ออมเงินรับปีใหม่กับสลากออมทรัพย์ 2 ปี ฝากแบงก์ไหน ลุ้นโชคใหญ่ง่าย ได้ผลตอบแทนคุ้มค่าที่สุด

          เปรียบเทียบสลากออมทรัพย์ อายุ 2 ปี จากธนาคาร 3 แห่ง ชุดไหนให้ผลตอบแทนสูงกว่า มีโอกาสถูกรางวัลใหญ่ง่ายกว่า มาดูกัน

           ปีใหม่เป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่หลายคนจะได้เริ่มทำตามเป้าหมายการเงินที่ตั้งใจไว้ เช่น การเก็บเงิน หรือนำเงินออมมาลงทุนสร้างผลตอบแทนให้เพิ่มพูน อย่างไรก็ตาม การรักษาเงินต้นก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญนะคะ จึงควรกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำไว้บ้าง เพื่อความมั่นใจว่าเงินของเราจะไม่หายไปไหน และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น

          อย่าง "สลากออมทรัพย์" เป็นแนวทางที่อุ่นใจสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินและลงทุน เพราะเพียงแค่ฝากครบกำหนดก็ได้เงินต้นคืนทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ย อีกทั้งได้ลุ้นรางวัลทุกงวด ที่สำคัญก็คือดอกเบี้ยและเงินรางวัลที่ได้รับก็ไม่ต้องเสียภาษีสักบาท โดยในเดือนมกราคม 2567 มีสลากออมทรัพย์ รุ่นอายุ 2 ปี ที่น่าสนใจจาก 3 ธนาคาร มาให้เลือกออม ดังนี้

          1. สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาวพลัส
          2. สลากออมสินพิเศษ 2 ปี (แบบใบสลากและดิจิทัล)
          3. สลาก ธ.ก.ส. ชุดถุงทอง

          หากยังไม่รู้ว่าจะซื้อสลากออมทรัพย์ชุดไหนดี ถึงได้ผลตอบแทนสูง หรือมีโอกาสถูกรางวัลที่ 1 ง่ายกว่า ตามมาดูรีวิวเปรียบเทียบไว้ประกอบการพิจารณากัน 

          เริ่มที่ "สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาวพลัส" ราคาหน่วยละ 5,000 บาท จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่มาพร้อมโปรโมชั่นเด็ดต้อนรับปี 2567 ด้วยการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยหน้าสลาก จากเดิม 0.65% ต่อปี เป็น 1.15% ต่อปี นั่นหมายความว่า การซื้อสลาก 1 หน่วย เมื่อฝากครบอายุ 2 ปี จะได้รับผลตอบแทนขั้นต่ำ 115 บาท

         อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องการการันตีถูกรางวัลเลขท้ายทุกงวด ควรฝากขั้นต่ำ 500,000 บาท ซึ่งจะได้รับดอกเบี้ย 11,500 บาท รวมกับเงินรางวัลเลขท้าย 2 ตัว และเลขสลับเลขท้าย 2 ตัว จำนวน 24 งวด อีก 3,600 บาท เท่ากับจะได้รับผลตอบแทนสูงถึง 15,100 บาท คิดเป็น 1.51% ต่อปีเลยค่ะ

• รางวัลที่ 1 : รางวัลละ 1 ล้านบาท (1 รางวัลต่อหมวด)
• รางวัลที่ 2 : รางวัลละ 1 แสนบาท (4 รางวัลต่อหมวด)
• รางวัลที่ 3 : รางวัลละ 10,000 บาท (20 รางวัลต่อหมวด)
• รางวัลที่ 4 : รางวัลละ 1,000 บาท (20 รางวัลต่อหมวด)
• รางวัลเลขท้าย : 
  • เลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 200 บาท (หมุน 1 ครั้ง)
  • เลขสลับท้าย 3 ตัว รางวัลละ 100 บาท
  • เลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 100 บาท (หมุน 1 ครั้ง)
  • เลขสลับท้าย 2 ตัว รางวัลละ 50 บาท

          ออกรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน

           เรื่องโอกาสถูกรางวัลเป็นไฮไลต์ของสลากชุดนี้เลย เนื่องจากสามารถลุ้นรางวัลใหญ่ได้โดยไม่ต้องเสี่ยงหมวด เปิดรับฝาก 10 หมวด หมวดละ 1 ล้านหน่วย โดยรางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท ออก 1 รางวัลต่อหมวด หมายความว่าไม่ต้องเสี่ยงหมวดใด ๆ ใครซื้อได้หมวดไหนก็มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลทุกงวด 

           เช่น กรณีซื้อสลาก 1 หน่วย จะมีโอกาสถูกรางวัลที่ 1 อยู่ที่ 1 ต่อ 1 ล้านหน่วย หรือ 0.0001% ค่ะ นอกจากนี้ยังมีรางวัลที่ 2 ถึงรางวัลที่ 4 ให้ได้ลุ้นอีก รวมแล้วสลากชุดนี้ออกรางวัลใหญ่ถึง 45 รางวัล คิดเป็นโอกาสถูกรางวัลใหญ่สูงถึง 0.0045% ต่องวด

