วิธีเก็บเงินให้อยู่หมัด ต้องกำจัดนิสัยแย่ ๆ ซะตั้งแต่ต้น อยากหาเคล็ดลับเก็บเงินในแต่ละเดือนให้ได้ตามเป้า เรามาดูก่อนว่า 7 นิสัยใช้เงินแย่ ๆ ที่ควรเลี่ยงมีอะไรบ้าง
สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานรับเงินเดือนใหม่ ๆ ส่วนใหญ่คงอยากเก็บเงินให้ได้มาก ๆ เพื่อนำไปใช้จ่ายจิปาถะ และซื้อรางวัลชิ้นใหญ่อย่าง บ้าน หรือรถ ให้ตัวเอง แต่ทว่าได้รับเงินเดือนมาเท่าไหร่ กลับต้องหมดไปกับความอยากได้เล็ก ๆ น้อย ๆ ซะทุกที จนแทบไม่เหลือเงินอยู่ถึงสิ้นเดือนเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่รีบมองหาวิธีการเก็บเงินและแนวคิดใหม่ ๆ ให้ตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ คงจะมีเงินเก็บก้อนใหญ่ได้ยากเต็มที ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มเก็บเงินอย่างจริงจัง คุณต้องเริ่มจากปรับปลี่ยนนิสัยแย่ ๆ เหล่านี้ให้หมดไปก่อนดีกว่า รับรองว่าช่วยได้เยอะทีเดียว
ผลัดหนี้จนพอกหางหมูไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าคอนโด ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หรือสินค้าอะไรก็ตาม คุณไม่ควรค้างชำระแล้วค่อยหาเงินมาโปะทีหลัง เพราะหากปล่อยเวลาให้เกินกำหนดชำระค่าใช้จ่าย คุณคงหนีไม่พ้นดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ อย่างแน่นอน อีกทั้งการผ่อนผันหนี้ตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นนี้ อาจจะเป็นการฝึกนิสัยผลัดหนี้ให้ติดตัวคุณไปยันแก่เลยก็ได้
ใช้เงินเกินตัวเป็นนิสัยการเงินที่ใครก็รู้ว่าไม่ค่อยดีต่อสวัสดิภาพกระเป๋าสตางค์เท่าไร แต่หลายคนก็ยังไม่สามารถกำหนดค่าใช่จ่ายให้อยู่ในงบประมาณที่ตัวเองตั้งไว้อยู่ดี แต่ถ้าคุณอยากเป็นคนรวยในอนาคต คงถึงเวลาที่ต้องรู้จักเก็บออมตั้งแต่เพิ่งเริ่มทำงานแล้วล่ะ เริ่มง่าย ๆ จากการแบ่งสันปันส่วนรายรับในแต่ละเดือน แจกแจงส่วนที่จำเป็นต้องจ่ายในแต่ละเดือน แบ่งเก็บส่วนหนึ่ง และกักเอาไว้บางส่วนเพื่อเป็นค่ากิน บวกกับค่าจิปาถะที่คาดว่าจะต้องใช้เอาไว้ แต่ที่สำคัญที่สุด ต้องเพิ่มวินัยในการใช้เงินให้ตัวเองด้วย
ฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อลองสำรวจดูสิคะว่า ทุกวันนี้คุณมีนิสัยใช้เงินฟุ่มเฟือยอยู่หรือเปล่า เช่น จัดบุฟเฟต์ทุกสุดสัปดาห์ ช้อปกระจายเป็นประจำ ถ้าเป็นอย่างที่ว่ามานี้ ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมคุณจึงรู้สึกกระเป๋าแห้งตั้งแต่กลางเดือน และมียอดเงินติดลบ หรืออย่างน้อย ๆ ก็เหลือเงินในบัญชีแค่หลักสิบทุกสิ้นเดือน เรียกได้ว่า จะให้มีเงินเหลือเก็บก็ดูเป็นความฝันลม ๆ แล้ง ๆ เอาล่ะ ! นับจากนี้ต่อไปมาลองปฏิวัติตัวเองสักหน่อยดีกว่า เริ่มตั้งแต่ตัดรายการฟุ่มเฟือยในชีวิต และลองใช้ชีวิตแบบสมถะดูบ้าง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วันกินข้าวแกง และชงกาแฟกินเองบ้างก็ได้
