เจ๊เกียว เปิดใจ เตรียมขายธุรกิจรถทัวร์ เชิดชัยทัวร์ กิจการครอบครัวที่ปลุกปั้นมากว่า 6 ทศวรรษ หลังเจอกฤตโควิดระบาด น้ำมันพุ่ง ขาดทุนยับ แถมลูก 4 คน ก็ไม่มีใครอยากจะสืบทอดกิจการ
วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นางสุจินดา เชิดชัย หรือ เจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารขนส่ง เจ้าของอู่รถเชิดชัย และบริษัท เดินรถเชิดชัย เข้ายื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมการขนส่งขอปรับค่าโดยสารอีก 1 สตางค์ต่อกิโลเมตร หลังราคาน้ำมันดีเซลขึ้นราคา 32 บาทต่อลิตร เกินจากที่คำนวณไว้ 27 บาทต่อลิตร
พร้อมเปิดใจว่า ตั้งแต่โควิดระบาด ผู้ประกอบการรถทัวร์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก มีหยุดวิ่งและเลิกกิจการไปเยอะ จากที่มีอยู่กว่า 3,000 คัน ตอนนี้เหลือยู่แค่ 30% เพราะวิ่งไปก็ไม่คุ้ม ไม่มีผู้โดยสารมาใช้บริการ ที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกให้ผู้ประกอบการวิ่งวันละ 1 เที่ยว (ไป-กลับ) ใน 1 จังหวัด ซึ่งแต่ละจังหวัดจะมีรถร่วม 4-5 บริษัทที่สลับวิ่งบริการได้ หากบริษัทใดบริษัทหนึ่งหยุดวิ่ง
ส่วนเชิดชัยทัวร์ ปัจจุบันนำรถวิ่งให้บริการอยู่ประมาณ 20-30% จากทั้งหมดมีอยู่กว่า 200 คัน และหยุดวิ่งบางเส้นทางเป็นการชั่วคราว ในภาคตะวันออกและภาคอีสาน เพราะไม่มีผู้โดยสารรวมถึงลดภาระค่าใช้จ่าย ส่วนรถที่เหลือมีจอดทิ้งไว้และปรับเป็นรถรับจ้างวิ่งรับ-ส่งพนักงานบริษัทและรัฐวิสาหกิจ ส่วนพนักงานบริษัทนั้น ไม่มีเงินเดือนให้ จะมีเฉพาะค่าเบี้ยขยันให้เท่านั้น
พร้อมเปิดใจว่า ตั้งแต่โควิดระบาด ผู้ประกอบการรถทัวร์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก มีหยุดวิ่งและเลิกกิจการไปเยอะ จากที่มีอยู่กว่า 3,000 คัน ตอนนี้เหลือยู่แค่ 30% เพราะวิ่งไปก็ไม่คุ้ม ไม่มีผู้โดยสารมาใช้บริการ ที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกให้ผู้ประกอบการวิ่งวันละ 1 เที่ยว (ไป-กลับ) ใน 1 จังหวัด ซึ่งแต่ละจังหวัดจะมีรถร่วม 4-5 บริษัทที่สลับวิ่งบริการได้ หากบริษัทใดบริษัทหนึ่งหยุดวิ่ง
ส่วนเชิดชัยทัวร์ ปัจจุบันนำรถวิ่งให้บริการอยู่ประมาณ 20-30% จากทั้งหมดมีอยู่กว่า 200 คัน และหยุดวิ่งบางเส้นทางเป็นการชั่วคราว ในภาคตะวันออกและภาคอีสาน เพราะไม่มีผู้โดยสารรวมถึงลดภาระค่าใช้จ่าย ส่วนรถที่เหลือมีจอดทิ้งไว้และปรับเป็นรถรับจ้างวิ่งรับ-ส่งพนักงานบริษัทและรัฐวิสาหกิจ ส่วนพนักงานบริษัทนั้น ไม่มีเงินเดือนให้ จะมีเฉพาะค่าเบี้ยขยันให้เท่านั้น
รับถอดใจธุรกิจรถทัวร์ ที่ครอบครัวปลุกปั้นมากว่า 6 ทศวรรษ เตรียมขายแต่ยังตกลงกันไม่ได้
เจ๊เกียว เผยว่า ทำธุรกิจรถทัวร์มา 65 ปีแล้ว เป็นธุรกิจครอบครัว ตอนนี้รายได้ไม่มีเหลือเลย ถ้าหากนำรถออกวิ่งทุกคันในตอนนี้ ตนต้องรับภาระขาดทุนน้ำมันเดือนละ 4 ล้านบาท คงไม่ไหว เลยต้องวิ่งบ้าง หยุดบ้าง สลับกันไป เพราะวิ่งไปก็ไม่มีคนรวมถึงพฤติกรรมคนเปลี่ยนไป ไม่ค่อยนั่งรถทัวร์
ทั้งนี้ ธุรกิจรถทัวร์ได้รับผลกระทบตั้งแต่ปี 2560 จากโลว์คอสต์ ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2563 เจอโควิดระบาด ทำให้คนเปลี่ยนไปใช้รถส่วนตัว ไม่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเหมือนเมื่อก่อน จากสภาพธุรกิจรถทัวร์ที่ขาลง ประกอบกับอายุที่มากขึ้นทำให้ตนเริ่มจะถอดใจธุรกิจที่ครอบครัวปลุกปั้นมากว่า 6 ทศวรรษ
อย่างไรก็ตาม ตนจะขายกิจการเดินรถทัวร์ เพราะอายุปีนี้ก็ 85 ปีแล้ว ส่วนลูก 4 คน ก็ไม่มีใครอยากจะสืบทอดกิจการ จึงคิดว่าขายดีกว่า ซึ่งที่ผ่านมามีคนมาเจรจาขอซื้อ แต่ยังตกลงกันไม่ได้ เพราะเกี่ยงไม่เอารถ เอาแต่โควตาเดินรถอย่างเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้