           ส่วนคนชอบลุ้นรางวัลเลขท้ายก็คงถูกใจเช่นกัน เพราะมีรางวัลเลขท้าย 3 ตัว, รางวัลเลขสลับเลขท้าย 3 ตัว (เช่น 456 465 564 546 654 645), รางวัลเลขท้าย 2 ตัว และรางวัลเลขสลับเลขท้าย 2 ตัว (เช่น 45 54) ดังนั้น การซื้อสลาก 1 หน่วย จะได้ลุ้นเลขท้ายถึง 8 หมายเลข เพิ่มโอกาสถูกรางวัลง่ายขึ้นไปอีก หากสนใจสามารถฝากได้ที่ ธอส. ทุกสาขา หรือผ่านแอปพลิเคชัน GHB ALL GEN ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2567 หรือจนกว่าจะเต็มกรอบวงเงินของโครงการนะคะ

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมของสลากออมทรัพย์ ธอส. เกล็ดดาวพลัส

          ฝั่งธนาคารออมสินมีสลากออมสินพิเศษ 2 ปี ราคาหน่วยละ 100 บาท เลือกได้ทั้งแบบใบ (ซื้อขั้นต่ำ 1 หน่วย) และแบบดิจิทัลที่ซื้อผ่านแอปพลิเคชัน MyMo (ซื้อขั้นต่ำ 10 หน่วย) โดยเมื่อซื้อสลากตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป จะได้รับดอกเบี้ย 1.20 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็น 0.60% ต่อปี หากอยากถูกรางวัลทุกงวดต้องซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท เพื่อการันตีถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว รับดอกเบี้ยรวมกับผลตอบแทนขั้นต่ำ 1.08% ต่อปี และถ้าซื้อสลาก 1 ล้านบาท ผลตอบแทนจะเพิ่มเป็น 1.32% ต่อปีทันที จากการถูกรางวัลเลขท้าย 4 ตัว และเลขท้าย 3 ตัว รวม 24 งวด

• รางวัลที่ 1 : รางวัลละ 30 ล้านบาท (1 รางวัล) เสี่ยงงวดและหมวดอักษร
• รางวัลที่ 2 : รางวัลละ 1 ล้านบาท (1 รางวัล) เสี่ยงงวดและหมวดอักษร
• รางวัลที่ 3 : รางวัลละ 10,000 บาท (5 รางวัล)
• รางวัลที่ 4 : รางวัลละ 3,000 บาท (10 รางวัล)
• รางวัลที่ 5 : รางวัลละ 1,000 บาท (15 รางวัล)
• รางวัลเลขท้าย 4 ตัว : รางวัลละ 200 บาท (ออกรางวัล 1 ครั้ง)
• รางวัลเลขท้าย 3 ตัว : รางวัลละ 40 บาท (ออกรางวัล 1 ครั้ง)

           ออกรางวัลทุกวันที่ 1 ของเดือน

          สลากออมสินพิเศษ 2 ปี มีเงินรางวัลที่ 1 สูงถึง 30 ล้านบาท และรางวัลที่ 2 มูลค่า 1 ล้านบาท โดยต้องเสี่ยงหมวดหาผู้โชคดี แต่เนื่องจากสลากชุดนี้เปิดจำหน่ายแบบไม่จำกัดงวด ไม่จำกัดหมวด ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2566) มีอยู่ทั้งหมด 14,920 ล้านหน่วย เท่ากับว่าการซื้อสลาก 1 หน่วย จะมีโอกาสถูกรางวัลที่ 1 และรางวัลที่ 2 อยู่ที่ 1 ต่อ มากกว่า 14,920 ล้านหน่วย หรือประมาณ 0.0000000067% เรียกว่าโอกาสถูกรางวัลยากมาก ต้องดวงเฮงสุด ๆ 

          อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ซื้อสลากออมสินพิเศษ 2 ปี ในช่วงวันที่ 20 ธันวาคม 2566 - 31 มกราคม 2567 จะมีโอกาสลุ้นรางวัลพิเศษเพิ่มอีก 50 ล้านบาท (1 รางวัล) และ 1 ล้านบาท (31 รางวัล) โดยจะออกรางวัลในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 แต่ก็ต้องเสี่ยงหมวด เสี่ยงงวด เปอร์เซ็นต์ถูกรางวัลจึงน้อยมากเช่นกัน

          ปิดท้ายที่สลาก ธ.ก.ส. ชุดถุงทอง จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ราคาหน่วยละ 2,000 บาท ให้อัตราดอกเบี้ยหน้าสลากหน่วยละ 35 บาท คิดเป็น 0.875% ต่อปี หากต้องการถูกรางวัลทุกงวดต้องลงทุนถึง 2 ล้านบาท เพื่อที่จะถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว รวมแล้วได้ผลตอบแทนอยู่ที่ 0.935% ต่อปี