รูดบัตรเป็นว่าเล่นปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีบัตรเครดิตช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตได้หลายอย่าง แต่ถ้าคุณไม่มีวินัย แถมยังไร้สติกับการใช้จ่าย เผลอรูดบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตเป็นว่าเล่นทุกเดือนจนเงินหมดบัญชี และการันตีได้เลยว่าพอเงินเดือนออกปุ๊บ ยอดเงินคุณก็คงลดฮวบฮาบเพราะต้องนำเงินไปชำระหนี้บัตรเครดิต หรือถ้าร้ายไปกว่านั้น คุณอาจจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ครบยอดที่ต้องชำระ จ่ายได้แค่ขั้นต่ำ ซึ่งก็คงต้องรับภาระดอกเบี้ยเพิ่มพูนในเดือนถัดไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ใช้เงินเพลินจนลืมนึกถึงวัยเกษียณหลายคนอาจคิดว่าเพิ่งเริ่มทำงานเท่านั้น จะให้มานั่งคิดถึงบั้นปลายชีวิตตอนเกษียณก็ดูจะรีบไปหน่อย แต่อย่าลืมนะคะว่า ในช่วงที่คุณกำลังไฟแรง มีโอกาสหาเงินเหลือเฟือแบบนี้ ถือว่าเป็นช่วงน้ำขึ้นให้รีบตักก็ว่าได้ ฉะนั้นใครรู้จักเก็บออมก่อนก็ได้เปรียบ หรือจะลงทุนกับประกันชีวิต กองทุนของสถาบันการเงินต่าง ๆ ก็ดีไม่น้อย แก่ตัวไปจะได้มีเงินเก็บเอาไว้ดูแลรักษาตัว แถมถ้าใจร้อนรีบเก็บเงินตั้งแต่ยังเด็กแบบนี้ ยังมีโอกาสกอบกำเม็ดเงินได้มากกว่าตอนอายุมากอีกด้วย เพราะเราไม่จำเป็นต้องเสียภาษีมาก หรือบางรายก็ไม่ต้องเสียเลยอีกต่างหาก
ไม่ตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ตัวเองการวางแผนเป็นเรื่องที่ดีกับทุกอย่างในชีวิตเรา โดยเฉพาะการวางแผนทางการเงิน และตั้งเป้าทางการเงินเอาไว้ให้ตัวเอง เช่น ถ้าคุณตั้งใจไว่ว่าจะเก็บเงินให้ได้เดือนละ 5,000 บาท คุณก็จะรู้จักใช้เงินมากขึ้นโดยอัตโนมัติ ในคราวที่นึกอยากจะฟุ่มเฟือย ก็จะฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าต้องประหยัด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินที่วางเอาไว้
ไม่สนใจการทำประกันอย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่า การทำประกันภัยก็เป็นการออมอย่างหนึ่ง (ในกรณีที่เลือกกรมธรรม์แบบออมเงิน) ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณเก็บเงินไว้ใช้ในบั้นปลายชีวิตเท่านั้น แต่ตลอดระยะเวลาการคุ้มครองของกรมธรรม์ คุณยังจะได้รับสิทธิพิเศษ เช่น ค่ารักษาพยาบาล หรือค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่เกิดภัยต่าง ๆ กับชีวิตขึ้นมาอีกด้วย แต่ทั้งนี้คุณก็ควรพิจารณาข้อกำหนดของกรมธรรม์ประกันภัยให้รอบคอบและถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจนะคะ
เส้นชัยความร่ำรวยอาจจะยังดูห่างออกไป แต่หากคุณเริ่มออกสตาร์ทตั้งแต่เนิ่น ๆ โอกาสเดินไปถึงจุดที่ร่ำรวยก็จะใกล้เอื้อมมากขึ้น และนิสัยการใช้เงินให้เป็น เก็บเงินให้อยู่ก็เปรียบเสมือนก้าวสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้คุณเป็นคนรวยในอนาคตได้ง่าย ๆ เช่นกันค่ะ
