่องเงิน ใช้เงินตามใจตัวเอง โดยไม่รู้ฐานะการเงินของครอบครัวเลย ในขณะที่ฝ่ายที่รู้สถานการณ์กระเป๋าสตางค์ของครอบครัวมาโดยตลอด กลับเป็นคนที่เครียดและกดดันอยู่ฝ่ายเดียว