• รางวัลที่ 1 : รางวัลละ 60 ล้านบาท (1 รางวัล) เสี่ยงหมวด
• รางวัลที่ 1 ต่างหมวด : รางวัลละ 1 แสนบาท (4 รางวัล) 
• รางวัลที่ 2 : รางวัลละ 1 แสนบาท (หมุน 3 ครั้ง 15 รางวัล) 
• รางวัลที่ 3 : รางวัลละ 50,000 บาท (หมุน 10 ครั้ง 50 รางวัล) 
• รางวัลที่ 4 : รางวัลละ 20,000 บาท (หมุน 20 ครั้ง 100 รางวัล) 
• รางวัลที่ 5 : รางวัลละ 10,000 บาท (หมุน 100 ครั้ง 500 รางวัล) 
• รางวัลเลขท้าย 4 ตัว : รางวัลละ 250 บาท (หมุน 1 ครั้ง 5,000 รางวัล) 
• รางวัลเลขท้าย 3 ตัว : รางวัลละ 50 บาท (หมุน 2 ครั้ง 1 แสนรางวัล) 

          ออกรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน

          สลาก ธ.ก.ส. ชุดถุงทอง เปิดรับฝาก 5 หมวด หมวดละ 10 ล้านหน่วย โดยออกรางวัลที่ 1 มูลค่าสูงถึง 60 ล้านบาท ถือว่าเป็นเงินรางวัลที่มากที่สุดในชั่วโมงนี้ แต่ต้องเสี่ยงหมวด ดังนั้น ความน่าจะเป็นในการถูกรางวัล (กรณีซื้อ 1 หน่วย) อยู่ที่ 1 ต่อ 50 ล้าน หรือ 0.000002% ค่ะ อย่างไรก็ตาม ยังมีรางวัลปลอบใจเป็นรางวัลที่ 1 ต่างหมวด ให้ด้วย 4 รางวัล โอกาสถูกรางวัลที่ 1 ต่างหมวด อยู่ที่ 1 ต่อ 10 ล้าน

          เมื่อเปรียบเทียบผลตอบแทนขั้นต่ำของสลากออมทรัพย์ทั้ง 3 ชุด ต้องบอกว่า สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาวพลัส ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในทุกยอดการฝากค่ะ เพราะอัตราดอกเบี้ยหน้าสลากสูงถึง 1.15% ต่อปี และหากฝาก 5 แสนบาทขึ้นไป การันตีถูกรางวัลเลขท้ายเพิ่มผลตอบแทนเป็น 1.51% ต่อปี 

          ในขณะที่สลากออมสินพิเศษ 2 ปี มีราคาต่อหน่วยถูกที่สุด ต้องฝาก 1 แสนบาทขึ้นไปถึงได้ผลตอบแทน 1.08% ต่อปี หรือฝาก 1 ล้านบาท เพื่อรับผลตอบแทน 1.32% ต่อปี เทียบดูแล้วใช้เงินลงทุนมากกว่าสลาก ธอส. 

          ส่วนสลาก ธ.ก.ส. ชุดถุงทอง ให้อัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าใคร คือไม่ถึง 1% ต่อปี ทว่าก็แลกมากับโอกาสลุ้นรางวัลที่ 1 ที่มีมูลค่าสูงถึง 60 ล้านบาท

กรณีซื้อ 1 หน่วย จะมีโอกาสถูกรางวัลที่ 1 เป็นดังนี้

• สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาวพลัส : 1 ต่อ 1 ล้าน หรือ 0.0001% 
• สลากออมสินพิเศษ 2 ปี : มากกว่า 1 ต่อ 14,920 ล้าน หรือประมาณ 0.0000000067%
• สลาก ธ.ก.ส. ชุดถุงทอง : 1 ต่อ 50 ล้าน หรือ 0.000002% 

          ทีนี้ลองมาเปรียบเทียบในกรณีซื้อสลากทั้ง 3 ชุด ด้วยจำนวนเงินเท่ากัน ว่ามีโอกาสถูกรางวัลแค่ไหน

          จะเห็นว่าสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาวพลัส ชนะเลิศทั้งผลตอบแทนที่ได้รับมากกว่า และโอกาสถูกรางวัลที่ 1 ก็ง่ายกว่าด้วย ใครต้องการออมเงินและลงทุนแบบไม่เสี่ยง แถมยังได้รับดอกเบี้ยและลุ้นโชคตลอด 2 ปี สลาก ธอส. ชุดนี้ตอบโจทย์มาก ๆ รีบจับจองได้เลยที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือซื้อง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน GHB ALL GEN ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 

สนใจซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. คลิก 
 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Inbox : m.me/GHBank
G H Bank Call Center โทร. 0-2645-9000 
www.ghbank.co.th