4 เคล็ดลับซื้อชุดนักเรียน 4 แหล่งจับจ่ายรับเปิดเทอม

 เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          เริ่มใกล้จะเปิดเทอมกันแล้ว ตลาดสินค้าชนิดหนึ่งที่ถือได้ว่ากำลังทำเงินทำทองในเวลานี้ คงหนีไม่พ้นตลาด "ชุดนักเรียน" ที่เริ่มมีความเคลื่อนไหวให้เห็นมาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม จวบจนล่วงเลยเริ่มค่อย ๆ อุ่นช่วงต้นเดือนเมษายน ก่อนทวีความร้อนแรงช่วงหลังสงกรานต์ และร้อนระอุไปจนถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงก่อนเปิดเทอมนั่นเอง

          และด้วยฤดูกาลช่วงรับเปิดเทอม จะเห็นได้ว่าเหล่าผู้ประกอบการหลาย ๆ ค่ายได้เริ่มทยอยปล่อยโฆษณาทางหน้าจอทีวี เพื่อตอกย้ำแบรนด์และสร้างการรับรู้ในคอลเล็กชั่นใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเจ้าตลาดชุดนักเรียนอย่าง ตราสมอ น้อมจิตต์ และกลุ่มรองเท้านันยาง เอส.พี.เอส ที่ระดมสินค้าจัดหนักหวังออกมาอวดโฉม กระตุ้นยอดขาย แถมเป็นอีกหนึ่งช่องทางจูงใจให้เหล่าผู้ปกครองได้คิดวางแผนก่อนตัดสินใจเลือกจับจอง

          วันนี้กระปุกดอทคอมจึงมี 4 เคล็ดลับดี ๆ มาแบ่งปัน วิธีเลือกซื้อชุดนักเรียนอย่างไรให้คุ้มค่า พร้อมด้วย 4 แหล่งจำหน่ายสินค้าที่คุณสามารถศึกษา เพื่อเป็นข้อมูลในการเดินทางและเลือกซื้อได้อย่างสบายใจ

          เป็นอีกวิธีที่คุณจะได้เตรียมความพร้อมก่อนที่จะลงหลักเดินทางไปยังร้านค้า หรือห้างสรรพสินค้าที่คุณเองต้องแน่ใจก่อนนะครับว่า "ไปแล้วไม่เสียเที่ยว" เพราะบางคนไปถึงที่แต่ยังขาดสินค้าที่ต้องการ หรือไปช่วงเวลาที่มีแต่คนแห่ไปจับจ่าย สินค้าได้ไม่ครบยังต้องตระเวนหาร้านอื่นอีก หรือไม่รู้ข่าวสารโปรโมชั่นต่าง ๆ จนพลาดโอกาสนาทีทอง ดังนั้นลองมาวางแผนกันดูก่อนครับ

          1. ควรเลือกซื้อชุดนักเรียนก่อนเปิดเทอม 2 สัปดาห์

          การวางแผนเลือกจับจองสินค้าชุดนักเรียนก่อนเปิดเทอม 2 สัปดาห์ ด้วยเหตุผลง่าย ๆ คือ คุณสามารถเลือกสินค้าได้หลากหลายตามความต้องการและรวดเร็ว โดยที่คุณไม่ต้องเลือกซื้อชุดนักเรียนใกล้ ๆ ช่วงเปิดเทอม เพราะคุณอาจไม่อยากไปยืนแย่งกับคุณพ่อคุณแม่ที่ต่างก็ทยอยเข้ามาแวะเวียนเลือกซื้อ และสิ่งสำคัญคุณควรพาลูกไปลองชุด เลือกไซส์เผื่อโตขึ้นเล็กน้อย และการไม่เตรียมการวางแผนย่อมเกิดความผิดพลาด หากคุณไปซื้อใกล้ ๆ วันเปิดเทอม บางสินค้าอาจหมด หรือสินค้าในร้านมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ นอกจากคุณจะเสียเวลาแล้วคุณอาจจะต้องเสียเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่มอีกด้วย

          2. ร้านครบวงจร ยิ่งซื้อมาก ยิ่งได้ลด

          คุณควรเลือกร้านค้า หรือแหล่งที่จำหน่ายสินค้าที่มีหลายอย่างหลายประเภท ทั้ง ชุดนักเรียน ชุดลูกเสือ เนตรนารี กระเป๋า รองเท้า ถุงเท้า ฯลฯ เพื่อที่คุณอาจได้รับส่วนลดของแถม มากกว่าเลือกซื้อแบบแยกชิ้น และไม่เสียเวลาในการเดินทาง ไปครั้งเดียวได้สินค้าครบกลับบ้าน

          3. มองหาบริการสมนาคุณจากทางร้าน

          เนื่องจากแต่ละร้านจะมีส่วนลด หรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โปรโมชั่นต่าง ๆ ทั้ง "ลด แลก แจก แถม" คุณควรศึกษาและเปรียบเทียบแต่ละร้านว่า ให้สิทธิพิเศษเป็นไปตามที่คุณพอใจหรือไม่ อาทิ ชุดนักเรียนเก่า 3 ชุดแลกรับส่วนลด 150 บาท หรือซื้อชุดนักเรียน 2 ตัวขึ้นไป ปักชื่อฟรี เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายไปอีกทาง

          4. คำนวณชุดนักเรียนให้เหมาะสม

          คุณควรคำนวณชุดนักเรียนและวางแผนการเลือกซื้อให้เหมาะสม เช่น หากลูกของคุณเพิ่งเริ่มเข้าเรียน ควรซื้อชุด 3-4 ชุด เพื่อรองรับการใช้งานต่อวัน หรือหากลูกขึ้นชั้นเรียนใหม่ชุดนักเรียนเก่ายังสามารถใส่ได้ ก็อาจซื้อ 1-2 ชุด เพื่อทดแทนตัวเก่าที่ไม่สามารถซ่อมแซมกลับมาใช้ใหม่ได้อีก นอกจากนี้อย่าลืมเผื่อไซส์ให้ใหญ๋ขึ้นนิดหน่อย เผื่อโตด้วย

          เอาละครับ ได้เคล็ดลับ 4 ข้อวิธีเลือกซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปแล้ว คงทำให้เหล่าคุณพ่อคุณแม่ทั้งมือใหม่มือเก่า มือสมัครเล่นได้นำไปใช้กันนะครับ คราวนี้ลองมาดู 4 แหล่งจำหน่ายสินค้า ตลาดชุดนักเรียน ไว้เป็นทางเลือกก่อนตัดสินใจว่าจะซื้อที่ไหนดี ?


          1. ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี-โลตัส-โรบินสัน จัดโปรโมชั่น ลด-แลก-แจก-แถม

          เริ่มจากห้างสรรพสินต่าง ๆ ที่ขนแคมเปญ จัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายให้ได้เลือกซื้อสินค้าดีราคาถูก อาทิ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ขนคาราวานชุดนักเรียน เริ่มต้นเพียง 20 บาท หรือจะเป็นซื้อชุดนักเรียนน้อมจิตต์ครบทุก 500 บาท ลุ้นรับฟรี iPad Mini และ iPhone 5 เป็นต้น

          และจากการสำรวจเว็บไซต์ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ พบว่า เริ่มปล่อยโปรโมชั่นสินค้านักเรียน "Big C Back To School" ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 42 บาท รองเท้านักเรียน ราคาเริ่มต้นที่ 79 บาท ถุงเท้าราคาเริ่มต้น 12 บาท แถมยังมีโปรโมชั่นผ่อน 0% นาน 10 เดือน สำหรับลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิต First Choice Krungsri Visa เมื่อซื้อสินค้าครบ 3,000 บาทขึ้นไป

          ส่วนเว็บไซต์เทสโก้ โลตัส เปิดตัวแคมเปญธงฟ้า "แบค ทู สคูล" จำหน่ายสินค้าชุดนักเรียนอุปกรณ์การเรียนราคาถูก โดยเริ่มต้นที่ราคา 49 บาท รองเท้านักเรียนเริ่มต้นที่ราคา 79 บาท ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน - 14 พฤษภาคม 2557

          2. ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ มีให้เลือกครบ ใกล้ที่ไหนแวะที่นั่น

          องค์การค้าของคุรุสภา และร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ เป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ที่ก่อตั้งเพื่อจำหน่ายสินค้าทางการศึกษาและสินค้าอื่น ๆ อีกด้วย แถมคุณอาจได้สินค้าราคาสุดพิเศษอีกด้วย โดยมีร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ 9 สาขา  ได้แก่

          ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ ราชดำเนิน โทร. 0-2629-1900-11 ต่อ 268 วันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 09.00-17.00 น.

          ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ ลาดพร้าว 0-2514-4033 ต่อ 265  สอบถามหนังสือ 0-2933-4545 วันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 09.00-17.00 น.

          ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต 0-2958-0766-7 วันจันทร์-วันอาทิตย์ เวลา 11.00-20.00 น.

          ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ อิมพีเรียลเวิลด์สำโรง 0-2756-8701-2 วันจันทร์-วันอาทิตย์ เวลา 11.00-20.00 น.

          ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ ราชบพิธ 0-2223-4886, 0-2221-0822, 0-2221-1210, 0-2221-7864 สอบถามหนังสือ 0-2221-1210 ต่อ 106  วันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 08.30-16.30 น.

          ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ สนามกีฬาแห่งชาติ 0-2215-3532, 0-2214-3325 วันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 09.00-17.00 น.

          ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ ท้องฟ้าจำลอง 0-2391-1518, 0-2390-2546 วันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 09.00-17.00 น.

          ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ สกสค. 0-2281-1637, 0-2281-4657 วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น.

          ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ อ้อมน้อย 0-2420-7095-6 วันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 09.00 - 17.00 น.

          3. ตลาดนัดหรือแหล่งร้านค้าขายส่ง-ปลึก ครบวงจร ต่อรองได้

          ตามตลาดนัดต่าง ๆ หรือร้านค้าทั่วไปในภูมิลำเนา หรือใกล้แหล่งชุมชนที่คุณอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดจตุจักร แหล่งรวมสินค้าราคาถูกทั้งแบบมือ 1 และมือ 2 หรือตลาดโบ้เบ๊ ตลาดประตูน้ำ ศูนย์รวมเสื้อผ้ายกโหล เหมาะแก่การเหมาซื้อหลาย ๆ ชุด ได้ราคาต้นทุน หรือตลาดสำเพ็ง แหล่งรวมสินค้าราคาถูก อีกทั้งยังสามารถต่อรองราคาได้ด้วย